เกร็ดหมาย : การข่มขืนกระทำชำเรา...จะเอาผิดเขาถึงประหารชีวิตได้หรือไม่

ทุกวันนี้ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะเรื่องการข่มขืนกระทำชำเรา ยังคงมีความรุนแรง อยู่อย่างต่อเนื่อง และมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือในอินเตอร์เน็ตให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ก็มีข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุสามขวบ นับว่าเป็นข่าวที่สะเทือนจิตใจของผู้อ่านและผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก

การถูกข่มขืนกระทำชำเรา นอกจากจะมีผลกระทบต่อร่างกายโดยตรงแล้ว ก็มีผลกระทบต่อจิตใจอย่างแสนสาหัสอีกด้วย โดยเฉพาะหากเกิดในผู้หญิง สำหรับบางท่านความเลวร้ายนั้นส่งผลให้ถึงขั้นตายทั้งเป็นได้เลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ มิใช่ว่าการข่มขืนกระทำชำเราจะจำกัด เกิดขึ้นในเฉพาะผู้หญิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เเต่การข่มขืนกระทำชำเรา ก็อาจจะเกิดขึ้นได้กับผู้ชายได้เช่นกัน ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทางสำนักข่าว BBC ได้ทำสกู๊ปข่าว เกี่ยวกับ การที่ผู้ชายตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศของผู้หญิงเสียเอง ก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันไป บางความคิดเห็นก็มีความรู้สึกเห็นใจ และรู้สึกสะเทือนจิตใจ แต่บางความคิดเห็นกลับคึกคะนองมองเป็นเรื่องตลกไปเสียว่าชายจะถูกหญิงข่มขืนได้อย่างไร

เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกัน ข่มขืนกระทำชำเรา คือ การสนองความใคร่ของผู้กระทำ ซึ่งอีกฝ่ายมิได้ให้ความยินยอมพร้อมใจด้วย โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำ ล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น

เมื่อกฎหมายได้กำหนดครอบคลุมสิทธิ์ไปถึงทุกคน การข่มขืนกระทำชำเรา นอกจากเกิดขึ้นกับผู้หญิงแล้ว  ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ชายได้เช่นกัน รวมถึงบุคคลที่ไม่ว่าจะมีเพศสภาพเป็นเช่นใดก็ตามก็ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายอาญาในบทนี้ ถึงแม้ว่าจุ๊มุ ดันมีเลือดสูบฉีดจะพร้อมรับจิ๊มิ ก็ตาม แต่หากชายผู้นั้นมิได้เต็มใจ หรือสมัครใจที่จะยอมทำตามประสงค์ของหญิง ก็ถือว่าเป็นการข่มขืนกระทำชำเราอยู่ดี

ประเด็นที่ 2. การรณรงค์เเคมเปน ให้ ข่มขืน เท่ากับ ประหาร

การข่มขืนกระทำชำเราจะมีโทษอย่างไร ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้บัญญัติไว้ รอให้เราไปศึกษาได้ ดังนั้นนี้เลยครับ

มาตรา 276 วรรคแรก บอกว่า ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษ จำคุก 4 - 20 ปี และ ปรับ 80,000 - 400,000 บาท

บทความผิดแรกของกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเพศนี้ ถือว่ามีอัตราโทษที่สูงพอสมควรทีเดียว

ต่อมาที่ มาตรา 276 วรรคสอง เป็นบทที่เพิ่มโทษหนักขึ้นหาก การกระทำตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยทำให้ ผู้ถูกกระทำ "เข้าใจว่า" ผู้กระทำมีอาวุธปืน หรือ วัตถุระเบิด วรรคนี้เป็นบทหนัก แต่ยังไม่ถึงขั้นโทษประหารชีวิต

ไปต่อที่ วรรคต่อไปครับ มาตรา 276 วรรคสามนี้ เป็นบทที่เพิ่มโทษหนักกว่าวรรคสอง ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยมีอาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธนั้น หรือ รุมโทรม วรรคนี้ไม่ใช่แค่ "เชื่อว่ามี" แต่ "ใช้อาวุธ" ให้เห็นเลย แต่...ก็ไม่ถึงขั้นโทษประหารชีวิตครับ

ตามมาที่ มาตรา 277 ทวิ บอกว่า ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 276 วรรคหนึ่ง... เป็นเหตุให้

1 รับอันตรายสาหัส จำคุก 15 - 20 ปีและปรับ 300,000 - 400,000 บาท

2 ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เอาละครับ ความผิดถึงขั้นประหารมาแล้ว

และถัดมา มาตรา 277 ตรี บอกว่า ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 276 วรรคสาม... เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ

1 รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

2 ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต

จากมาตราที่ยกมาประกอบนี้ มีเหตุที่จะได้รับโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต 3 กรณีเลยนะครับ ดังนั้น การรณรงค์แคมเปนดังกล่าว หากพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญาแล้วก็พบว่า ถึงจะไม่มีแคปเปนดังกล่าว การข่มขืนก็มีโทษถึงขั้นประหารชีวิตอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้จะให้ทุกฐานความผิดเกี่ยวกับเพศมีอัตราโทษประหารชีวิตทั้งหมดเลยนั้น โดยความเห็นส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยนะครับ เพราะแต่ละมาตรามีการกำหนดความหนักเบาของโทษที่ควรจะลงแก่ระดับความผิดของผู้กระทำ ที่ผู้ร่างกฎหมายได้คิดวิเคราะห์ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว ดังคำว่า "ผู้กระทำความผิดสมควรได้รับโทษตามความผิดที่ตนได้กระทำเท่านั้น" ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายมีจุดประสงค์คือ มุ่งเยี่ยวยาผู้เสียหายและลงโทษผู้กระทำความผิดให้หลาบจำ มิใช่ทำการลงโทษเพื่อสนองความต้องการของสังคมแต่อย่างใด

แต่เพราะเหตุใด เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ในบางคดีผู้กระทำผิดถึงไม่ได้รับโทษถึงประหารชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการพิจารณาคดีอาญาของศาล จะถือพยานหลักฐานเป็นหลัก มิได้ลงโทษตามความรู้สึก อีกทั้งโทษทางอาญาเป็นบทลงโทษที่มีผลกระทบต่อสิทธิของบุคคล ดังนั้นการที่จะลงโทษบุคคลใด จะต้องปรากฎหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ศาลจึงกล้าที่จะพิพากษาลงโทษอย่างสบายใจ ส่วนจำเลยก็จะได้รับโทษอย่างหมดข้อสงสัยว่าตนทำผิดอะไร แต่ถ้ามีเหตุใดที่ยังสงสัยซึ่งสร้างความเอ๊ะอยู่ในจิตใจ ศาลจะเลือกที่จะยกฟ้องจำเลยเสีย จะปลอดภัยกว่า ดั่งคำว่า "ปล่อยตัวคนผิดสิบคน ดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว"

ปัจฉิมลิขิต : ล่าสุดมีข่าวว่า กรรมาธิการวิสามัญเร่งผลักดันแก้ปัญหาข่มขืน ยื่นหนังสือต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอฉีดอวัยวะเพศให้ฝ่อ เพิ่มโทษคดี แก้ปัญหาข่มขืนกระทำชำเรา เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป หากมีโอกาสหน้าจะนำมาแชร์กันฟังนะครับ

ขอบคุณภาพประกอบ จากเว็บ wallpapercave : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 ครับ...ขอบคุณครับ