เชื่อว่าหลายคน อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยหาวิถีทางต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง การทำเช่นนี้ถืือได้ว่าเป็นเส้นทางที่ดีเหมือนกัน แต่อย่างไรล่ะ ? ที่ความสำเร็จนั้นจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพ แนวคิดจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถือได้เป็นแนวคิดที่น่ายกย่อง อันเนื่องมาจากเป็นการคิด ผ่านประสบการณ์จากผู้คนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในชีวิต มีคำกล่าวจากศาสตราจารย์ประจำภาคประวัติศาสตร์ ของฮาร์วาร์ด ที่ว่า "การมีอุดมการณ์ คือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือแม่เหล็กแห่งความสำเร็จ แม้จะมีอุดมการณ์ ก็ไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าไม่มีเป้าหมาย ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง" ฉะนั้น การกำหนดเป้าหมายให้เร็ว อย่างชัดเจน และมุ่งมั่น จึงเป็นทางที่ทำให้ทุกคนมีความโดดเด่นในแบบของตัวเองเรียนเพื่อใคร ? ดูเหมือนเป็นคำถามที่ง่าย ๆ แต่ถ้าจะให้ตอบอย่างจริงจังแล้วละก็ หลายคนก็คงจะใช้เวลาอยู่นาน ศาสตราจารย์ในฮาร์วาร์ด มักถาม คำถามนี้กับนักศึกษาอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักในการเรียนกับนักศึกษาอยู่ตลอดเวลา ว่าตนกำลังทำอะไร ทำเพื่อใคร แล้วที่ทำอยู่นั้นดีพอหรือยัง เพราะแรงจูงใจในการทำอะไรสักอย่างนั้น เกิดจากความคิดที่ว่าเราทำมันไปเพื่อใคร แล้วเมื่อมีแรงบันดาลใจในการเรียนแล้ว แม้แต่ความรู้สึกเหนื่อย ท้อ ห่อเหี่ยวในการเรียนก็จะไม่มี เปรียบเสมือนว่า เเรงจูงใจนั้น ได้เปลี่ยนมาเป็นเชื้อเพลิงที่จะต้องการศึกษาอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่แรงผลักดันยังไม่หมดไป ก็จะไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อเลยแสวงหาความรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ โลเวลล์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คนที่ 22 ได้กล่าวไว้ว่า "การรู้จักตนเองว่าสามารถทำอะไรได้ เป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่รู้ว่าตนไม่สามารถทำอะไรได้นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า" การที่เราไม่รู้ในเรื่องใด ๆ ก็ตาม หรือเป็นจุดด้อยที่ทำให้ขาดความมั้นใจก็ตาม ถือได้ว่าเป็นเส้นทางในการพัฒนาตนเองได้ดีทีเดียว เมื่อเรามองเห็นเป้าหมายแล้ว แต่กลับมีอุปสรรคมากมายนานัปการ นั่นแหละคือเส้นทางที่จะก้าวข้ามไป แลัวทำให้เป็นพัฒนาการที่ดีต่อตัวเราได้ ฉะนั้นควรที่จะวิเคราะห์ในตัวเราเองว่า จุดด้อยคืออะไร อยู่ตรงไหน แล้วใช้ความพยายามเอาชนะ มีคติสอนใจที่กล่าวว่า "การที่ยอมรับได้ว่าตนมีข้อจำกัดอะไร ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่สมบูรณ์แบบ"มองการไกล การมองการไกลเปรียบเสมือนการมองเห็นทางเดิน ส่วนการมีเป้าหมายและการลงมือทำ คงเปรียบเสมือนการเดินทางไปเรื่อย ๆ จนสุดทางเดิน ถ้ายิ่งมองการไกล แล้วเดินไปให้ไกล มันคงจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ฉะนั้นแล้ว หากว่าเป้าหมายของคนคนหนึ่งยิ่งไกล เขาคนนั้นก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่านั้น สิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวันนี้ แต่มันขึ้นอยู่กับเมื่อวานเป็นเหตุ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรุ่งนี้แน่นอน แต่มันขึ้นอยู่กับวันนี้ที่ทำกล้านั่งแถวหน้า ทำไมการนั่งแถวหน้าถึงมีความสำคัญกับการที่จะกำหนดเป้าหมายชีวิต ? ในสังคมเราส่วนใหญ่มักมองว่าการนั่งแถวหน้าสุด ในตอนที่มีอาจารย์หรือผู้ให้ความรู้ นั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะกลัวที่จะถูกตั้งคำถาม ซึ่งมันควรจะเป็นสิ่งที่ดีแล้วไม่ใช่หรือ ? เพราะจะเป็นการทบทวนว่าเรานั้นเข้าใจอะไรไปบ้าง แล้วถามกลับได้เมื่อไม่เข้าใจ และยังเป็นสัญญาณที่ดีด้วยว่าคุณนั้น กำลังเป็นที่สนใจอยู่ด้วย การนั่งแถวหน้านั้น ไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำ แต่เป็นทัศนคติสำหรับคนที่มีเป้าหมายว่าตนจะต้องทำให้สำเร็จ ในสิ่งที่คิดเอาไว้ ไม่มีอะไรสายเกินไป หลายคนมีความฝัน มีเป้าหมาย แต่หลายคนก็ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ อย่างที่รู้ ๆ กันดีว่าความสำเร็จเกิดขึ้นได้เพราะลงมือทำ แล้วทำตอนไหนล่ะ วันนี้ไงล่ะ "ลงมือทำทันที" การลงมือทำทันทีนั้น คือการที่ได้ก้าวเข้าไปสู่ความสำเร็จแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะมันเป็นทัศนคติการทำงนของคนที่จะประสบความสำเร็จ มีคำกล่าวจาก เอเมอร์สัน นักวรรณคดีชื่อดังที่สำเร็จการศึกษาจากฮาร์วาร์ด ที่ว่า "คนที่มุ่งไปสู่เป้าหมายของตนและดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ แม้โลกทั้งใบก็จะหลีกทางให้" เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าได้ผัดวันประกันพรุ่ง เพราะไม่มีอะไรสายเกินไป ณ เวลานี้คือดีที่สุดเครดิตภาพ: โดยผู้เขียนภาพประกอบ: flaticonเครดิตหนังสือ: ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยที่ดีแห่งหนึ่งของโลก สอนวิธีคิด เล่ม 1 "วิชาชีวิตที่ไม่มีในตำรา"