“อำนาจจิต เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนอนาคต” เขียนโดยวิทยากรและนักเขียนชื่อดัง มณฑานี ตันติสุข หรือพี่โจ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ช่วยให้ผู้คนได้ตระหนักถึงอำนาจแห่งจิตที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน และใช้อำนาจจิตในการที่จะบรรลุเป้าหมายในชีวิต หรือเปลี่ยนแปลงอนาคตของตนเองได้ หากได้อ่านหนังสือเล่มนี้และนำวิธีการไปลงมือทำ ชีวิตก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็เป็นปณิธานของผู้เขียน ที่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้สามารถช่วยเปลี่ยนชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะตัวผู้เขียนเองได้ผ่านการใช้วิธีการต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนี้กับตัวเอง และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดีขึ้นมาแล้วนั่นเองเนื้อหาในหนังสือประกอบด้วยอำนาจแห่งจิต 12 ขั้น โดยสรุปออกมาเพื่อให้ได้อ่านกันง่าย ๆ กันดังนี้ค่ะ1. อำนาจแห่งการรู้ว่าคุณต้องการอะไร : การเปลี่ยนแปลงชีวิตจะเกิดขึ้นไม่ได้หากยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการนั้นคืออะไร “เป้าหมายไม่มี วิธีการก็ไม่มา” ใช่ค่ะ ไม่มีเป้าหมายชีวิตก็เท่ากับว่าใช้ชีวิตวันแล้ววันเล่า โดยที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน หลักการทำงานของจิตที่จะช่วยให้คุณถึงเป้าหมายได้ก็คือ คุณต้องรู้ให้ได้เสียก่อนว่าตัวเองต้องการอะไร คุณถึงจะได้มันมา2. อำนาจแห่งการเขียนออกมา : เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณต้องการสิ่งใดในชีวิต แต่แค่รู้มันยังไม่พอค่ะ ข้อนี้ผู้เขียนได้ให้ความสำคัญด้วยการให้เขียนมันออกมา เพราะมันเป็นสัญญาณว่าคุณเอาจริงกับเป้าหมายนั้นนั่นเอง และในหนังสือยังบอกอีกด้วยว่าหากเรายอมสละเวลานั่งลงเขียนมันออกมาได้ แปลว่าเราต้องการมันมากจริง ๆ แล้วเราก็จะมีพลังที่จะทำมันได้สำเร็จ3. อำนาจแห่งการกล้าฝัน : ในข้อนี้เป็นการทลายข้อจำกัดของการที่เราใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่คุ้นเคยและปลอดภัย และไม่กล้าที่จะฝันใหญ่ เพราะดันไปเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งผู้เขียนได้ย้ำให้เขียนรายการสิ่งที่อยากได้จริง ๆ ในชีวิต อย่าประเมินศักยภาพตัวเองต่ำเกินไป เลิกกลัวว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่ให้เขียนออกมาด้วยจากความรู้สึกที่แท้จริงจากหัวใจของคุณ4. อำนาจแห่งการยกระดับความอยากได้ให้เป็นเป้าหมายชีวิต : แค่ความอยากได้มันน้อยไป คุณสามารถเปลี่ยนความอยากได้ อยากเป็น อยากมีเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายชีวิต ซึ่งหลักการตั้งเป้าหมายชีวิตที่หนังสือให้ไว้คือ การต้องมีกำหนดเวลา การที่มีเหตุผลกับตัวเองว่ามันสำคัญกับคุณอย่างไร และการกล้าตั้งเป้าหมายชีวิตให้สูงเข้าไว้5. อำนาจแห่งคำพูดย้ำจิต : เป็นการใช้คำพูดยืนยันกับตัวเอง โดยพูดบ่อย ๆ และต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้จิตใต้สำนึกเชื่อว่าสิ่งนั้นเป็นจริง จิตจึงจะสามารถสร้างสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงได้ การพูดจะเป็นการใช้คำพูดในเชิงบวก เพื่อลบล้างความคิดเชิงลบที่อยู่ในจิต และช่วยทำให้สิ่งที่ปรารถนาเกิดขึ้นได้จริง ที่สำคัญในการพูดนั้นจะต้องใส่ความรู้สึกไปด้วย ราวกับว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แล้ว6. อำนาจแห่งการวาดภาพในจิต : เป็นการจินตนาการภาพความประสบความสำเร็จในเป้าหมายต่าง ๆ ขึ้นมา โดยจะต้องทำการเพ่งจิตไปที่เป้าหมายชีวิตที่เขียนออกมา ให้เห็นภาพสมจริงที่สุด พยายามใส่รายละเอียดของภาพ โดยใช้สัมผัสทั้ง 5 เข้าช่วย และจะต้องใส่ความรู้สึกของตัวเราเข้าไปด้วย โดยจะวาดภาพในจิตตอนที่ทำการพูดย้ำจิต เพราะมันจะช่วยให้จิตรับรู้ได้ดีขึ้นไปอีก9. อำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันให้ตรงกับอนาคตที่อยากได้ : เริ่มต้นจากการพิจารณาเป้าหมายในอนาคตที่คุณต้องการก่อน แล้วกลับมาพิจารณาปัจจุบันของคุณ ซึ่งหากปัจจุบันมันยังดูขัดแย้งกับอนาคต คุณจะต้องเริ่มที่จะเปลี่ยนปัจจุบัน เช่นหากปัจจุบันยังตกงาน แต่อนาคตต้องการจะได้งานที่มั่นคง ก็ต้องเริ่มต้นออกไปหางานทำ ไม่ใช่นั่งรอแต่ความช่วยเหลือจากผู้อื่น นอกจากนี้คุณสามารถทำอะไรก็ได้ในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมายในอนาคตมากขึ้น10. อำนาจแห่งการทลายบล็อกที่ปิดกั้นชีวิต : เป็นการเคลียร์ทุกอย่างที่ขวางทางคุณจากสิ่งที่อยากได้ ส่วนใหญ่มักจะมาจากความเชื่อที่เป็นลบที่ถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อที่มาจากครอบครัวในวัยเด็ก ความเชื่อที่มาจากประสบการณ์ที่ไม่ดีของชีวิตในอดีต วิธีทลายความเชื่อที่เป็นลบคือการปลดปล่อยต้นตอและความเชื่อเก่านี้ไป โดยการพูดย้ำจิตและวาดภาพในจิตร่วมด้วย โดยการบอกกับตัวเองใหม่ว่า มันไม่ใช่ความจริงของฉันอีกต่อไป และให้ความเชื่อใหม่เข้ามาแทนที่11. อำนาจแห่งการค้นพบจุดมุ่งหมายชีวิต : เป็นการค้นพบว่าตัวเราเกิดมาเพื่อจะบรรลุสิ่งใดในชาตินี้ ชีวิตจึงจะรู้สึกอิ่มใจ และเต็มเปี่ยมที่สุด ซึ่งการค้นพบจุดมุ่งหมายชีวิตนี้ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าการตั้งเป้าหมายชีวิต เพราะเป็นการที่อยากทำในสิ่งที่ปราศจากอัตตาตัวตน แต่เป็นการให้ประโยชน์แก่โลกนี้อย่างแท้จริง การค้นพบจุดมุ่งหมายชีวิตเป็นการค้นหาคำตอบด้วยการตั้งคำถามกับตัวเอง คำตอบที่ใช่มักจะมาพร้อมกับความรู้สึกที่มีพลัง หัวใจสั่น และเร่าร้อน ความรู้สึกอยากที่จะทำให้มันเกิดขึ้น12. อำนาจแห่งใจ : พลังที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ขึ้นกับความสามารถทางด้านร่างกาย แต่มันขึ้นอยู่กับใจ หากขาดซึ่งอำนาจแห่งใจ จะทำให้อำนาจจิตทั้ง 11 ขั้นไม่สามารถไปต่อได้ตลอดรอดฝั่ง การฝึกพลังของใจด้วยการฝึกจิต ให้มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง โดยอาจจะให้ย้อนกลับไปคิดถึงความสำเร็จในวัยเด็ก เพื่อให้จิตเชื่อว่าที่ผ่านมาก็เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว และพยายามฝึกจิตให้คุ้นชินกับความสำเร็จเล็ก ๆ ทุก ๆ วันจนกลายเป็นนิสัยการอ่านหนังสือเล่มนี้มันทำให้เราได้กลับมาชัดเจนกับเป้าหมายของตัวเองมากขึ้น สิ่งที่ชอบในหนังสือเล่มนี้คือ พี่โจใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และมีการยกตัวอย่างอ้างอิงเพื่อเป็นกรณีศึกษาในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ในหนังสือจะมีคำคมต่าง ๆ สอดแทรกในเนื้อหาตลอดทั้งเล่ม เพื่อให้ผู้อ่านได้ฉุกคิด เข้าใจอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ที่ขาดไม่ได้คือ แบบฝึกหัดบทที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อให้ผู้อ่านเกิดการถามตอบในตัวเอง และสามารถนำคำตอบเหล่านั้นไปใช้ นำไปลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต หรือไปถึงซึ่งเป้าหมายที่ต้องการค่ะหนังสือเล่มนี้นับได้ว่าเป็นหนังสือที่มีคุณภาพอัดแน่น และควรค่าแก่การอ่านเล่มหนึ่ง มีจำนวน 336 หน้า ราคาเล่มละ 299 บาท สามารถหาซื้อตามร้านหนังสือทั่วไป หรือสามารถสอบถามจาก เพจ : Montaneemoneysmart อย่าลืมซื้อหามาอ่านกันให้ได้นะคะภาพโดย pintas (ผู้เขียนเอง) : ภาพปก / ภาพประกอบ1 / ภาพประกอบ2 ออกแบบปกโดย canva.comและขอขอบคุณภาพจาก pixabay : ภาพประกอบ3 / ภาพประกอบ4 / ภาพประกอบ5ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก pintas