มีจำนวนคนไม่น้อยเลยนะที่สับสนระหว่างว่า เอ๊ะ!!! ยาหรืออาหาร และอาหารหรือยากันแน่ ที่พอจะรักษาอาการหรือสามารถที่จะทำให้สภาพร่างกายของเราแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยโดยง่าย และแล้ววันนี้เราก็ได้จัดทำบทความที่มีเนื้อหาสาระน่าสนใจมาฝากถึงกลุ่มคนที่ยังคงสับสนวกวนกับการรับประทานยาและอาหาร ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยดีกว่าหลักการ "รับประทานเพื่อบำรุง"ยาจีนเป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่สืบทอดกันมาหลายพันปี เนื่องจากสภาพการดำรงชีวิตในอดีตไม่ดีนัก ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินเพื่อบำรุงสืบทอดกันมา กลายเป็นห่วงสำคัญห่วงหนึ่งในวัฒนธรรมการกิน น้ำซุปชื่อเสินหรือน้ำซุปบำรุงอื่น ๆ พบเห็นได้ทั่วไปตามตลาดกลางคืน หรือเนื้อแพะตุ๋นที่มีส่วนผสมของยาจีน ซึ่งเป็นเมนูประจำในฤดูหนาว อาหารและยามาจากแหล่งเดียวกัน ยาจีนพัฒนามาจากอาหาร หมอจีนต้องชิมรสชาติสมุนไพรเป็นร้อยอย่างเพื่อแยกแยะฤทธิ์ของมัน สมุนไพรมีฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรงจะถูกจัดเป็นยา เช่นหวงเหลียน ที่มีฤทธิ์เย็นจะถูกนำมาใช้ขจัดและลดความร้อน สมุนไพรบางชนิดที่มีฤทธิ์เป็นกลางก็จะถูกจัดเป็นอาหาร ธัญพืชทั้ง5 และผักผลไม้ที่เรารับประทานบ่อย ๆ ล้วนบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ประโยชน์จากอาหารและยาจึงแตกต่างกันอาหารบำรุงไม่ใช่ยาวิเศษคนจำนวนมากมักจะสับสนระหว่างประโยชน์ของอาหารบำรุงและยาบำรุง เคยมีคนไข้ถามว่า'' คุณหมอคะ ดิฉันป่วยเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก หากรักษาด้วยอาหาร จะทำให้อาการดีขึ้นได้ไหมคะ(?)'' ยามร่างกายปกติ การรับประทานอาหารจะช่วยให้มีสุขภาพดี แต่เมื่อป่วยจะต้องรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยยาเท่านั้นการบำรุงควรพิจารณาจากสภาพร่างกายแต่ละคนการแพทย์แผนจีนกล่าวว่า "ยามีพิษสามส่วน''หมายถึงว่า ยาจีนมีฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรงหากนำมาใช้ไม่เหมาะสมจะส่งผลร้ายต่อร่างกาย จนกลายเป็นพิษต่อคนผู้นั้น เช่น ลำใยแห้ง เป็นยาให้ความอบอุ่นแก่ผู้ที่มีสภาพร่างกายหนาวเย็นและช่วยให้หลับสบาย แต่สำหรับผู้ที่มีสภาพร่างกายร้อน รับประทานแล้วกลับทำให้นอนไม่หลับและอาจมีเลือดกำเดาไหล การรับประทานยาบำรุง ควรพิจารณาจากสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ห้ามบำรุงตามใจชอบ เพราะหากบำรุงไม่เหมาะสม ไม่เพียงไม่บรรลุจุดประสงค์ที่แท้จริง ยังกลับเป็นอันตรายต่อร่างกายจากฤทธิ์ของยาอีกด้วยหลักการรับประทานยาบำรุง1.ผ่านการจัดยาจากแพทย์ การเลือกยาบำรุงจะต้องพิจารณาจากสภาพร่างกายของแต่ละคนทางที่ดีควรผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน และให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายยา2.รับประทานยาบำรุงให้เหมาะสมกับเวลา เฉียนหลงฮ่องเต้เป็นกษัตริย์ที่อายุยืนมากพระองค์หนึ่ง เคล็ดลับการดูแลตัวเองของพระองค์มีเพียงประโยคเดียว "รับประทานยาบำรุงให้เหมาะสมกับเวลา" หมายถึงว่า การรับประทานยาบำรุงควรรับประทานให้เหมาะกับ ฤดูกาล สถานที่ และเวลา ไม่ใช่ยาบำรุงชนิดหนึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายก็กินได้ไม่เลือกเวลาและฤดูกาล3.ไม่ใช่บำรุงมากจะยิ่งดี ในช่วงที่รับประทานยาบำรุง ไม่ควรรับประทานยาอื่น ๆ มากเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงระหว่างตัวยา ช่วงที่รับประทานยาจีนบำรุงหากต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันควบคู่ไปพร้อมกันจะต้องถามความเห็นของแพทย์แผนจีนก่อนเสมอ4.ข้อควรระวัง ขณะรับประทานยาจีนบำรุง ควรหลีกเลี่ยงอาหารฤทธิ์หนาวเย็น ชา กาแฟ เหล้า หรืออย่างน้อยทิ้งช่วงเวลาให้ห่าง 2 ชั่วโมงขึ้นไป เมื่อกินยาจีนบางชนิดจะต้องระวังเรื่องอาหารอย่างมาก เพื่อไม่ให้ลดสรรพคุณของฤทธิ์ยา เช่น หากรับประทานโสมจะต้องไม่รับประทานหัวไช้เท้าหรือชาจีนในเวลาเดียวกัน ไม่อย่างนั้นสรรพคุณของโสมจะลดลงความเชื่อที่ผิดของการเลือกรับประทานเพื่อบำรุง คนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่ายายิ่งแพงยิ่งดีต่อร่างกาย ด้วยแนวคิดที่ว่าสินค้าที่มีน้อยชิ้นจะราคาแพง จึงทำให้รังนกหรือหูฉลามมีราคาสูง เนื่องจากคนในสมัยก่อนมีความต้องการมากแต่กลับมีผลผลิตน้อยแล้งคงามจริงของราคาสูงจะดีเสมอไปหรือไม่(?)ความเชื่อผิด ๆ ของการรับประทานเพื่อบำรุงปกติคนส่วนมากแล้วก็เชื่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแหละว่าการที่อะไรราคาแพงหรือราคาสูงนับเป็นสิ่งที่ดี ด้วยแนวคิดที่ว่าอาหาร ของกินได้ที่มีจำนวนน้อยชิ้นจะมีราคาที่แพง เลยทำให้รังนกมีราคาสูง เพราะจากคนในสมัยก่อนมีความต้องการมากแต่กลับมีผลผลิตที่น้อยแล้วความเจริญของราคาสูงจะดีเสมอไป เป็นเช่นไรกันกันบ้าง เริ่มเข้าใจกันขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะทุกคน ทางเราเองก็เคยนะนะที่สับสนว่า เอ๊ะ!!!จะเลือกอะไรดีอีกมือก็ยา อีกมือก็อาหาร แล้วคุณล่ะคิดเข้าใจกันแบบไหนและถ้าชื่นชอบบทความนี้ก็อย่าลืมlike และ Share เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคเขอขอบคุณภาพภาพประกอบที่ 1ขอบคุณ Canva /ภาพประกอบที่ 2 โดยนักเขียน /ภาพประกอบที่ 3 โดยนักเขียน/ภาพประกอบที่ 4 โดยนักเขียน /ภาพประกอบที่ 5 โดยนักเขียน /ภาพประกอบที่ 6 โดยนักเขียน