หลายคนมักมีปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่พอสมควร ทั้งเครียดสะสม ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงาน การเรียน นอนไม่หลับ น้ำหนักขึ้น รูปร่างไม่ค่อยดี ป่วยไข้บ่อย ผิวพรรณไม่สดใส ขับถ่ายไม่เป็นปกติ รวมทั้งสมรรถภาพทางร่างกายด้านต่าง ๆ ลดลง ซึ่งปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้คือการขาดการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ การรับประทานอาหารที่มีแระโยชน์ และที่สำคัญคือขาดการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพการออกกำลังกายแน่นอนว่าหลายคนรู้กันเป็นอย่างดีว่ายิ่งออกกำลังกายและทำอย่างต่อเนื่องยิ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของตัวเราเอง แต่หลายคนก็มักจะพบว่าการเริ่มออกกำลังกายในครั้งแรกที่ว่ายากแล้ว การออกำลังกายให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องยิ่งยากขึ้นไปอีก วันนี้จึงมีวิธีสร้างนิสัยและแรงบันดาลใจ 8 วิธี ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้ลองใช้และปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายและสามารถทำจนกลายเป็นกิจวัตรในทุก ๆ วัน1. พิจารณารูปร่างและสุขภาพตัวเองและสร้างเป้าหมายว่าเราอยากมีรูปร่างแบบไหน สุขภาพอย่างไร เนื่องจากผู้เขียนนอนไม่หลับ แลอ่อนเพลียบ่อย ป่วยง่าย และง่วงนอนตอนนั่งทำงานในช่วงบ่ายประจำ แถมมีขนาดพุงที่เริ่มใหญ่ขึ้น ไขมันตามร่างกายเริ่มเยอะขึ้น จึงลองมองรูปดารานักร้อง นายแบบ นางแบบ หรือคนอื่น ๆ ในวัยไล่เลี่ยกันที่รูปร่างดี เพื่อตั้งเป้าหมาย ว่าเราจะต้องมีรูปร่างที่ดี ไม่มีพุง สุขภาพแข็งแรง 2. สร้างแรงบันดาลใจ เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดแล้วก็ต้องสร้างแรงบันใจเพื่อให้สามารถพาตัวเราให้ไปสู่เป้าหมายได้ เมื่อคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำให้ได้!3. มีเป้าหมายชัด แรงบันใจเริ่มมา ก็ต้องกำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะออกกำลังเวลาไหน อาจจะเป็นช่วงเช้าของทุก ๆ วัน หรือช่วงเย็นหลังเลิกงานหรือเลิกเรียน4. กำหนดสถานที่ออกกำลังกายให้ชัดเจนแน่นอน เช่น จะไปออกกำลังที่ฟิตเนส หรือออกกำลังกายที่บ้าน หรือที่สวนสาธารณะ ซึ่งหากมีการกำหนดเวลารวมถึงสถานที่ที่ชัดเจนจะทำให้เกิดความเป็นปกติ หรือความเคยชิน เช่น ออกกำลังกายในตอนเช้า ของทุกวัน จะทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติเพื่อลุกขึ้นมาออกกำลังกายในสถานและช่วงเวลาคุ้นชิน 5. ลดเงื่อนไขทางลบ เช่น ไม่เลือกที่ออกกำลังกายที่อยู่ไกลบ้าน หรือไกลที่ทำงาน เกินไปเพื่อลดปัญหาการเดินทางที่อาจไม่อยากทำให้ออกกำลังกาย และไม่ควรผูกเงื่อนไขการออกกำลังกายไว้กับผู้อื่น เช่น ไม่ควรไปกับกลุ่มเพื่อนเพราะจะกลายเป็นมัวแต่คุยเล่นสนุกสนานกัน หรือวันไหนที่เพื่อนไม่ไปออกกำลังกายก็หาเหตุให้ไม่ไปเช่นกัน จนเกิดความขี้เกียจในท้ายที่สุด6. สร้างเงื่อนไขทางบวก โดยในส่วนของผู้เขียนเลือกที่จะไปออกกำลังกายในฟิตเนส เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องเสียเงินสมัครค่าสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายพอสมควร เมื่อมีเงื่อนไขเรื่องค่าใช้จ่ายก็ต้องออกกำลังกายให้คุ้มกับเงินที่เสียไป จึงทำให้วันไหนที่ไม่ได้มาออกกำลังกายที่ฟิตเนสจะเกิดความรู้สึกขาดทุนและเสียดายเงินในทันที ดังนั้นเพื่อไม่ให้รู้สึกผิดต่อเม็ดเงินที่เสียไปซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หามาได้ง่ายดายโดยเฉพาะในยุคนี้ จึงต้องลากตัวเองมาออกกำลังดายให้ได้ในทุกวัน แม้วันละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี7.ให้รางวัลหลังออกกำลังกาย หลังออกกำลังกายมักเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ผ่อนคลาย หรือที่หลายคนรู้กันดีว่ามันคือการหลั่งสารเคมีบางอย่างในสมองที่เรียกกันว่าสารแอนโดรฟิน ซึ่งทำให้ร่างกายฟิน โล่ง บางเบาอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งนอกจากสิ่งนี่จะเป็นการได้รางวัลจากการออกกำลังกายโดยตรงแล้ว เราควรเพิ่มรางวัลหลังออกกำลังกาย เช่น ออกกำลังกายแล้วไปทานของอร่อยที่อยากทาน (แบบพอดี ไม่มากเกินไป) หรือออกกำลังกายเสร็จค่อยไปเที่ยว ไปชอปปิง ดูหนัง หรือซีรีส์เรื่องโปรด เป็นต้น8. ลงมือทำทันดี ข้อนี้สำคัญที่สุด หากเราอยากออกกำลังกายอย่ามัวทำสิ่งใด ให้วางโทรศัพท์และโลก Social เปลี่ยนชุดและลุกมาออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่ง เดิน เต้น ฯลฯ เพื่อให้หัวใจสูบฉีด เรียกเหงื่อให้ท่วมตัว ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วสำหรับในส่วนตัวของผู้เขียนมักเลือกออกกำลังกายในตอนเช้าหลังตื่นนอนของทุกวัน โดยตื่นนอน 6.00 น. หลังจากนั้นไปฟิตเนสแถวบ้าน ถึงฟิตเนสประมาณ 6.30 น. ออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นอาบน้ำแต่งตัวที่ฟิตเนส (ประหยัดน้ำที่บ้านอีกด้วย!) พร้อมเดินทางไปที่ทำงาน ทานอาหารเช้า และเริ่มทำงาน 9.00 น. ซึ่งผลปรากฏว่าอาการง่วงเหงาหาวนอนลดลงและเริ่มหายไปโดยปริยาย แถมสมองมันแล่นขึ้น กระปรี้กระเปร่าขึ้น ซึ่งใครที่อยากออกกำลังกายแต่ขี้เกียจ หรือไม่รู้จะทำอย่างไรให้สามารถออกกำลังกายได้อย่าวต่อเนื่อง ก็ลองนำวิธีการตั้ง 8 ข้อไปประยุกต์ใช้ได้ ภาพประกอบจาก Unsplash ภาพหน้าปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4