อื่นๆ

หลับในปั๊มร้าง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
หลับในปั๊มร้าง

หลังจากเจอจังๆ กับเรื่องผีหัวขาดครั้งแรกในชีวิต ผมก็เจอกับเรื่องแปลกๆ อีกหลายครั้งซึ่งอาจจะเป็นเพราะดวงตกสุดขีดหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ทางร้านได้รับติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ให้กับลูกค้าที่พัทยา ผมจึงมีหน้าที่ไปเซ็ตระบบเครือข่ายตามหน้าที่ปกตินี่แหละครับ เมื่อทราบว่าได้ไปพัทยา จึงถือโอกาสนี้ชวนครอบครัวและเพื่อนไปด้วยกัน และวันที่ไปก็ตรงกับเสาร์ อาทิตย์ เพื่อนที่ทำงานด้วยกันอีกสองคนเลยขอตามไปด้วย นัยว่าขอไปช่วยแต่ที่จริงคงจะอยากไปเที่ยวทะเลมากกว่า ในการเดินทางครั้งนี้จึงมีเพื่อนร่วมทางไปกัน 7 คน นั่งในตอนหน้าและแคป 4 คน นั่งหลังกระบะ 3 คน ในการเดินทางไปนั้นก็เดินทางอย่างราบรื่น ปลอดภัยดี เมื่อไปถึงสถานที่ทางร้านที่จ้างก็ดำเนินการจัดร้านไว้เรียบร้อยอย่างดีทำให้ทำงานเสร็จภายในวันเดียวเท่านั้น เพื่อนๆและครอบครัวก็สนุกสนานกันอย่างเดียว ไอ้คนที่ขอมาช่วยงานก็เมาแป้ดอย่างเดียว เมื่อเซ็ตระบบเสร็จพวกเราก็พักกันที่พัทยา 1 คืน โดยการพักที่นี่ราบรื่นดี ไม่มีเรื่องอะไรกวนใจเลย

Advertisement

Advertisement

เมื่อตื่นเช้าวันใหม่อีกวัน แฟนผมก็ชวนเข้า กทม เพื่อไปเดินจตุจักรกัน เพราะพวกเราเป็นคนบ้านนอก นานๆ จะมีโอกาสว่างเข้ามาใกล้กรุงเทพฯขนาดนี้แล้ว งานก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะเข้าเมืองหลวง ดูความเจริญของบ้านเมืองกันบ้าง เมื่อตกลงกันแล้วพวกเราก็เดินทางเข้ากรุงกันทันที และตามประสาบ้านนอกเข้ากรุง และไม่เคยขับรถในกรุงเทพฯมาก่อน หลงทางซิครับ สมัยนั้นไม่มี GPS มีแต่แผนที่ที่แวะซื้อในปั๊มระหว่างทางเข้ามา กทม. แผ่นเดียวเท่านั้น และไม่มีใครรู้ด้วยว่าตลาดจตุจักรอยู่ตรงไหน วนเล่นในเมืองกรุงกันซักพัก เพลิดเพลินกับการดูความเจริญของเมืองหลวงด้วยความหัวร้อนกันสุดๆ (555) จนในที่สุดก็โดนจราจรเรียกจนได้ เพราะขับรถทับเส้นทึบ งึกๆ งักๆ แต่โชคคงจะเข้าข้างอยู่บ้าง เมื่อตำรวจหนุ่มคนนั้นเป็นตำรวจใหม่ และถามเราด้วยสำเนียงที่คุ้นๆ เพื่อนที่นั่งมาด้วยก็เลยทักเป็นภาษาสำเนียง ซุโข๋ทัย เข้าให้ ทีนี้เลยสงภาษากันใหญ่ จากที่คิดว่าซวย กลับกลายเป็นตำรวจบอกทางให้ซะดิบดี ทำให้พวกเราเดินทางกันไปจนถึง "ตลาดจตุจักร" จนได้

Advertisement

Advertisement

เมื่อเดินตลาดนัดขนาดมหึมาที่ได้ชื่อว่า "ใหญ่ที่สุดในประเทศ" กันจนหนำใจแล้วซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าหนำใจก็ไม่น่าจะเหมาะกับซักเท่าไรนัก เรียกว่า ขาลากดีกว่า ก็ได้เวลาเดินทางกลับกัน ซึ่งผมยอมรับเลยว่า เหนื่อยสุดๆ เมื่อทุกคนกลับมากันที่รถแล้วพวกเราก็เดินทางกลับพิษณุโลกกันทันที (ตอนนี้ผู้อ่านคงสงสัยแล้วว่า เมื่อไหร่ผีจะออกมาซักที 55) ระหว่างการเดินทางกลับนั้น เราก็แวะกันเป็นระยะๆ ทั้งแวะกินข้าว และเข้าห้องน้ำ กันไประทางเข้าทำนองเรี่ยราดทัวร์เลยที่เดียว เผลอแป๊บเดียว เที่ยงคืนแล้วและสถานที่ที่ขับรถผ่านล่าสุดก็คือพยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งผมก็ทั้งเหนื่อย และง่วงมาก แล้วถนนในสมัยนั้นไม่เหมือนสมัยนี้ เป็นถนนเลนเดียว สองข้างทางก็เป็นป่ารก สลับหมู่บ้านเล็กๆ ไปตลอดทางเท่านั้น ยิ่งตรงไปเรื่อยๆ ทางยิ่งรกทึบขึ้นเรื่อย ขับรถไปก็เริ่มจะไม่ไหว เพื่อนร่วมทางก็ไม่มีใครขับรถเป็นซักคน และที่สำคัญ หลับกันหมดแล้ว

Advertisement

Advertisement

ขับได้ซักพัก ก็เห็นปั๊มข้างทางเปิดไฟสว่างไสว มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เปิดไฟสว่างจ้าเลย ผมจึงตั้งใจว่าจะเข้าไปจอดนอนเอาแรงซักงีบ แล้วค่อยไปต่อ เมื่อเข้าไปก็พบว่าในปั๊มมีรถจอดอยู่หลายคัน แต่ก็ไม่สังเกตุอะไรเพราะง่วงมาก เลยแง้มกระจกนิดนึงแล้วก็หลับไป ขณะที่งีบหลับนั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกหลังรถก๊อกๆ ก๊อกๆ เหล่มองกระจกมองหลังก็ไม่เห็นอะไรและด้วยความเหนื่อยและง่วงสุดขีด ก็หลับสนิทเลย นานเท่าไรไม่ทราบได้ พอตื่นขึ้นมา ปรากฎว่า ปั๊มที่จอดนอนอยู่นั้นเป็นปั๊มร้าง ไฟก็ไม่มี ที่สำคัญ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่นั้น รกและมีเถาหญ้าพันรุงรัง ผมใจหายวาบเลย พอได้สติก็สตาร์ทรถออกจากปั๊มนั้นทันที เมื่อเลี้ยวซ้ายออกจากปั๊มไป ถนนก็เป็นถนนเล็กๆ สองข้างทางเป็นป่าอ้อยทั้งหมด ผมกลัวมากๆ และจำไม่ได้เลยว่าถนนเส้นนี้เคยขับมาก่อนหรือเปล่า เพราะถนนจาก นครสวรรค์ไปพิษณุโลกนั้นเป็นถนนที่ใหญ่ และดีกว่าทางที่ผมมานี้ ขับไปค่อยๆ จนเช้า เห็นป้าย ขาณุวรลักษบุรี โอ้โฮ นี่หลงมาซะไกลเลย พอเช้าแล้ว ก็เห็นถนนหนทางดีแล้ว จึงหาที่แวะ ก็โชคดี เจอป้อมตำรวจ เลยแวะไปถามทาง พอจอดรถ เปิดประตูลงไป หันไปมองหลังรถ เพื่อนรุ่นน้องที่นั่งหลังรถบอกว่า "พี่รู้มั๊ย เมื่อคืน มันเดินรอบรถกันเลย เดินวนๆ แต่มันแตะรถไม่ได้ มันก็เดินวนอย่างเดียว ผมสวดมนต์ทุกบทที่ผมคิดได้เลย" ผมได้ยินถึงกับอึ้ง คิดว่าทุกคนหลับหมด น้องมันบอกว่า "ผมเคาะกระจกพี่ก็ไม่ตื่น แล้วอยู่ดีๆ พี่ก็ขับรถออกมา"  จากนั้นผมก็ไปถามทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเดินทางกลับบ้าน และกลับบ้านกันอย่างปลอดภัย แต่ขนหัวลุกกันนิดหน่อย เพิ่มเติมอีกนิด พวกที่ไปด้วยกันอีก 5 คน ไม่รู้เรื่องอะไรกันเลย หลับกันอย่างเดียว รู้แค่ว่าผมขับรถหลงทางเท่านั้นเอง มีผม และเพื่อนที่ทำงานที่เป็นรุ่นน้องเท่านั้น ที่สยองกันแค่สองคน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์