ประเทศไทยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลทั่วโลกมากมาย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อที่จะมาเที่ยวยังประเทศของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และอีกหนึ่งแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียง ต้องยกให้ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์” อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี และจะปิดเกาะงดท่องเที่ยวในช่วงฤดูมรสุมตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 15 พฤศจิกายนของทุกปี การเดินทางมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สามารถมาได้หลายวิธี 1. ซื้อทัวร์กับบริษัทเอกชนมีหลากหลายบริษัทให้เลือก โดยแพ็คเกจจะมีทั้งแบบเที่ยววันเดียน (One day trip) แบบ 2 วัน 1คืน (Overnight) หรือ แบบ 3 วัน 2 คืน ซึ่งสามารถเลือกพักได้ทั้งแบบบ้านพักอุทยานหรือเต๊นท์ ราคาจะขึ้นอยู่กับที่พักที่เลือก วิธีนี้ทางบริษัททัวร์จะจัดการให้เราทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่พัก และโปรแกรมการดำน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย 2. ซื้อเฉพาะตั๋วเรือสปีดโบ้ทกับบริษัทเอกชน แล้วจองบ้านพักหรือเต๊นท์กับทางอุทยานด้วยตัวเองผ่าเว็ปไซด์ของอุทยานแห่งชาติ ส่วนโปรแกรมการดำน้ำเราสามารถจอยกรุ๊ปกับทางอุทยานได้ ซึ่งในแต่ละวันนั้น จะมีเรือหางยาวของทางอุทยานออก 2 รอบต่อวัน (เช้าและบ่าย) ในเรื่องอาหารทางอุทยานจะมีร้านค้าสวัสดิการเปิดให้บริการครบทั้ง 3 มื้อ มีทั้งเป็นเซต และอาหารจานเดียว ราคาค่อนข้างสูงสักหน่อย เพราะทุกอย่างต้องขนมาจากฝั่งนั้นเอง ที่พักในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนอ่าวไม้งาม และโซนอ่าวช่องขาด ทั้ง 2 โซนไม่สามารถเดินถึงกันได้ โซนอ่าวไม้งามจะมีบริการที่พักแบบเต๊นท์เท่านั้น ส่วนโซนอ่าวช่องขาดจะมีบริการที่พักทั้งแบบเต๊นท์และบ้านพักเป็นหลังด้วย ซึ่งถ้าต้องการจองบ้านพักต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนเพราะจะเต็มเร็วมากค่ะ จุดดำน้ำในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีมากมายหลายจุด เช่น อ่าวสับปะรด ปลายแหลมช่องขาด เกาะตอริลลา อ่าวผักกาด หินแพ อ่าวเต่า อ่าวแม่ยาย แหลมกินรี อ่าวสุเทพ และอ่าวไม้งาม ถ้าใครต้องการจะดำน้ำให้ครบทุกจุดนั้นแนะนำให้อยู่สัก 4 วัน 3 คืนนะคะ รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน