วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีถือเป็น วันภาษาไทยแห่งชาติ ซึ่งในแต่ละปี กระทรวงวัฒนธรรม จะมีการมอบรางวัลให้กับบุคคล และองค์กรที่เป็นแบบอย่างการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และในปีนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกของเราอยู่ในภาวะการระบาดของ โควิด-19 การคัดเลือกผู้ที่ได้รางวัลในปีนี้จึงต้องเข้ากับยุคสมัย มีคุณสมบัติสามารถใช้ภาษาไทยสื่อสารในภาวะวิกฤตอย่างสร้างสรรค์ นั่นคือนอกจากจะมีพื้นฐานด้านภาษาที่ดีแล้ว ยังต้องมีการสื่อสารเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปราะบาง โดยรางวัล ผู้ใช้ภาษาไทยสร้างสรรค์ดีเด่น ประจำปีนี้คือ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน หรือ หมอทวีศิลป์ ที่เราคุ้นตากันทางหน้าจอทีวีเป็นประจำ จึงขอพาไปวิเคราะห์การใช้ ภาษาไทย ของหมอทวีศิลป์ว่ามีความโดดเด่น เหมาะสมกับรางวัลที่ได้รับนี้อย่างไร ต้องเกริ่นกันเสียหน่อยว่าการใช้ ภาษาไทย ไม่ได้แค่เพียงการออกเสียงอักขระชัดเจน แต่ในเกณฑ์การคัดเลือกนั้นจะครอบคลุมหลักพื้นฐานการสื่อสารที่ประกอบด้วยการ พูด - ฟัง - อ่าน - เขียน และทักษะการสื่อสารที่เหมาะกับสถานการณ์โรคระบาดในภาวะวิกฤต ที่ผู้สื่อสารต้องระมัดระวังการใช้ถ้อยคำเป็นพิเศษ และคุณสมบัติดังที่กล่าวมา นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้รับคะแนนอย่างท่วมท้นด้วยบทบาทโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ตามที่เราเห็นอยู่หน้าจอทีวีในช่วงสายอยู่เป็นประจำ ได้รับคำชมจากทุกฝ่ายในการทำหน้าที่รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ และข่าวสารที่สำคัญ ได้อย่าง ชัดเจน นุ่มนวลชวนฟัง เริ่มจาก ทักษะการพูด หมอทวีศิลป์นอกจากโทนเสียงที่มีน้ำหนักสูง-ต่ำ การพูดไม่สะดุดฟังดูลื่นไหล และการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ ร.เรือ , ล.ลิง ที่ชัดเจน ยังมีทักษะการพูดที่รู้จักเล่นคำ เช่นพูดถึงจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อว่า ป้อมยังไม่แตก เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดว่า พ่อเมือง เรียกหมอ , พยาบาลว่า ทัพหน้า ทำให้การแถลงประจำวันที่กินเวลานับชั่วโมงไม่น่าเบื่อ กลายเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ถ้าสังเกตสีหน้าให้ดีจะพบว่าคุณหมอจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ผู้ฟังไม่เครียดจนเกินไป ทักษะที่สำคัญลำดับต่อไปคือ การฟัง คุณหมอทวีศิลป์แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ฟังที่ดี และมีทักษะการฟังที่ยอดเยี่ยม ในช่วงของการตอบคำถามนักข่าวจะปล่อยให้ผู้ถามพูดจนจบอยู่เสมอ ไม่พูดแทรกตัดบท ใช้ ทักษะการฟัง จับประเด็นของคนถาม และตอบในสิ่งที่ผู้ฟังอยากรู้ได้ชัดเจนไม่คลุมเครือ มีเหตุผลอธิบายว่าสิ่งนี้ทำไมถึงทำได้ ทำไมถึงทำไม่ได้ ซึ่งถือเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสารในภาวะวิกฤตอย่างสร้างสรรค์ ตามโจทย์ที่กระทรวงวัฒนธรรมต้องการ มาถึงเรื่อง ทักษะการอ่าน หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตว่าเวลาที่คุณหมอหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านประกอบจะพูดถึงแหล่งข้อมูลเสมอ ว่ามีเอกสารจากหน่วยงานใด ใครเป็นผู้เขียน เป็นมารยาทที่สำคัญในการยกย่องเจ้าของผลงาน และไม่อ่านข้อมูลจากแผ่นกระดาษมาแบบทั้งดุ้น แต่ใช้ทักษะที่สำคัญของการอ่านคือการ สรุปใจความ หรือที่เราเคยเรียน การย่อเรื่อง ในสมัยเด็ก หลายครั้งที่เห็นคุณหมอทวีศิลป์สรุปเอกสารทั้งหน้าเหลือแค่ไม่กี่ประโยค ให้เราผู้ฟังรับทราบข้อมูลในภาษาพูดที่เข้าใจง่าย การแถลงสถานการณ์ประจำวันครั้งต่อไปลองสังเกตกันดู แล้วไปหาเอกสารต้นฉบับที่คุณหมอพูดถึงมาดูเปรียบเทียบกัน จะเห็นว่าทักษะการอ่านแบบ สรุปใจความ ของคุณหมอนั้นไม่เป็นสองลองใคร จากทักษะ ฟัง - พูด - อ่าน มาถึง ทักษะการเขียน ในการแถลงข่าวเราอาจไม่เห็น แต่คุณหมอมีผลงานวิชาการหลายชิ้นในสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เช่น การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิต แบบบูรณาการในพื้นที่ : ดาวน์โหลด การสำรวจปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพของแพทย์ไทย (ผู้แต่งร่วม) : ดาวน์โหลด การสำรวจปัจจัยเสี่ยงของแพทย์ที่เสียชีวิต (ผู้แต่งร่วม) : ดาวน์โหลด การสำรวจภาวะสุขภาพ (ผู้แต่งร่วม) : ดาวน์โหลด ปัจจัยที่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของแพทย์ไทย (ผู้แต่งร่วม) : ดาวน์โหลด ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นใช้ ทักษะการเขียน ที่เข้าใจง่ายเช่นเดียวกับการพูด เราไม่พบจุดผิดพลาด หรือความบกพร่องเลย นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จึงนับได้ว่าเหมาะสมกับรางวัล ผู้ใช้ภาษาไทยสร้างสรรค์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2563 ของกระทรวงวัฒนธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีในการศึกษา นำมาพัฒนาให้เรามีทักษะการสื่อสารด้านภาษาไทยที่ดี เพื่อรักษาเอกลักษณ์ประจำชาติ และการติดต่อสื่อสารที่ถูกต้อง ช่วยกันดูแล ภาษา อันเป็นมรดกล้ำค่า ให้อยู่คู่ประเทศไทยอีกนานเท่านาน.. ไปทำความรู้จักกับ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้ที่ Facebook : ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ภาพประกอบโดย ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4