อื่นๆ

หนึ่งวันของฉัน...ควรมี 48 ชั่วโมง!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
หนึ่งวันของฉัน...ควรมี 48 ชั่วโมง!

ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเสมอว่า เราทุกคนสามารถจะทำอะไรก็ได้ที่เราอยากจะทำ ตั้งแต่เด็กแม่ของผู้เขียนเองบอกและย้ำเสมอว่า "สิ่งไหนที่คนอื่นทำได้ เราก็ควรจะทำได้เหมือนกัน" คำนี้สร้างทั้งแรงบบันดาลใจและแรงกดดันบางอย่างที่ผลักดันให้ตัวผู้เขียนมักจะทำอะไรด้วยตนเองเสมอ และเชื่อเสมอว่าเราเก่งและสามารถทำได้ทุกๆ อย่างที่อยากจะทำ เป็นได้ทุกอย่างที่อยากจะเป็น ถ้าเราไม่กล้า ถ้าเราไม่ลองลงมือทำ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราทำได้หรือไม่ได้


ปัจจุบันผู้เขียนทำงานประจำ เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และหลังเลิกงานหรือเวลาว่าง ผู้เขียนมีกิจกรรมที่ทำเยอะมาก และมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำ ก็ได้แต่คิดว่า เวลาในแต่ละวันทำไมน้อยจังเลย

แรงบันดาลใจแรกที่ผลักดันให้ผู้เขียนทำหลายสิ่งหลายอย่าง นั่นคือ "ความสุข" และ "เงิน" ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ทำในสิ่งที่รักและชอบอีกทั้งยังได้เงินอีกด้วย

Advertisement

Advertisement


การวาดภาพ
ภาพวาดผู้เขียนเองอาจเรียกได้ว่าการเริ่มวาดภาพ ไม่ได้เริ่มจากความชอบ แต่ที่อยากวาดให้ได้เริ่มจากพี่ชาย และการอยากได้รับการยอมรับ สมัยเด็กพี่ชายของผู้เขียนเป็นตัวแทนโรงเรียนเพื่อเข้าประกวดวาดภาพ เค้าวาดเก่งมีไอเดียดี ส่วนผู้เขียนก็มีคุณครูผู้ฝึกสอนเรียกไปทดสอบแต่ไม่ได้รับคัดเลือก จากนั้นเมื่อเห็นพี่ชายทำได้ดี ก็อยากทำได้บ้าง เมื่อเห็นพี่ชาย และเพื่อนที่ได้รับคัดเลือกไปประกวด รู้สึกว่าอยากเป็นแบบนั้นมากๆ อยากได้รับคำชมเชย รู้สึกว่าเค้าเก่ง จึงหัดวาด หัดเขียนเอง บางครั้งก็ถามเทคนิคจากพี่ชายบ้าง จนเมื่อเข้ามัธยมก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียนเข้าประกวดวาดภาพเหมือนกันกับพี่ชายตอนนั้นจำได้ว่าดีใจมาก ตั้งใจมาก ก็ได้รับรางวัลเหรียญทองบ้าง เหรียญเงินบ้าง จนปัจจุบันผู้เขียนพูดได้เต็มปากว่า รักการวาดภาพ ตอนนี้ก็มีวาดประมูล และรับวาดภาพเหมือนค่ะ

Advertisement

Advertisement


ทำวุ้นกะทิขาย

วุ้นกะทิหลังจากนั้นก็รู้สึกว่าอยากมีรายได้เพิ่มอีกทางหลังเลิกงานก็น่าจะยังพอมีเวลาว่างจึง เริ่มจากสิ่งที่ชอบเหมือนกัน นั่นคือ ทำขนม ผู้เขียนชอบทานวุ้นกะทิ จึงได้ลองผิดลองถูกจนได้สูตรที่อร่อยลงตัว (ให้หลายๆ คนชิมบอกว่าอร่อย) จากตอนแรกขายแค่กล่องละ 10 บาท จนปัจจุบัน มีวุ้นหลายแบบ หลายราคา และมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ


ทำคุกกี้

คุกกี้หลังจากขายวุ้นได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนๆ ที่อยู่ไกลจากเรา อยู่คนละจังหวัดอยากอุดหนุน แต่เราไม่สามารถส่งไปให้เค้าทานได้ เพราะการขนส่งไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งยังเสียเร็วอีกด้วย จึงรู้สึกว่าต้องมีสินค้าที่เราสามารถขายให้คนเหล่านั้นได้ทานได้  ก็เลยคิดที่จะทำขนมเพิ่ม แต่ต้องเป็นขนมที่อยู่ได้นานขึ้น สามารถส่งสินค้าไปทางไปรษณีย์ หรือบริษัทขนส่งสินค้าอื่นๆ ได้ ศึกษาอยู่นานพอสมควรจากอินเทอร์เน็ต และยูทูป จึงได้ออกมาเป็น คุกกี้เนย และ คุกกี้ไส้สับปะรด ได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวปัจจุบันมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ได้ขายให้เพื่อนที่อยากจะอุดหนุนเรา และขายให้ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดได้อีกด้วย

Advertisement

Advertisement


ผลิตน้ำดื่ม

น้ำดื่มตอนนี้ผู้เขียนมีธุรกิจอีกอย่างที่ทำร่วมกับแฟน นั่นก็คือ การผลิตน้ำดื่ม แต่หลักๆ ธุรกิจตัวนี้ในขั้นตอนการผลิตแฟนจะเป็นคนดูแล และทำเองเกือบทั้งหมด ผู้เขียนก็มีเข้าไปช่วยบ้าง และหน้าที่หลักคือทำบัญชีให้ ช่วยหาลูกค้าเพราะผู้เขียนทำงานที่ค่อนข้างได้พบปะผู้คนจำนวนมาก จึงเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ตอนนี้น้ำดื่มของเราถือว่าเป็นน้องใหม่ เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทน้ำดื่มก่อตัวขึ้นจำนวนมาก ด้วยความที่ประชาชนทั่วไปเลิกดื่มน้ำฝน และหันมาดื่มน้ำที่ผลิตแบบถูกต้องและมีคุณภาพ เราจึงต้องพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อตีตลาดให้ได้ค่ะ


ขายปลาหมึกย่าง

หมึกย่างหลังจากตอนเย็นที่ว่างจากการที่ไม่มีออเดอร์ขนม เราก็ได้เริ่มพูดคุยกันอีกครั้งว่าอยากจะทำอะไรที่ได้เงินเพราะตอนเย็นเราว่าง จึงคิดเริ่มจากสิ่งที่ชอบอีกตามเคย นั่นก็คือ ชอบกิน พวกเราชอบทานอาหารทะเล เมื่อมองดูแล้วในหมู่บ้านยังไม่มีใครขายหมึกย่างกุ้งย่างเราก็เริ่มซื้อกุ้ง ซื้อหมึกมาลองกันเลย โดยให้พี่สาวของแฟนเป็นผู้ทำน้ำจิ้มให้ ซึ่งแซ่บมากๆ ความคิดตอนนั้นคือถ้าขายไม่ได้ก็กินเอง เพราะเราชอบอยู่แล้ว จนตอนนี้ทุกๆ เย็นเราก็เปิดร้านขายหมึกย่าง ลูกชิ้นย่าง ซึ่งขายดีเกินคาด กลายเป็นครอบครัวเรามีธุรกิจเล็กๆ เพิ่มมาอีก เป็นการทำกิจกรรมบนความชอบแล้วยังได้เงินอีกด้วย


ตอนนี้ในบางครั้งตัวผู้เขียนมีความรู้สึกว่า ในหนึ่งวันมีเวลาที่น้อยเหลือเกิน รู้สึกว่าเราสามารถทำอะไรได้อีกเยอะมากๆ และยังมีสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่มีเวลามากพอที่จะทำมันให้ดี รู้สึกเสียดายที่หลายๆ อย่าง อยากทำแต่ไม่สามารถลงมือทำได้ อยากให้วันหนึ่งของผู้เขียนมีซัก 48 ชั่วโมง

ผู้เขียนอยากเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ นักอ่านทุกท่านอย่าปล่อยเวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ เพราะเวลาเมื่อผ่านไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับมาได้ อยากทำอะไรแค่ลงมือทำมัน อย่ากลัวการเริ่มต้น เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเมื่อทำแล้วผลจะเป็นอย่างไรรู้แค่ว่า ถ้าไม่ลงมือทำจะไม่เกิดผลอะไรเลย


ภาพหน้าปก ขอบคุณภาพจากคุณ ThePixelman: https://pixabay.com/th/photos

ภาพประกอบที่ 1 /ภาพประกอบที่ 2 /ภาพประกอบที่ 3 /ภาพประกอบที่ 4 /ภาพประกอบที่ 5 ภาพโดยผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์