สถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่งผลกระทบยาวนานถึงวันนี้ แน่นอนว่ามีหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ หนึ่งในนั้นก็คือ “เราเอง” เราเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เดินทางเข้าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ในตอนแรกคงไม่มีใครคิดว่าเชื้อไวรัสจะมาถึงไทยเร็วขนาดนี้ แต่ก็ด้วยหลายๆปัจจัยทำให้ในที่สุดมันก็มาถึงจนได้ ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องก็ได้ออกมาตรการต่างๆออกมารองรับการกำจัดเชื้อร้ายตัวนี้ เมื่อ “กรุงเทพมหานคร” ไม่ใช่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป เด็กต่างจังหวัดอย่างเราก็คงต้องหนีกลับบ้านนอกไปพึ่งบารมีพ่อแม่อยู่ เราอยู่หอในกรุงเทพคนเดียว แต่มีพี่สาวอีกสองคนทำงานอยู่ในเขตปริมลฑลด้วย จึงพากันหอบกระเป๋ากลับบ้านกันก่อนที่กรุงเทพฯ จะโดนสั่งปิดได้ไม่กี่วัน อ่านมาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งต่อว่ากันเลยนะคะ ที่ต้องกลับบ้านไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัว แต่อยู่กรุงเทพฯ แล้วมันไม่มีเงินกินข้าว งั้นกลับมากินข้าวฟรีที่บ้านดีกว่าเนอะ เราเดินทางโดยใช้เครื่องบิน ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงสนามบินกระบี่ โทรให้พี่ชายมารับมันดันบอกว่าหารถไปเอง ฮ่าๆ สุดท้ายก็เจอพี่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้แวะถามว่าจะไปไหน ก็เลยได้ไปด้วยกัน ขอขอบคุณพี่สาวและพี่ชายสองท่านนั้นมากๆนะคะ อ่ะ ระหว่างการเดินทางก็มีการตรวจอยู่เป็นช่วงๆ จนในที่สุดก็มาถึงบ้านของพี่ชายที่อยู่ในจังหวัดกระบี่ ก่อนจะรอพ่อขับเรือมารับ ระหว่างนั้นก็เลยซื้อข้าวของรอไปบ้านด้วย ไหนๆก็จะกลับบ้านทีนึง ฮ่าๆๆ พ่อมาแล้วเราก็ไปขึ้นเรือกันที่ท่าเรือ อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงบ้านเรา “เกาะหมากน้อย” เกาะหมากน้อย ตั้งอยู่ในอ่าวพังงา ตำบลเกาะปันหยี จังหวัดพังงา รอบข้างมีแค่ภูเขา ภูเขา แล้วก็ภูเขา ฮ่าๆๆ ใครชอบสงบๆ ใช้ชีวิตชนบท อาบน้ำบ่อ ไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ก็เรียนเชิญนะคะ ใช้เวลาขนของ + เดินทางจากท่าเรือมาถึงบ้านประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่เปลี่ยนไปมากกกกก ขอยอมรับเลยว่าไม่ได้กลับบ้านนานมากแล้ว จำอะไรๆไม่ได้ไปเยอะเลย แต่ก็มีที่ยังคุ้นตาอยู่บ้าง ก็บ้านอ่ะเนอะ นั่งฟังพ่อกับแม่เลี้ยงเถียงกันสักพักว่าตกลงให้เรากับพี่ๆไปพบใคร สุดท้ายคุณหมอจากอนามัยก็เลยมาหาเราที่บ้านเองเลย คุณหมอก็แนะนำวิธีการกักตัวเอง วัดไข้และอธิบายสิ่งที่ต้องทำเรียบร้อยจึงกลับไป วันแรกของการกลับมาบ้านถือว่าหินมากกกกกก ด้วยเพราะเราติดชีวิตเมืองกรุงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ ปกติร้อนก็เปิดพัดลม เปิดแอร์ แต่ที่นี่ไม่มีจ้า พัดลง พัดลม อง แอร์อะไรกัน บ้านฉันมีแค่แอกี่สองคน ฮ่าๆๆ หยอกๆ ต้องบอกว่ากลับมาผิดช่วงจริงๆ ช่วงนี้ลมน้อยมาก แบบไม่มีลมเลย ก็เลยต้องอยู่กันแบบร้อนๆไป จัดแจงอะไรใดๆเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันไปอาบน้ำ วิธีการอาบน้ำที่นี่ก็ต้องเดินไปหาบ่อที่ท่าน้ำจ้า น้ำประปามี แต่ไม่ไหล เพราะฉะนั้น นุ่งกระโจมอกไปอาบน้ำกันก่อนจะมืดค่ำเถอะค่ะคุณผู้ชม ฮ่าๆๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง พ่อเลยจัดแจงให้เราและพี่อีกสองคนนอนนอกบ้านตรงชานเรือนเลยจ้า ฟังเสียงอึ่งอ่าง นอนตบยุงวนไป ทำใจอ่ะเนอะ เราก็ไม่อยากจะแพร่เชื้อให้ใคร เกิดเราติดมาแล้วใครมาติดต่อก็ซวยไป มีค่าเสียหายด้วยเน้อ มาถึงเรื่องอาหารการกินบ้างละกัน เนื่องจากพ่อและพี่ชาย และญาติโกโหติกาเราล้วนแล้วแต่ทำประมง เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากลับมากินอาหารทะเลจ้า ปูเปออะไรที่เคยซื้อกันกิโลละ 200-300 ก็กลายเป็นของฟรี กุ้ง ปลาอะไรที่เคยต้องกลืนน้ำลายก่อนควักตังค์จ่ายก็กินกันอิ่มบานเบอะ อิอิ หรรษากันมาเยอะแล้ว ก็ถึงช่วงรีวิวนักศึกษาหนีโรคกลับบ้านนอกกันเถอะค่ะ ฮ่าๆๆ เนื่องจากมหาวิทยาลัยสั่งปิด แต่ปิดไม่สนิท ยังมีเรียนออนไลน์ สั่งการบ้านเป็นกะตั๊กอยู่ เราก็เลยต้องกะเตงหอบเอาโน้ตบุ๊คกลับมาบ้านด้วย ซึ่งประเด็นคือ!!! บ้านเราไม่มีไฟฟ้าใช้จ้า กลางวันใช้ไฟจาก Solar cells กลางคืนใช้เครื่องปั่นไฟ นี่ก็ต้องประหยัดแบตวนไป เปิดเท่าที่จำเป็น ต้องทำงานในมือถือให้เสร็จก่อนไปลงโน้ตบุ๊ค ไม่งั้นงานไม่เสร็จ ไม่มีให้ส่งจ้า ลำบากก็ลำบาก วอนอาจารย์อย่าสั่งงานเพิ่มเลยนะคะ พลีสสสส~ ตอนนี้เราก็อยู่เกาะมาได้ 5 วันแล้ว ยังไปไหนไม่ได้อยู่ดี นอกจากบ้านกับบ่อ เศร้าเนอะ แต่ก็กักตัววนไป ไม่อยากสร้างปัญหาให้ใคร แงๆ ไว้เราได้ออกไปเที่ยวเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังอีกนะ บัยยย~