ย้อนไปปี 1994 ได้เกิดปรากฏการณ์ความสำเร็จของวงการภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ได้กวาดรางวัลบนเวทีอันทรงเกียรติอย่างออสการ์ ไปถึง 7 รางวัล ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนคุณภาพและความน่าดูชมของหนังได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ "Schindler'S List : ชะตากรรมที่โลกไม่ลืม" ที่ออกฉายในปี 1993Schindler'S List เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวการจ้างแรงงานชาวยิวและช่วงเหตุการณ์นองเลือดที่แสนโหดเหี้ยมเพียงเพราะความเชื่อ ความแตกต่างด้านชาติกำเนิด และเผ่าพันธุ์ โดย Oscar Schindler (รับบทโดย Liam Neeson) หนุ่มนักทำธุรกิจที่ทำการค้าและหาประโยชน์จากสงคราม ซึ่งในขณะนั้นโลกยังคงอยู่ในภาวะสงคราม จึงทำให้เขาเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่ได้ประโยชน์จากสงครามในครั้งนั้นที่กินเวลาแสนเนิ่นนานโดยการทำธุรกิจภายใต้ความหม่นเทาของเขานั้นต้องอาศัยแรงงานจำนวนมากซึ่งหนึ่งในนั้นคือชาวยิวผู้ที่ชนชั้นนำและคนในสังคมส่วนใหญ่ในเยอรมันต้องการกำจัดให้หมดสิ้นเพียงเพราะอุดมการณ์และความเชื่อที่แตกต่างอันมีรากฐานมาจากความเกลียดชัง แม้การจ้างแรงงานชาวยิวจำนวนมากของออสการ์ในครั้งนั้นจะเหมือนเป็นการแสดงความกดขี่ และเหยียบย่ำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีสภาพชีวิตที่ไม่แตกต่างจากทาสเพื่อช่วยเขาให้ร่ำรวยเท่านั้น แต่ทว่ากลับกลายเป็นการช่วยให้ชาวยิวเหล่านี้รอดพ้นจากการสังหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปโดยปริยายจุดเด่นของหนังความยาวร่วม 3 ชั่วโมงเรื่องนี้ นอกเหนือจากการเป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันขมขื่นระหว่างมนุษย์ที่กระทำต่อกันอย่างป่าเถื่อนแล้ว ในขณะเดียวกันก็เป็นหนังที่ชวนปลุกอารมณ์แห่งสติปัญญาและความงดงามของจิตใจให้สูงสง่าขึ้น ผ่านหลายฉากหลายตอนที่เต็มไปด้วยความทารุณเกินมนุษย์ ฉากความน่าสะเทือนใจของผู้บริสุทธิ์ที่ต้องถูกสังเวยต่อความไม่ปกติของมนุษย์ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้คนได้กลับมามองย้อนถึงประวัติศาสตร์เพื่อตระหนักต่อการรักษาความสง่างามของจิตใจไม่ให้หยาบช้าเหมือนเช่นในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานี้หนังเรื่องนี้จึงเหมาะทุกกับทุกยุคทุกสมัย แม้ตัวหนังจะผ่านการถ่ายทำมาเนิ่นนานเกือบ 30 ปีแล้ว แต่ความร่วมสมัยนี้ถือเป็นจุดประสงค์ของหนังที่ยังคงเปล่งประกายเสมอ เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้และตระหนักร่วมกันต่อคุณค่าความเป็นมนุษย์ของทุกชีวิต ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าหนังเรื่องนี้ได้กลับมาฉายอีกครั้งทางช่อง TrueID ซึ่งใครที่สนใจประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลก รวมถึงเสี้ยวหนึ่งของเหตุการฆ่าล้างชาวยิวก็สามารถรับชมได้ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งนับเป็นอีกเรื่องที่มีความเป็นอมตะ ชวนให้ตราตรึง และตื่นตะลึงไปกับผลงานการกำกับสุดยิ่งใหญ่ของ "สตีเว่น สปิลเบิร์ก" ที่การันตีด้วยรางวัลออสการ์ถึง 7 รางวัล คะแนน (โดยผู้เขียน) : 9.5/10ช่องทางการรับชม : TrueIDภาพประกอบโดย : TrueID