สวัสดีค่ะ ทุกท่านกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ วันนี้จะขอแนะนำหนังสือเป็นหนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งที่เพิ่งวางแผงสด ๆ ร้อน ๆ ผู้เขียนตั้งใจรอหนังสือเล่มนี้ออกมาเพราะความน่าสนใจของหนังสือค่ะ เป็นนวนิยายแปล เขียนโดยผู้เขียนชาวเกาหลี “ชินกยองซุก” ผู้เขียนเองเห็นหนังสือเล่มนี้ในเพจของสำนักพิมพ์ครั้งแรกที่อ่านคำโปรยเรื่องก็รู้สึกว่าต้องไปซื้อมาอ่านให้ได้ เมื่อซื้อมาอ่านถือว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ เลยค่ะ เรื่องราวของนวนิยายเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวเกาหลีครอบครัวหนึ่งค่ะ ที่ดูเหมือนว่าเป็นครอบครัวที่ดูแล้วอบอุ่นไม่น่าจะมีเรื่องราวอะไรให้เราผู้อ่านต้องติดตาม แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่พ่อและแม่ที่อยู่อีกเมืองหนึ่งเข้ามาเยี่ยมลูกของเขาในเมือง แล้วแม่เกิดพลัดหลงกับพ่อ รูปภาพโดยผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าเกี่ยวกับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า “แม่” ในมุมมองที่ผู้อ่านทุกคนอาจมองข้ามไป ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแม่นี้ ก็คือผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ ที่มีเรื่องราวในชีวิต ความฝัน ความหวังของตนเองเหมือนกับผู้หญิงหนึ่งคนนั่นเอง แต่ด้วยบทบาทของแม่ในมุมมองของลูก ๆ ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ เมื่อเริ่มต้นเรื่องมาพูดถึงการหายไปของแม่ เราผู้อ่านจะได้เห็นมุมมองของลูก ๆ แต่ละคนเรื่องราวเริ่มต้นบรรยายจากมุมมองของลูกคนเล็ก ลูกสาวคนเดียวในบรรดาลูก ๆ ทั้งสามคน เธอได้บรรยายถึงช่วงเวลาที่แม่เธอหายไปในขณะที่ตัวเธอนั้นเดินทางไปดูงานที่ประเทศจีนเธอได้แต่นึกถึงว่าในขณะที่ตัวเธอนั้นกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่แม่ของเธอกำลังพลัดหลงอยู่ตรงไหนหรือแม่ของเธอกำลังทำอะไร ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayในขณะที่แม่หายไปลูก ๆ ที่พยายามหาวิธีตามหาแม่ไม่ว่าจะเป็นการเขียนประกาศตามหาที่พยายามรวบรวมลักษณะข้อมูลของผู้เป็นแม่ กลับทำให้พวกเขาได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขารู้จักแม่ของตัวเองมากแค่ไหน ผู้อ่านอย่างเราจะได้เห็นความทรงจำเกี่ยวกับแม่ในมุมมองของลูกที่ถ่ายทอดออกมาว่าเธอหรือเขามีความทรงจำเกี่ยวกับแม่มากน้อยแค่ไหนกัน เมื่อเกิดเรื่องที่แม่หายไปเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ทุกคนไม่อยากให้อภัยตัวเอง สิ่งหนึ่งที่หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดออกมาให้เราได้เห็นคือความทรงจำของลูกที่มีต่อแม่ บางอย่างที่พวกเขาและเธอรู้เกี่ยวกับแม่ในวันที่แม่ไม่อยู่มันแตกต่างไปจากสิ่งที่พวกเขารู้จริง ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครรู้จักแม่อย่างแท้จริง ทำให้เราผู้อ่านย้อนกลับมาถามตัวเองว่าเราเองรู้จักเรื่องราวของแม่มากพอหรือยัง และสิ่งที่เรารู้เรารู้จริงหรือเปล่า เราเองอาจมองข้ามคนในครอบครัวของเราไปค่ะ เมื่ออ่านแล้วก็ได้แต่ครุ่นคิดรูปภาพโดยผู้เขียนผู้อ่านอย่างเราจะได้เห็นถึงความเป็นจริงของมนุษย์ที่ว่า เมื่อเราเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เราก็มักจะอยากที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขเสมอ เราจะหมกมุ่นคิดว่าตอนนั้นไม่น่าทำแบบนั้นเลย ไม่น่าทำแบบนี้เลย อีกความประทับใจที่ชอบคือการบรรยายบรรยากาศของความเป็นอยู่ของครอบครัวคนเกาหลีในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี การเขียนจดหมายถึงกันมาจนถึงการที่หมู่บ้านเริ่มมีโทรศัพท์สาธารณะที่ข้างบ้านผู้ใหญ่บ้าน นอกจากนี้ยังได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่บรรยายได้เห็นภาพผ่านตัวอักษร ความรู้สึกหลังอ่านจบต้องขอบอกว่าประทับมาก ทำให้เราย้อนกลับมาดูว่าเราเข้าใจคนในครอบครัวเรามากน้อยแค่ไหน เรารู้จักเขาดีมากพอรึเปล่า หนังสือไม่ใช่แนวดาร์กค่ะ เชื่อว่าหากได้อ่านแล้วต้องประทับใจเหมือนกันแน่นอน หวังว่าบทความนี้จะถูกใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหนังสือสักเล่มที่น่าอ่านและเมื่ออ่านรับรองว่าทุกท่านเพลิดเพลินแน่นอนค่ะ ไว้พบกันคราวหน้า จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆที่นี่ค่ะ : Diary Therapy Diary Therapy