มะเขือแจ้ เป็นชื่อที่คนเมืองเหนือใช้เรียกมะเขือขื่น ยายชอบเอามาจิ้มกินกับน้ำพริก แต่ไม่ค่อยนิยมเอามาแกง เพราะรสชาติและกลิ่น จึงไม่ค่อยอร่อยถ้าเอาไปแกง วันนี้ยายอารมณ์ดี มีใจนึกอยากกินส้ามะเขือแจ้ ถ้าไปซื้อที่คนอื่นทำขายสำเร็จรูปก็ไม่อร่อย รสชาติเจือจาง ไม่เข้มข้น ยายเชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยกิน งั้นมาลองดูส่วนประกอบและวิธีการทำกันได้เลย เผื่อว่าอยากจะลองทำกินกันดู ส่วนผสมและวัตถุดิบ 1. มะเขือขื่น 1 กิโลกรัม (ปอกเปลือกแล้วล้างกับน้ำเกลือเพื่อไม่ให้เนื้อมะเขือเปลี่ยนเป็นสีดำ) 2. ตะไคร้ 4 หัว (ซอยให้ละเอียด) 3. ข่า 1 แผ่น บาง ๆ 4. พริกแห้งคั่ว 9 เม็ด 5. หอมแดง 7 หัว 6. กระเทียม 10 กลีบ 7. เกลือ 1/2 ช้อนชา 8. ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ (นำไปต้มกับน้ำเปล่า 200 มล. ให้เดือด แล้วกรองเอาแต่น้ำ) 10. ถั่วลิสงคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ บดให้พอแหลก 11. งาดำ 2 ช้อนโต๊ะ คั่วไฟเบา ๆ 12. ต้นหอม ผักชี (ล้างให้สะอาดแล้วซอย) วิธีทำ 1. เตรียมมะเขื่อขื่นด้วยการปอกเปลือกแล้วล้างด้วยน้ำเกลือ ก่อนนำมาซอยให้บางที่สุด แล้วนำไปล้างและนวด 5 น้ำ 2. ตำน้ำพริกโดยนำ พริก กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ เกลือ มาตำให้ละเอียด แล้วราดน้ำปลาร้าที่เตรียมไว้ลงไป ค่อย ๆ ราดทีละนิด แล้วชิมดูก่อนว่าได้รสชาติที่พอดีแล้วหรือยัง 3. นำมะเขือขื่นที่ซอยเตรียมไว้ไปคลุกกับน้ำพริก คนให้เข้ากัน หากข้นเกินก็สามารถนำน้ำต้มสุกแล้วใส่ลงไปให้มีน้ำขลุกขลิก 4. ปิดท้ายด้วย ถั่วลิสงบด งาคั่วและต้นหอมผักชี เป็นอันจบ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ เมนูนี้ค่อนข้างทำยากพอสมควร เพราะมีขั้นตอนที่เยอะ นาน ๆ ยายถึงจะทำที และก็ทำเก็บใส่ตู้เย็นไว้กินได้ 3 - 4 วัน และก็ยังมีรสาติอร่อย ไม่เปลี่ยน ของกินพื้นเมือง หากินได้ตามบ้าน เพราะต้นมะเขือขื่นนั้นสามารถปลูกได้ง่าย และมักจะมีกันแทบทุกบ้านตามชนบท ส่วนใหญ่แล้วยายมักจะเอามากินกับน้ำพริก หรือซอยใส่น้ำพริกกะปิ ใช้แทนมะเขือพวงก็อร่อยไปอีกแบบ อย่าลืมติดตามว่าบทความหน้ายายจะมาทำกับข้าวเมนูไหนกันอีกนะจ๊ะ