ภายหลังจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง transfermarkt.com ได้อัพเดทมูลค่าทางการตลาดของนักเตะทั่วโลกปี 2020 ออกมาล่าสุด โดยนักเตะที่ได้ค่าตัวสูงที่สุดในโลกก็คือ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) 200 ล้านยูโร ส่วนนักเตะไทยที่มีค่าตัวแพงที่สุดก็คือ ชนาธิป สงกระสิน 2.4 ล้านยูโร และในวันนี้เรามาดูกันว่านักเตะ u-23 ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติไทยเวียดนาม ซึ่งเป็นคู่ปรับกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ใครจะมีค่าตัวแพงที่สุด เริ่มจาก ทีมชาติเวียดนาม U-23 โดยนักเตะที่มีค่าตัวแพงสูงสุดของเวียดนามก็คือ เหงียน กวง ไฮ นักเตะตัวเก่งจากสโมสร ฮานอย เอฟซีและ ดวาน วาน เฮา จากสโมสร ฮีเรนวีน โดยค่าตัวอยู่ที่ หนึ่งแสนห้าหมื่นยูโร หรือ ประมาณ 5.3 ล้านบาทไทย โดยสองคนนี้มีค่าตัวแพงที่สุดของนักเตะทีมชาติเวียดนาม U-23 มากกว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่หลายเท่าตัว ขอบคุณภาพจาก: https://sport.trueid.net/detail/E39vA5egvnx และมีอีกสามนักเตะของเวียดนามที่ถูกประเมินมูลค่าทางการตลาดออกมาเช่นกัน ซึ่งได้แก่ เหงียน เตี๋ยน ลิญ กองหน้าร่างยักษ์ วัย 22 ปี ของสโมสรบินห์เซือง (Binh Duong) สองหมื่นห้าพันยูโร ประมาณ 8 แสนบาทไทย เงวียน ทัญ จุง เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่ง (อายุ 22 ปี) จากสโมสรฮานอย เอฟซี ค่าตัวอยู่ที่ สองหมื่นห้าพันยูโร ประมาณ 8 แสนบาทไทย ฮา ดึ๊ก จิง (Duc Chinh Ha) กองหน้า วัย 22 ปี ของสโมสรดานัง เอฟซี ค่าตัวอยู่ที่ สองหมื่นห้าพันยูโร ประมาณ 8 แสนบาทไทย ขอบคุณภาพจาก: https://sport.trueid.net/detail/OLRKn4d2Xagw สำหรับนักเตะทีมชาติไทย U-23 ที่มีค่าตัวแพงที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นก็คือสองพี่น้องจากสโมสรบุรีรัมย์ ไนเต็ด อย่าง สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นั่นเอง โดยทั้งคู่มีค่าตัวอยู่ที่ ห้าแสนยูโร หรือประมาณ 17 ล้านบาทไทย โดยเจ้าเช็ค สุภโชค สารชาติ ค่าตัวเพิ่มจากสองแสนห้าหมื่นยูโร ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ฟอร์มกำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ และค่าตัวก็อัพขึ้นอยู่ตลอดเช่นกัน และ "เจ้าแบงค์" ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เด็กมหัศจรรย์ วัย 17 ปี ดีกรีแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยมอาเซียนปีล่าสุด ค่าตัวก็ได้อัพขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งแต่ก่อนมีค่าตัวเท่ากับ เหงียน กวง ไฮ และ ดวาน วาน เฮา อยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นยูโร โดยตอนนี้ค่าตัวได้อัพขึ้นแซงหน้าของสองสตาร์เหงียนเป็นที่เรียบร้อย นับว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ ขอบคุณภาพจาก: https://sport.trueid.net/detail/8WDV2GO6yP9 ตามมาด้วยอีกหนึ่งดาวรุ่งจากสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่าง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ซึ่งค่าตัวเพิ่มขึ้นจาก สองแสนห้าหมื่นยูโร มาอยู่ที่ สามแสนยูโร หรือประมาณ 10 ล้านบาทไทย โดย "แข้งเทพ" รายนี้ที่ผ่านมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในนามทีมชาติและนามสโมสรจึงไม่แปลกใจที่ค่าของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และอีก 2 คนของนักเตะไทย อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าดาวรุ่งตัวเก่ง จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงแม้ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวที่ผ่านมาอาจจะขัดใจแฟนบอลอยู่บ้าง เพราะช่วงหลังๆ เจ้าตัวยังจบสกอร์ไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวก็ยังเป็นกองหน้าที่ทีมขาดไม่ได้เพราะยังคอยเก็บบอลต่อบอลและคอยป่วนกองหลังฝ่ายตรงข้ามได้ดีแถมยังเปิดทางให้เพื่อนได้เข้าไปทำประตูได้อีกด้วย ซึ่งศุภชัย ใจเด็ด มีค่าตัวอยู่ที่ สองแสนห้าหมื่นยูโร หรือประมาณ 8.8 ล้านบาทไทย และมีค่าตัวแพงเป็นอันดับที่ 4 ของดาวรุ่งไทย ขอบคุณภาพจาก: https://sport.trueid.net/detail/JvmK4GXqkYAQ ส่วนอีกคนนั้นก็คือ กฤษดา กาแมน มิดฟิลด์ จากค่ายฉลามชล ชลบุรี เอฟซี หลังจากเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจากรายการฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 ที่ผ่าน โดยค่าตัวได้เพิ่มจาก หนึ่งแสนห้าหมื่นยูโร มาอยู่ที่ สองแสนยูโร หรือประมาณ 7 ล้านบาทไทย เราจะเห็นว่าดาวรุ่งของทีมชาติไทยนั้นยังเป็นต่อดาวรุ่งเวียดนามอยู่หลายเท่าตัว เพราะจากการจัดอันดับแล้วพบว่าค่าตัวแพงที่สุดอันดับหนึ่งของเวียดนามอย่าง เหงียน กวง ไฮ และ ดวาน วาน เฮา ยังมีค่าตัวน้อยกว่าอันดับห้าของทีมชาติไทยอย่าง กฤษดา กาแมน เกือบเท่าตัว ถึงแม้ ว่าผลงานของเวียดนามที่ผ่านจะได้แชมป์ซีเกมส์แต่ก็ไม่สามารถการันตีผลงานนักเตะของเขาได้เลย เมื่อพวกเขาได้ตกรอบแรกศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 ที่ผ่านมา จึงทำให้นักเตะเวียดนามฟอร์มตกกันไปหลายคน ทำให้ในตอนนี้นักเตะดาวรุ่งของไทยมีมูลค่าทางการตลาดมากกว่าดาวรุ่งของเวียดนามนั่นเอง