สื่อสิ่งพิมพ์ที่กำลังสูญพันธุ์

หากพูดถึงความสะดวกสบายเเน่นอนว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ทำให้คนยุคใหม่เลือกที่จะไม่ซื้อหนังสือและหาทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ตเพราะประหยัดทั้งเงินในกระเป๋าและพื้นที่ในบ้าน แต่ในความสะดวกสบายนั้นก็ยังมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่อย่างในปัจจุบันกำลังมีปัญหา fake news เกิดขึ้นนั้นแปลว่าใครก็ได้บนโลกนี้สามารถเป็นนักข่าวได้ โดยไม่ต้องผ่านบรรณาธิการไม่ต้องผ่านพิสูจน์อักษรเเค่มีคนกดเเชร์ต่อๆกันโดยผู้เเชร์บางท่านก็ลืมที่จะไตร่ตรองและส่งต่อข้อมูลแบบผิดๆออกไป ทำให้จุดนี้เป็นปัญหาที่แก้ลำบากสำหรับสื่อในโลกออนไลน์ ส่วนนักเรียนและอาจารย์ก็เริ่มที่จะเรียนและสอนโดยการใช้หนังสือให้น้อยลง โดยส่วนตัวเจ้าของบทความเองทางมหาวิทยาลัยจะมีอุปกรณ์การเรียนพร้อมลงโปรแกรมสำหรับการเรียนไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น E-book และไฟล์งานต่างๆที่สามารถโหลดได้ทุกเมื่อ โปรเเกรมสำหรับงานออกแบบ เวลาเรียนก็เเค่หยิบ laptop ออกมา เปิดE-book สมุดจดเล่มเล็กๆ ปากกาหนึ่งด้าม ไม่ต้องมาแบกหนังสือจนหลังแอ่นเหมือนตอนประถมอีกต่อไป เเต่ว่าการเรียนแบบนี้ก็ยังมีข้อดีและข้อเสียเหมือนกันข้อดีเเน่นอนว่าคือความสะดวกสะบาย การจัดระเบียบชีวิตเร็วขึ้นไม่ต้องเป็นอีเพิ้งหอบชีทหอบหนังสือไปมหา'ลัยทุกวัน เเต่ข้อเสียส่วนตัวของเจ้าของบทความเองก็คือมันไม่สามารถแปะโน็ตแยก เขียนขยายความเข้าใจหรือไฮไลท์ 8 ล้านเฉดทับลงไปใน E-book ได้เหมือนหนังสือและอีกข้อคือมองหน้าจอนานๆแล้วปวดตามากๆ  และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มเข้ามามีอิทธิพลมากในยุคปัจจุบันทำให้สำนักพิมพ์หลายแห่งได้ปิดตัวลงไปเพราะยอดขายที่ต่ำลงทำให้เดินหน้าต่อไม่ได้ หอสมุดหลายๆแห่งก็ต้องปิดลงและเอาหนังสือจำนวนมากมาขายกันแบบถูกๆ โดยที่หนังสือบางเล่มตีมูลค่าไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ธุรกิจไปต่อไม่ได้ ความนิยมลดลงอย่างรวดเร็วก็ต้องปิดตัวลงไปตามสภาพอย่างการ์ตูนและนิยายก็มีให้อ่านในเว็บ และยังมีอนิเมชั่นที่นำหนังสือมาทำ ก็ทำให้บางคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือแล้วก็ได้ ดูในโทรทัศน์ YouTube หรือเว็บต่างๆไปเลยสะดวกกว่า ส่วนคนที่ยังชอบอ่านอยู่ก็มีเว็บที่เป็นหนังสือการ์ตูน มังงะ หรือนิยายอีกเป็นร้อยๆประเภทให้อ่านกันฟรีๆ ส่วนคนที่ชื่นชอบในหนังสือจริงๆก็ยังมีอยู่ไม่น้อยยังคงซื้อและสะสมอยู่อย่างเช่นตัวเจ้าของบทความเอง