กริ๊งงงงง.....เสียงนาฬิกาปลุกตอน 05.30 น. บรรดาสาวๆ ออฟฟิศ คงต้องตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้าตรู่อย่างแน่นอน อย่างแรกคือ ตั้งเผื่อเลื่อน เผื่อขี้เกียจ และต่อมา คงต้องเผื่อเวลาอาบน้ำ สระผม ไดร์ผม และที่สำคัญ ต้องมีเวลาแต่งหน้า ถ้าวันไหนเขียนคิ้วดี ก็ชนะเลิศ แต่ถ้าวันไหนเขียนออกมาเป็นปลิงเกาะ ตอนยังง่วงๆ เบลอๆ คงต้องมีลบออกและเขียนใหม่อย่างแน่นอน แล้วทำไมวันนี้ หน้าฉันตื่นมา ทั้งมัน ทั้งโทรม มีสิวปูดขึ้นมากลางหน้าผากราวกับว่าจะปล่อยแสงเลเซอร์ได้ แถมมีรอยยับจากปลอกหมอนอีกต่างหาก ทารองพื้นยังไง ก็ยังดูหมองคล้ำ เหมือนคนโดนของเข้าไปอีก แล้ววันนี้มีนัดทานข้าวกับลูกค้า ดีจริงๆ นั่งย้อนกลับไปคิด เมื่อคืนฉันเผลอหลับไปตอนไหน ดูนาฬิกาครั้งสุดท้ายคือ เที่ยงคืนครึ่ง!ชีวิต Routine ของสาวออฟฟิศ ที่เช้ามาต้องรีบแต่งหน้าไปทำงาน กลับมานั่งทำสไลด์ส่งเจ้านาย นอนดึกแถมยังกินดึกอีกด้วย และวันหนึ่ง ก็ได้ค้นพบกับสิ่งที่เรียกว่า "เวชศาสตร์ชะลอวัย" การมีสุขภาพที่ดี และมีชีวิตที่ยืนยาว ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุด เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ไม่ยาก แต่ทำไม่ได้สักที เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตนเองจาก "การรักษา" มาเป็น "การป้องกันและฟื้นฟู" แทน และนี่คือที่มาของคำว่าเวชศาสตร์ชะลอวัยมีฮอร์โมนตัวหนึ่งที่จะหลั่งออกมาจากสมองในตอนที่เรานอนหลับอยู่ ซึ่งทำหน้าที่ฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายและผิวพรรณ แต่จะหลั่งออกมาในช่วงที่คนเรานั้นหลับลึก หรือประมาณ ตีหนึ่ง ไปจนถึงตีสาม ชื่อว่า "โกรทฮอร์โมน" (Growth Hormone) เป็นตัวช่วยที่สำคัญ ที่ช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตของร่างกาย เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนออกมาได้ลดลง โดยเฉพาะสาวๆวัยทำงาน จะเห็นได้ชัดว่า เมื่อเรากลับถึงบ้าน เรามักจะมีอาการอ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน และหงุดหงิด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังก็คือ การนอนไม่หลับหากร่างกายของเราไม่ได้รับโกรทฮอร์โมนอย่างเต็มที่ ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น หน้าแก่เร็ว ผิวแห้งกร้าน ไม่สดใส และอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วยเช่นกันดังนั้น อะไรที่จะทำให้เราหน้าเด็กลง ในขณะที่เรา เพียงแค่นอนให้ถูกวิธีจนมี "Growth Hormone" นั้นหลั่งออกมาระหว่างการนอน ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปเช็คกันเลย การนอนให้เป็นเวลา ไม่ควรเกิน 22.30 น. การนอนหลับพักผ่อนที่ได้ผลดีที่สุด คือช่วง 22.00 - 06.00 น. ซึ่งร่างกายต้องการเวลาในการหลับลึก และเพื่อที่จะให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาอย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราไม่ควรจะนอนดึกถ้าไม่จำเป็น ซึ่งการนอนเป็นเวลานั้นจะช่วยสร้างความเคยชินให้กับร่างกาย พอถึงเวลานอน เราก็จะเริ่มง่วงโดยอัตโนมัติ และพอตื่นเช้าขึ้นมา เราก็จะมีความพร้อมทางสภาพร่างกาย และใบหน้าที่สดใส การปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสม เริ่มจากที่เตียงนอน จะต้องมีขนาดที่พอดีกับตัวเรา นอนแล้วไม่อึดอัด หมอนหนุนจะต้องนิ่ม ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป ควรให้พอดีกับคอของเรา ในห้องนอนควรปรับลดแสงไฟลงก่อนเข้านอนสัก 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายรับรู้ว่าเรากำลังจะนอน อุณหภูมิภายในห้องควรปรับให้พอดี ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไปเวลานอน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลัง 18.00 น. พยายามอย่าดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมในช่วงตอนเย็น เพราะคาเฟอีนนั้นเป็นศัตรูอันดับต้นๆ ที่ทำลายโกรทฮอร์โมนของเรา อีกทั้งยังออกฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายเราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากเป็นไปได้ หลังอาหารมื้อเย็น หรือหลังหกโมงเย็น ควรงดการดื่มคาเฟอีนจะดีที่สุด หากิจกรรมผ่อนคลายทำก่อนนอน การหากิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายก่อนนอนนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดีเช่นกัน เช่น การแช่น้ำอุ่น จุดเทียนหอมอโรมา เปิดเพลงฟังสบายๆ การอ่านหนังสือ หรือการนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาและช่วยให้นอนหลับได้สบายมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ร่างกายมนุษย์ยังต้องการอีกคือ การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นวิธีที่ควรกระทำควบคู่ไปกับการพักผ่อนนอนหลับ เพราะถ้าต่อให้เรานอนหลับอย่างเต็มที่แล้ว แต่เรากลับทำลายร่างกายตัวเองด้วยวิธีอ้อมทางอื่น โกรทฮอร์โมนที่หลั่งออกมาก็จะมีประสิทธิภาพลดน้อยลงทันที รู้อย่างนี้แล้ว สาวๆออฟฟิศคนไหน ที่ยังมัวนั่งทำรีพอร์ทตอนดึกๆ นั่งปั่นยอดขาย หรือจะมัวนั่งส่องโลกโซเชียลไม่ยอมหลับยอมนอนอีก อนาคตอาจจะไม่มีหนุ่มๆหันมามองเลยก็ได้นะจ๊ะเพียงแค่เรารู้จักปรับเวลา และแบ่งเวลาของการทำงาน กับการพักผ่อนให้ชัดเจน เราก็ได้มีสุขภาพร่างกาย สุขภาพผิว และใบหน้าที่อ่อนเยาว์อย่างแน่นอน หากมีเวลาหลังจากนี้ เราค่อยไปเติมความงามทางลัดกันอีกก็แล้วกันจ้าบ๊าย บายขอขอบคุณภาพจาก https://pxhere.com/en/random หน้าปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7