(ภาพปกโดยผู้เขียน) " ทะเลหมอก " เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่หลายคนอยากจะมีโอกาสได้ไปสัมผัส และได้เห็นด้วยตาของตนเอง กับปรากฎการณ์ธรรมชาติที่แสนจะงดงามนี้สักครั้งในชีวิต ซึ่งนักท่องเที่ยวโดยส่วนมากล้วนนิยมที่จะขึ้นดอยสูงทางแถบภาคเหนือของประเทศกันซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนครอบครัวของผู้เขียนนั้นเลือกที่จะลงใต้ เพื่อไปสัมผัสกับความงดงามของ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลหมอกยอดฮิตแห่งเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2038 ฟุต (ภาพโดยผู้เขียน) ทริปของการเดินทางลงใต้ 3 คืน 4 วันในครั้งนี้ เป็นทริปที่เรามีจุดมุ่งหมายและมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้ไปสัมผัสกับทะเลหมอกอัยเยอร์เวงให้จงได้ ซึ่งครั้งนี้ก็นับเป็นครั้งที่สองแล้ว หลังจากครั้งแรกที่ไปแล้วผิดหวัง ได้เห็นเพียงหมอกจาง ๆ อยู่เป็นหย่อม ๆ บางพื้นที่เท่านั้นให้ได้เห็น ส่วนสถานที่ที่เราจะไปพักในคืนแรกนั้นก็คือที่ " คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท " ตั้งอยู่ที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลาเป็นบ้านพักแบบเต๊นท์พักแรมขนาดใหญ่ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาที่เป็นธรรมชาติและเงียบสงบ จึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี ซึ่งจะอยู่ห่างกันไม่มากนักกับที่ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่เราจะขึ้นไปดูกันในตอนเช้าของวันใหม่ โดยใช้เส้นทาง 410 ไปทาง ทางแยกกิโลเมตรที่ 32 ทางเข้าหมู่บ้านธารมะลิ ต.อัยเยอร์เวง วิ่งไปบนถนนลาดยางไต่เขาประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เราออกเดินทางขึ้นเขาในเวลาตี 4 กว่า ๆ เพื่อที่จะนำรถขึ้นไปจอดให้ใกล้กับจุดที่จะชมทะเลหมอกให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องเดินไกล เพื่อรอชมแสงแรกของอัยเยอร์เวงไปด้วยเลย สายลมที่โชยพัดเข้ามาอยู่ตลอดเวลาบนยอดเขานั้น ได้สร้างความหนาวเย็นเป็นอย่างมาก อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 19-20 องศา (ภาพโดยผู้เขียน) นักท่องเที่ยวต่างเริ่มทยอยกันเดินทางขึ้นมาตลอด รถที่จอดอยู่ตามไหล่ทางด้านบนก็เริ่มที่จะเต็ม จึงต้องจอดลดหลั่นกันลงไปเรื่อย ๆ นักท่องเที่ยวหนาแน่นเต็มลานกว้างของพื้นที่ ที่ได้จัดไว้ให้ชื่นชมทะเลหมอกเพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และเมื่อแสงแรกของวันใหม่ได้มาเยือนแล้ว สายตาแทบทุกคู่ของนักท่องเที่ยวทุกคนนั้น ต่างก็จดจ้อง และเตรียมพร้อมสำหรับบันทึกภาพที่จะปรากฎขึ้นมาในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน หลังจากที่ได้เก็บภาพความประทับใจของแสงแรก แห่งอัยเยอร์ เวงกันไปแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นจึงทำให้เห็นภาพบรรยากาศโดยรอบได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เสียงอื้ออึงของนักท่องเที่ยว ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อภาพทะเลหมอกที่แสนจะงด งามเบื้องหน้า ที่จับตัวกันเป็นชั้นหนาเต็มไปทั่วทั้งผืนฟ้านั้น ได้ปรากฎขึ้นมาให้กับทุก ๆ คนได้เห็น รอยยิ้มแห่งความดีใจก็กระจายไปทั่วใบหน้าของนักท่องเที่ยวทุกคน ที่มีโอ กาสได้มาสัมผัสและได้เห็นกันอย่างเต็มตา ต่างพร้อมใจกันยกกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาเก็บภาพที่แสนประทับใจนี้ไว้เป็นความทรงจำโดยถ้วนหน้า ซึ่งก็รวมไปถึงครอบครัวของผู้เขียนด้วยที่ถึงกับรีบกด ชัตเตอร์อย่างรัว ๆ ด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น อย่างไม่คิดที่จะหยุดพักให้เสียเวลากันเลยทีเดียว เพราะครั้งนี้พวกเราได้มาเห็นและได้มาสัมผัสกับทะเลหมอกอัยเยอร์เวงกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่ต้องผิดหวังกลับบ้านเหมือนกับครั้งที่แล้วอีก (ภาพโดยผู้เขียน) เราอยู่ชื่นชมความงดงามของทะเลหมอกจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเวลา 8 โมงกว่า ๆ หมอกที่จับตัวกันเป็นชั้นหนาเริ่มเบา บางลงจึงได้ขึ้นรถมายังบริเวณ จุดพักชมวิว ที่อยู่ห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งมีทั้งลานกางเต๊นท์ ที่จอดรถ และร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย พื้น ที่สำหรับชมทะเลหมอกของจุดนี้นั้น ก็กว้างขวางมากพอสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมไปทั่วตามจุดต่าง ๆ ที่สามารถเห็นทะเลหมอกได้ชัดเจน เพื่อที่จะได้เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากันเลย (ภาพโดยผู้เขียน) เมื่อได้เก็บภาพกันจนเป็นที่อิ่มเอมแล้วก็มุ่งหน้าลงสู่จังหวัดปัตตานี เพื่อไปพักค้างคืนกันที่ " มูเทียร่า รีสอร์ท " ที่พักคืนที่ 2 ของเรา ตั้งอยู่ที่บ้านบูดี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นรีสอร์ทริมทะเลที่สร้างด้วยอิฐบล็อกนาโน อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เช่นหาดตะโละกาโป หาดตะโละสะมิ และแหลมตาชีเป็นต้น ส่วนคืนสุดท้ายของทริปนี้ เราลงมติกันว่าจะไปพักค้างคืนกันที่บ้านญาติใน จ.นราธิวาส ก่อนมุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ ในเช้าวันต่อมา ด้วยความอิ่มเอมและประทับใจเป็นอย่างมาก กับทริปทะเลหมอกอัยเยอร์เวงในครั้งนี้ ที่ไม่ทำให้ต้องผิดหวังเลย แถมยังได้ภาพความทรงจำที่สวยงามของทะเลหมอกแห่งนี้กลับไปอีกมากมาย เพื่อเตือนความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราได้เคยมาสัมผัสกับปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์นี้ได้แล้ว ที่ซึ่งอยู่ในแถบชายแดนใต้ที่หลายคนก็คาดไม่ถึงว่าจะมีทะเลหมอกที่งดงามเช่นนี้อยู่ด้วย