ถ้าจะแนะนำจังหวัดที่น่าเที่ยวในญี่ปุ่นแล้ว มีอยู่จังหวัดหนึ่งครับที่มีเรื่องราวน่าสนใจหลากหลายรูปแบบ จังหวัดนั้นเป็นที่เกิดตำนานความรักของสาวญี่ปุ่นชื่อโจโจ้ซัง , เป็นจังหวัดที่โชคดี มีวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น , แต่ว่าก็มีโชคร้ายเมื่อ วันที่ 9 สิงหาคม 1945 ถูกระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ทิ้ง ทำให้ต่อมาญี่ปุ่นประกาศแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 จังหวัดที่ผมจะพาไปเที่ยวในบทความนี้ คือ “จังหวัดนางาซากิ” ครับ นางาซากิเป็นจังหวัดหนึ่งในเกาะคิวชู อยู่ทางใต้ของญี่ปุ่น เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น เวลานั่งเครื่องบินไปเที่ยวญี่ปุ่น เราจะถึงเกาะคิวชูก่อน จากไทยใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว จังหวัดนี้มีเกาะเล็ก เกาะน้อยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนชื่อจังหวัดนางาซากินั้นหมายถึง คาบสมุทรที่ยาว นางาซากิเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงระดับโลกคู่กับ “ฮิโรชิมา” จังหวัดนี้ มีความไม่เหมือนจังหวัดอื่นอยู่หลายประการเนื่องจากในอดีต นางาซากิเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ มีการติดต่อค้าขายกับ จีน เกาหลี ต่อมาได้กลายมาเป็นเมืองท่า มีการติดต่อค้าขายกับชาวตะวันตก จึงทำให้ได้รับอารยธรรมของชาวตะวันตกและได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีน มีไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดติด 1 ใน 3 ในญี่ปุ่น ในอดีตประเด็นเรื่องอิสรภาพในการนับถือศาสนาคริสต์มีเกิดขึ้นทั่วไปในญี่ปุ่น แต่เหตุการณ์ฆ่าผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ ได้เกิดขึ้นในจังหวัดนี้ เป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องประกาศปิดประเทศกว่า 250 ปี นางาซากิ ยังมีความสัมพันธ์กับฮอลันดาหรือเนเธอร์แลนด์อย่างดี เนื่องจากตอนที่รัฐบาลโชกุนสั่งปิดประเทศและขับไล่ชาวต่างชาติออกไปจนหมดสิ้นนั้น คงเหลือแต่ชาวฮอลันดาเท่านั้น ญี่ปุ่นจึงได้เรียนรู้วิทยาการสมัยใหม่กับชาวฮอลันดา ด้านการท่องเที่ยวนั้น หากนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฝากจากจังหวัดคุมาโมโตะ ไปยังจังหวัดนางาซากิแล้ว จะมีนกนางนวลบินไปส่งนักท่องเที่ยวระหว่างทางด้วย อีกส่วนหนึ่งคือเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามเป็นแบบเฉพาะตัวของนางาซากิ เช่นขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เขาอินาสะ , เข้าพักในเมือง Sasebo เมืองนี้มี Huis Ten Bosch ซึ่งคือสวนสนุกที่ออกแบบอาคารต่าง ๆ เป็นสไตล์เนเธอร์แลนด์ มีกังหันน้ำ มีลำคลอง มีเครื่องเล่นแต่ไม่เน้นที่หวาดเสียว มีโรงแรมสวย ๆ อยู่ภายใน มีเทศกาลชมดอกไม้ และเทศกาลชมไฟแสงสี Ilumination ยามค่ำคืนที่สวยงามติดอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ที่นั่นปลูกดอกทิวลิปไว้ใต้กังหันน้ำที่เป็นสัญลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์ อีกที่หนึ่ง ทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องไปชมให้ได้เมื่อมาถึงนางาซากิแล้ว ไม่ใช่สถานที่ ที่ทำให้เกิดความรื่นเริง บันเทิงใจเหมือนที่อื่นครับ แต่ผู้เข้าชมจะได้เห็นความโหดร้าย แล้วเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาแทน คือ พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู ครับ ภายในต้องสะดุดตากับนาฬิกาโบราณที่หยุดเดินเวลา 11:02 นาที นั่นหมายความว่า เป็นเวลาที่ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงมา ไม่ได้แค่หยุดเอาทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ แต่ได้เอาชีวิตของผู้คนกว่า 70,000 คนให้ล้มตายตามไปด้วย ยังมีรูปภาพ วัตถุพยานต่าง ๆ จัดไว้ให้ชมอีกมากมายครับ ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ มีอีก 2 แห่งครับ สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณู และเป็นการเรียกร้องสันติภาพ ที่นั่นคือ “สวนสันติภาพนางาซากิ” ที่สวนนี้มีรูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นฟ้าให้ระวังภัยอันตรายจากระเบิดปรมาณู ส่วนมือซ้ายชี้เหยียดออกไปให้มองหาสันติภาพ รูปปั้นนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนางาซากิไปแล้ว และอีกที่หนึ่งเป็นพื้นที่โล่งกลางแจ้ง มีเสาไม้สีดำ ๆ ปักอยู่ให้เห็นว่าตรงนั้นคือสถานที่ระเบิดปรมาณูได้ตกลงมา ทุกวันที่ 9 สิงหาคม ของทุกปี ชาวเมืองนางาซากิ จะมาร่วมไว้อาลัย และเรียกร้องสันติภาพกันที่นี่ ญี่ปุ่นมีสัตว์มงคลอยู่หลายชนิด นกกระเรียนคือสัตว์ที่คนญี่ปุ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับอายุยืนยาว นกกระเรียนที่นางาซากิ ได้กลายเป็นนกที่โบยบินไปยังทั่วโลก ประกาศให้ผู้คนได้ตระหนักถึงคำว่า “สันติภาพ” เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน