หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่รักการดูแลเส้นผม และเสียเงินไปกับการซื้อครีมบำรุงผมแพง ๆ อยู่เป็นประจำ ลองหันมาใช้สมุนไพรไทยกันดูดีไหมคะ ทั้งราคาถูก ประหยัด แถมยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงรากผมได้ไม่แพ้ครีมนวดในท้องตลาด ที่มักจะใส่สารเคมีและซิลิโคน ทำให้บางคนอาจจะแพ้และเกิดเป็นตุ่ม คัน บริเวณหนังศีรษะได้ ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะมาแนะนำ 4 สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผมและหนังศีรษะ ให้เพื่อน ๆ ได้ไปลองหามาปลูกติดบ้านไว้ จะได้เอามาใช้หมักบำรุงผมโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีราคาแพง ช่วยให้เราประหยัด และไม่ทำร้ายเส้นผมด้วยค่ะมะกรูดขอบคุณรูปภาพจาก Najib Zamri จาก Pixabay อย่างที่เราทราบกันดีว่าผลมะกรูดช่วยบำรุงผมและหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี แชมพูหลาย ๆ ยี่ห้อก็มักจะมีส่วนผสมของมะกรูด ดังนั้นหากเพื่อน ๆ ปลูกมะกรูดไว้ที่บ้านสักต้น ก็สามารถเด็ดผลมะกรูดมาต้มหรือเผาไฟให้ง่ายต่อการคั้นน้ำ แล้วนำน้ำมะกรูดที่ได้ไปใช้หมักผม หรือใช้สระแทนแชมพู ซึ่งเจ้ามะกรูดจะช่วยขจัดรังแค ลดผมขาดหลุดร่วง ขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันหนังศีรษะของเรา อีกทั้งน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะกรูด จะช่วยเคลือบบำรุงเส้นผม ให้ผมนุ่มเงางาม ไม่พันกันอีกด้วยค่ะการปลูกต้นมะกรูดให้ออกผลนั้น ค่อนข้างที่ใช้เวลานานประมาน 1-2 ปี และมะกรูดเป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างใหญ่ หากบ้านใครไม่ค่อยมีพื้นที่ ผู้เขียนขอแนะนำให้ปลูกลงในกระถางหรือท่อปูน โดยผสมดินร่วนปนทรายและปุ๋ยคอกลงไปในกระถาง ก่อนนำต้นกล้าลงปลูก รดน้ำเช้าเย็นในช่วงแรก พอเวลาผ่านไปประมาน 6 - 7 เดือนก็สามารถเด็ดใบมาประกอบอาหารได้ โดยผู้เขียนขอแนะนำให้ปลูกในบริเวณที่มีแดด เพื่อให้ได้ผลผลิตดีค่ะอัญชันขอบคุณรูปภาพจาก tainoi จาก Pixabay ต้นอัญชันเป็นไม้เลื้อย ดอกมีสีน้ำเงินสวยงาม แถมยังสามารถนำไปคั้นน้ำดื่มหรือนำไปชุบแป้งทอดก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ และนอกจากจะได้ความอร่อยแล้ว สารอาหารจากดอกอัญชันยังช่วยบำรุงให้ผมของเราหนา ดกดำ เงางาม อีกด้วยนะคะ เพียงแค่เพื่อน ๆ นำดอกอัญชันไปคั้นน้ำ แล้วนำน้ำนั้นมาหมักผม ก็จะทำให้ผมเราหนา ดกดำ ถึงแม้จะอายุเพิ่มขึ้นก็ไม่มีผมหงอกให้รำคาญใจเลยค่ะ หรือหากใครมีลูกเล็ก ๆ แล้วอยากให้คิ้วของลูกดกดำสวยงามตอนโต ก็สามารถนำน้ำอัญชันมาทาคิ้วได้ด้วยนะคะ สำหรับวิธีการปลูกและดูแลรักษาต้นอัญชันก็ทำได้ไม่ยากเลย เพราะอัญชันเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย ชอบแสงแดด ดังนั้นจึงควรปลูกไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง รดน้ำเช้าเย็น ใช้ดินร่วนปนทรายจะทำให้เจริญเติบโตได้ดี และด้วยความที่อัญชันเป็นไม้เลื้อย ดังนั้นจึงควรปลูกไว้ริมรั้วหรือทำค้างไม้ระแนงไว้ให้ต้นอัญชันได้เกาะ นอกจากจะเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์แล้ว ยังสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับสวนของเราได้ด้วยค่ะว่านหางจระเข้ขอบคุณรูปภาพจาก Bishnu Sarangi จาก Pixabay หลาย ๆ คนคงทราบดีว่าว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นยาบรรเทาอาการแสบร้อนจากน้ำร้อนลวก หรือผิวไหม้แดดได้เป็นอย่างดี แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ว่านหางจระเข้ทำได้ก็คือช่วยทำให้เส้นผมของเราไม่แห้งฟู ชุ่มชื้น มีน้ำหนักด้วยนะคะ เพียงแค่เพื่อน ๆ นำว่านหางจระเข้มาปาดส่วนเปลือกแข็ง ๆ ออก ล้างน้ำยางเหนียว ๆ ออกให้สะอาด และนำเนื้อวุ้นมาปั่นให้ละเอียด อาจจะผสมน้ำมันมะพร้าวลงไปด้วย แล้วนำมาหมักผมโดยเน้นที่ปลายผม ล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำเพียงเท่านี้ผมเราก็จะกลับมามีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู แต่ถ้าหากใครไม่สามารถปลูกว่านหางจระเข้ได้จริง ๆ ก็สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ที่วางขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าแทนได้เช่นกันค่ะสำหรับวิธีการปลูกต้นว่านหางจระเข้นั้นก็ง่ายมากค่ะ เพียงแค่เราปลูกลงในดินร่วน วางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสปีละ 1 ครั้ง เพียงเท่านี้เราก็จะมีว่านหางจระเข้ให้ตัดใช้ทั้งปีแล้วค่ะและนี่คือสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้สาว ๆ ที่รักการดูแลเส้นผม ได้ลองหามาปลูกติดบ้านกันดูนะคะ นอกจากจะช่วยบำรุงเส้นผมของเราแล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้อีกด้วยค่ะ สำหรับครั้งหน้า ผู้เขียนจะนำเรื่องอะไรมาแบ่งปันให้อ่านกัน ก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณรูปภาพปกจาก Sasin Tipchai จาก Pixabay