อนิเมะเรื่อง Violet Evergarden ได้ฉายในช่วง Winter 2018 จากค่าย Kyoto Animation เป็นหนังแนว Drama, Fantasy, Slice of Life ที่ได้ความตอบรับจากคนดูเป็นอย่างมากเรื่องความสวยงามของเส้นสายของภาพแต่ละฉาก และเรื่องราวที่ซึ้งกินใจที่ร่วมไปกับตัวละครของที่ชื่อ Violet ที่ย้อนถึงอดีตสลับกับปัจจุบันว่าชีวิตของ Violet เป็นอย่างไร โดยได้ผลตอบรับที่เกินคาดส่งผลไปสู่การทำภาคแยกออกมาแบบมีการฉายในรูปแบบภาพยนตร์แทน โดยมีชื่อว่า Violet Evergarden : Eternity and the Auto Memory Doll “ฉันกำลังค้นหาความหมาย จากสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่” “ฉันละทิ้งอนาคตเพื่อแลกกับการปกป้องที่สิ่งที่มีค่าของฉัน” ออกมาให้รับชมในช่วง ต้นเดือนธันวาคม ปี 2019 ที่ผ่านมา เรื่องราวในช่วงเวลาที่ ไวโอเลตกำลังเป็นออโต้เมมโมรี่ดอลล์ ได้รับการจ้างวานให้ไปเป็นครูฝึกพิเศษเป็นเวลา 3 เดือน โดยให้ไปสอนกิริยามารยาทให้กับลูกสาวขุนนางที่ชื่อ อิซาเบลลา ที่ดูไม่มีกิริยามารยาทเอาเสียเลย ซึ่งอยู่ในโรงเรียนหญิงล้วน ในตอนแรก อิซาเบลลา รู้สึกไม่ดีที่ไวโอเลตมาคอยดูแล ช่วยเหลือหรือทำดีกับเธอมากมายขนาดนี้ แต่ในคืนหนึ่ง อิซาเบลลา เริ่มเปิดใจกับไวโอเลตมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันในช่วงเวลาหนึ่ง อิซาเบลลา ได้เล่าว่าตัวของเธอนั้นไม่ได้ไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลยอร์กแต่ในตอนแรกเธอชื่อ เอมี่ อยู่ในบ้านเก่าเล็ก ๆ ทำอาชีพขายดอกกุหลาบริมทางในช่วงสงคราม เธอออกไปเจอ เด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกทิ้งอยู่ข้างนอกท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บ เธอจึงตั้งใจที่จะเลี้ยงให้เป็นน้องสาวของเธอ โดยให้มีชื่อว่า เทย์เลอร์ โดยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขแต่ไม่นานทั้งสองคนก็ต้องแยกจากกัน เมื่อมีขุนนางคนหนึ่งบอกว่า เอมี่เป็นลูกของเขา โดยสั่งให้เธอทิ้งอดีตทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ แม้กระทั่งชื่อและน้องสาวของเธอด้วย แล้วให้เธอไปอยู่กับเขาซะ โดยขุนนางท่านนี้ได้กล่าวว่าจะให้น้องสาวของเธอไปอยู่ในที่ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนั้น เอมี่เธอจึงจำใจจากลากับ เทย์เลอร์ น้องสาวของเธอเมื่อไวโอเลตได้ฟังจึงบอกให้อิซาเบลลา เขียนจดหมายไปหาน้องสาวของเธอ จากนั้นไม่นานเมื่อเวลาผ่านไปสามเดือนไวโอเลตก็สอนเรื่องมารยาทให้กับอิซาเบลลา จนสำเร็จและได้จากลากันในที่สุด แล้วสุดท้ายจดหมายก็ไปถึงน้องสาวของเธอที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า โดยมีอยู่ 2 ฉบับ ฉบับแรกของ ไวโอเลต ได้บอกในจดหมายว่า หากมีปัญหาอะไรหรือต้องการที่จะพึ่งพาอะไรล่ะก็ให้มาหาเธอได้นะ และฉบับสุดท้าย ได้กล่าวว่า นี่คือบทร่ายเวทมนตร์ที่จะช่วยปกป้องเธอ เอมี่ เมื่อเทย์เลอร์ได้ฟังจบก็ถึงกับร้องไห้ออกมา เนื่องจากคำว่า เอมี่ เป็นชื่อที่ไม่มีใครจะเรียกตัวของ อิซาเบลลาอีกแล้ว หากได้ยินคำนี้จงรู้เอาไว้ว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดเวลาไม่มีใครแยกจากใจของเราสองคนนั้นได้3 ปีต่อมาเทย์เลอร์หนีออกมาจากบ้านเด็กกำพร้า โดยเธอออกตามหาบริษัทจดหมาย เพื่อตามหาจดหมายที่ไวโอเลตได้กล่าวไว้ จากนั้นเทย์เลอร์ก็ได้เป็นคนส่งจดหมาย เนื่องจากเธอมีความสุขมากในตอนนั้นที่ได้จดหมายของพี่สาวของเธอ จากนั้นเทย์เลอร์จึงขอส่งจดหมายไปหาพี่สาวของเธอ และได้ไปหาพี่สาวของเธอ แต่สุดท้ายเมื่อเทย์เลอร์ได้เจอกับพี่สาว(อิซาเบลลา)เธอไม่กล้าออกไปเจอ แต่ได้เห็นว่าพี่สาวของเธอนั้นต่างก็คิดถึงเธอไม่ต่างจากเธอคิดถึงเขาเลย สุดท้ายเทย์เลอร์ได้กล่าวว่าอยากจะเป็นนักส่งจดหมายที่ดีที่สุด เพื่อที่จะมาส่งจดหมายถึงมือพี่สาวของเธออีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเทย์เลอร์ก็ถูกรับเลื้ยงดูโดยบ้านเอเวอร์การ์เดน จนกว่าที่อายุจะถึงวัยที่จะทำงานได้แล้วจะมาเป็นคนส่งจดหมายอีกครั้งหนึ่ง จนกว่าจะถึงวันนั้น ทั้งสองไม่ว่าจะเทย์เลอร์ หรืออิซาเบลลาต่างก็คิดถึงกันและกันตลอดไปรีวิวจากเรื่อง Violet Evergarden : Eternity and the Auto Memory Doll จากสองตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องระหว่าง อิซาเบลลา ลูกสาวของตระกูลยอร์ก กับ เทย์เลอร์ เด็กกำพร้าที่ไม่มีบ้านในช่วงสงคราม จึงได้ข้อคิดทั้งสองที่ว่า "ไม่ว่าเราจะมาต่างสายเลือดกัน แต่หากความสัมพันธ์ของเรานั้นแน่นเฟ้นไม่เสื่อมคลาย หากวันใดที่ต้องจากลากัน ความทรงจำของเราทั้งสองจะไม่มีวันพรากจากเราไปไหนทั้งจากนี้และตลอดไป" ส่วนปลายเดือนปีนี้ก็ต้องรอลุ้น Violet Evergarden Movie ต่อว่าจะดำเนินเรื่องราวอะไรต่อไป แหล่งข้อมูลจาก MyAnimelistแหล่งรูปภาพจาก ภาพปก : IMDB/ จาก PIC1 : IMDB/ Pic 2 : IMDB/ Pic 3 : IMDB/ Pic 4 : IMDB