การมีผิวขาว กระจ่างใส คือสิ่งที่สาว ๆ หลายท่านปรารถนา ด้วยเหตุนี้จึงมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ผลิตมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะ สบู่ผิวขาว ครีมผิวขาว เซรั่มผิวขาวรวมถึงครีมเปลี่ยนสีผิวให้ขาว เป็นต้นซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ข้างต้นที่เราใช้เป็นประจำ และขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ สบู่ผิวขาว หรือสบู่ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสนั่นเอง แต่สบู่ผิวขาว จะช่วยให้ผิวขาวจริงอย่างที่ว่ามั้ย ในบทความนี้เราขอหยิบเอาสบู่แบรนด์ดังอย่าง สบู่เบนเนทสีส้ม มารีวิวให้เพื่อน ๆ ดูเป็นตัวอย่างนะคะก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า สภาพผิวก่อนใช้สบู่ผิวขาว หรือก่อนดูแลตัวเองจริงจัง เราเป็นคนผิวผสมมีแห้งบ้างเป็นบางครั้ง สีผิวไม่ขาวจั๊วะ ค่อนไปทางเป็นผิวสีน้ำผึ้ง (เกือบไหม้ อิอิ) และสีผิวไม่สม่ำเสมอกัน ที่สำคัญมีปัญหาข้อพับทุกส่วนคล้ำง่ายมาก ส่วนตัวเพิ่งจะมาดูแลตัวเองจริงจังช่วงตอนอายุ 20 ปี ซึ่งถือว่าช้ามาก เราใช้สบู่ผิวขาวมาหลากหลายยี่ห้อ แต่สุดท้ายก็มาตายรังที่ สบู่เบนเนทสีส้ม ตัวนี้ค่ะ สบู่ผิวขาวทุกตัวที่เราเคยใช้สิ่งแรกที่ตอบโจทย์เหมือน ๆ กันคือ หลังจากใช้แล้วให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่นขึ้น ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้นในลักษณะที่ไม่ใช่ขาวเวอร์ออกมานะคะ แต่ให้ความรู้สึกว่าผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นเท่านั้น แต่ผลลัพธ์นี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราฟอกเสร็จ และอาบน้ำเสร็จแล้ว ซึ่งถ้าต้องออกแดด หรือเจอมลพิษอื่น ๆ ข้างนอก ผิวก็จะสู่สภาพเดิม และอาจคล้ำเสียขึ้นได้หากไม่ทาครีมกันแดดหรือครีมทาผิว ดังนั้นเราคิดว่าการจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใดควรให้เวลากับมันสักพักและค่อยตามดูผลลัพธ์ต่อไป ซึ่งสบู่ผิวขาวบางยี่ห้อแค่ให้ความสะอาด กระจ่างใสเท่านั้น แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ที่ว่าปรับสีผิวให้ขาวขึ้น แต่บางยี่ห้อก็สามารถปรับสีผิวให้ขาวขึ้นได้จริง ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญด้วยนะคะดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้เรารู้เลยว่าสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเจอกับแดด มลพิษ และการดูแลตัวเองในส่วนอื่น ๆ ต่างกัน เพราะฉะนั้นใช้สบู่ยี่ห้อเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันจึงเป็นเรื่องธรรมดารีวิวผลลัพธ์ที่ได้หลังจากใช้สบู่ผิวขาว (เบนเนท สีส้ม)สบู่เบนเนทสีส้มตัวนี้หลังจากฟอกเสร็จทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกจะให้ความรู้สึกว่าผิวสะอาดขึ้น กระจ่างขึ้นทันที แต่ผิวค่อนข้างแห้ง ดังนั้นทุกครั้งที่ใช้สบู่ตัวนี้เสร็จเราจะต้องทาน้ำมัน หรือครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์จะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวขาว กระจ่างขึ้นประมาณหนึ่งเลยค่ะ ส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือส่วนข้อพับต่าง ๆ ที่เคยคล้ำกลับดูสว่าง และกระจ่างขึ้นมาก (ผิวดูใสขึ้นแบบแม่ยังทักค่ะ) ทั้งนี้เราไม่ได้เจอกับแสงแดดมาก และใส่เสื้อผ้ามิดชิดเวลาออกข้างนอกนะคะ สำหรับเราเมื่อใช้ในระยะเวลาที่นานขึ้นผิวก็ไม่ได้ขาวขึ้นไปจากช่วง 2-3 สัปดาห์แรกที่ใช้ค่ะ และหลังจากหยุดใช้ผิวยังคงกระจ่างใสอยู่ อาจจะไม่เท่าเดิม แต่ก็ไม่ได้กลับมาคล้ำขึ้นค่ะควรใช้สบู่ ควบคู่กับครีมบำรุงผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแต่หากปล่อยให้ผิวโดนแดดมาก ๆ โดยไม่ทาครีมกันแดด หรือทาครีมกันแดดแล้วก็จริงแต่ต้องเผชิญกับแสงแดด แสงยูวี หรือฝุ่นละอองเป็นเวลานาน ๆ รับรองว่าสบู่ผิวขาวตัวไหนก็เอาไม่อยู่นะคะ ยังไงก็กลับมาคล้ำขึ้นแน่นอน ต้องระวังด้วยนะ อยากเตือนไว้เลยว่าแดดเมืองไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก พยายามอย่าเผชิญหน้ากับมันจะดีที่สุดค่ะ เวลาผิวเสียแล้วจะแก้ยากมากเลยนะอย่าคาดหวังว่าสบู่จะช่วยเปลี่ยนสีผิวเราได้ 100%อยากฝากให้รู้ก่อนใช้สบู่ผิวขาวก่อนจะตัดสินใจซื้อสบู่หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสักชิ้น ควรศึกษาให้ดีเรื่องความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของแบรนด์นั้น ๆ รวมถึงอ่านรีวิวจากหลาย ๆ ที่เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะสุดท้ายนี้จากรีวิวทั้งหมดเราอยากบอกว่า เราเองก็ไม่ใช่คนผิวขาวอยู่แล้ว การเลือกใช้สบู่ผิวขาวสำหรับเราผลลัพธ์ที่ได้ คือผิวที่แลดูขาว กระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม แต่คงถึงขั้นเปลี่ยนจากสีผิวหนึ่งไปเป็นอีกสีหนึ่งเลยคงทำได้ยาก หากใช้เพียงแค่สบู่เท่านั้นค่ะ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)ดังนั้นควรใช้สบู่ควบคู่กับ การสครับผิว บำรุงผิว ทาครีมกันแดด รวมถึงบำรุงด้วยการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ประกอบกันทั้งหมดนี้อาจช่วยให้ได้ผลที่ดีในระยะยาวมากกว่านะคะ ที่สำคัญทุกสีผิวมีความสวยงามในแบบของตัวเอง อยากให้มั่นใจในตัวเองเอาไว้ และเน้นการดูแลผิวให้สะอาด มีสุขภาพดี จะดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดเลยค่ะผลลัพธ์ที่ได้และการเขียนรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ผู้อ่านท่านใดมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปเราน้อมรับทุกความเห็นเลยนะคะ และถ้าใครมีสบู่ดี ๆ หรือมีเทคนิคดี ๆ อยากแนะนำสามารถคอมเมนท์บอกกันได้เลยค่ะขอบคุณที่อ่านจนจบและหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์นะคะ ขออภัยในข้อผิดพลาดบางประการที่อาจเกิดขึ้นด้วยค่ะภาพปกจาก : Pexels ภาพประกอบผลิตภัณฑ์จากผู้เขียน และภาพอื่น ๆ จาก Pexels /Pexels