สถานการณ์โควิด ประเทศเพื่อนบ้าน ตรวจไม่พบหรือหาไม่เจอ สถานการณ์การระบาดไวรัส COVID-19 ในประเทศเพื่อนบ้านของไทยเราอย่างเช่น กัมพูชา ดูเหมือนจะทรงตัวและควบคุมได้เป็นอย่างดี หากเทียบกับจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดที่ตรวจพบในประเทศกัมพูชาวันนี้ตามรายงานชอง WHO มีทั้งหมด 275 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต ในขณะที่ประเทศไทยเราพบผู้ป่วยจำนวนมากถึง 3,514 ราย เสียชีวิตทั้งหมด 59 ราย อะไรคือสาเหตุที่ประเทศไทยเราพบจำนวนผู้ป่วยมากกว่าหรือระบบสาธารณสุขของเราไม่เข้มแข็งพอ? ตั้งแต่เริ่มต้นของการระบาดของไวรัส ประเทศกัมพูชาได้มีการเริ่มต้นกำหนดมาตรการในการป้องกันการระบาดเทียบได้ว่ารวดเร็วและฉับพลันหลังจากที่เกิดการระบาดขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศข้างเคียงอย่างเช่น เวียดนาม ได้เริ่มมาตรการในการป้องกันทันทีในการรับมือกับไวรัส รัฐบาลเวียดนามมีมาตรการเข้มงวดในการปิดกั้นพรมแดนระหว่างประเทศเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ไวรัสเกิดการแพร่ระบาดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรภายในประเทศ ขณะที่มาตรการการป้องกันของประเทศไทยก็มีการดำเนินการเช่นกัน แต่ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ในระยะแรก หากมองในทางกลับกันอาจเป็นเพราะระบบสาธารณสุขของประเทศไทยนั้นแข็งแรงกว่าประเทศเพื่อนบ้านจึงอาจเป็นสาเหตุให้เราสามารถตรวจพบจำนวนผู้ป่วยไวรัสได้จำนวนมากถึงสามพันกว่าคน ประชากรกัมพูชาโดยส่วนมากไม่สามารถที่จะเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบนอกเขตเมืองหลวง เช่น พนมเปญ หรือเมืองท่องเที่ยวอย่างเช่น เสียมราฐ ระบบสาธารณสุขของไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาเซียนที่ต่างประเทศยอมรับถึงความสามารถเทียบเคียงระบบสาธารณสุชในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ถ้าหากเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด ทำไมประเทศกัมพูชาถึงสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ทั้งหมด? สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการป้องกันการระบาดและแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพและแตกต่างกันของประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นกรณีศึกษาที่ไทยเราควรให้ความสำคัญไม่แพ้ไปกว่ามาตรการป้องกันประเทศ สิ่งสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดชองไวรัส เราคนไทยควรให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความสะอาด ล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกและหากสงสัยว่ามีอาการไข้หวัด หายใจติดขัด ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที