Photo by Barth Bailey on Unsplashเรากำลังออกจากสตูล เมืองเงียบที่ไม่หงอย (บางทีก็อยากให้มีโรงหนังสักโรงผุดขึ้นกลางเมือง บางทีก็อยากให้มีแม่น้ำสักสายแบ่งเมืองเป็นสองฟาก) เราขับรถวนอีกรอบไปตามถนนสายที่ผ่านอาคารเก่า ผ่านหอนาฬิกา แดดเที่ยงเริ่มแรง เราอยากได้ลมทะเล แต่ไม่มีเวลามาก เราจึงคิดถึงเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น หนังสือสักเล่ม และถือโอกาสลาเพื่อนเราลัดเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงข้ามบิ๊กซีเพื่อนเราอยู่ที่นี่แหละ เครดิตภาพโดยผู้เขียนร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ชื่อ "ความกดอากาศต่ำ" อยู่ในซอยที่เราเรียกกันว่า ซอยหน้าบิ๊กซี ซอยเล็ก ๆ ที่นำไปสู่ร้านหนังสือและร้านกาแฟน่ารักและอบอุ่น เจ้าของร้านเป็นสาวสวยซึ่งยิ้มรอลูกค้าตลอดวัน เธอเป็นนักเขียนด้วย และมีความสุขกับการชงเครื่องดื่มบอกไม่ชัดว่านี่เป็นร้านหนังสือหรือร้านกาแฟ แต่มีเสิร์ฟทั้งสองอย่างเครดิตภาพโดยผู้เขียนเจ้าของร้านผู้ชายเป็นนักเขียน กวี และเจ้าของสำนักพิมพ์ พวกเขาพิมพ์วรรณกรรมดี ๆ หลายเล่ม หนังสือรางวัลซีไรต์หลายเล่ม กวีดีๆมากมาย พวกเขาเพิ่งย้ายจากกรุงเทพมาได้สี่ห้าปีแล้ว ลงหลักปักฐานในแผ่นดินนี้ตามความเชื่อและความศรัทธา หลังจากแรมรอนร่อนปีกออกท่องโลกกว้างมาหลายปี ใครแวะเข้าไปหาหนังสืออ่าน จะได้สนทนาเรื่องวรรณกรรม ศิลปะ ปรัชญา การเมือง ชีวิตและทุกเรื่องที่สนใจ ได้ชิมกาแฟและเครื่องดื่มรสชาติดี จะเลือกอย่างใดก็ได้ จะเลือกทั้งหมดก็ไม่ว่ากัน เครดิตภาพโดยผู้เขียน และกล้องโทรศัพท์ปีแรก ๆ อาจจะยังไม่มีใครรู้จักร้าน แต่หลังจากผ่านไปหลายปี มีลูกค้าประจำมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นบรรดาคนผู้รักหนังสือ และบางครั้ง ลูกค้าที่เข้ามาเพื่อชิมรสชาติเครื่องดื่ม และถูกบรรยากาศโดยรอบชักพาไป นานวันเข้า พวกเขาก็กลายมาเป็นนักอ่าน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นความสำเร็จสูงสุดของร้านหนังสือ ซึ่งตั้งใจว่าจะให้เป็นชุมชนเสวนาเรื่องการอ่านการเขียนลองคิดดู เมืองซึ่งไม่มีร้านหนังสือ เมืองที่ไม่มีคนอ่านหนังสือ ประชาชนในประเทศนี้จะเอาสติปัญญาที่ไหนมา ประชาชนที่ไม่มีปัญญาก็เป็นประชาชนที่ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งคนไม่มีปัญญามาบริหารบ้านเมือง อย่าไปไกลถึงขั้นนั้น เอาแค่ความรื่นรมณ์ในการพูดคุย จะได้ไม่หมกมุ่นในเรื่องไร้สาระ เรื่องเหลวไหล หรือเรื่องหนักกระโหลก เครื่องดื่มและหนังสือดี ๆ การพูดคุยดี ๆ สร้างสังคมดี ๆ เราจะออกจากสตูลและเราคิดว่าคงไม่นาน เราจะมาเยี่ยมเขาอีกเครดิตภาพโดยผู้เขียนผ่านมาสี่ห้าปี มีงานเสวนาวรรณกรรมมากมายที่นี่ มีกลุ่มคนทำกิจกรรมหลายกลุ่มแวะเวียนมาใช้สถานที่ มีหลากหลายกลุ่มเข้ามาพูดคุย ผ่านมาหลายปี พื้นที่เล็กๆแห่งนี้สร้างนักอ่านไปหลายกลุ่ม ถ้ายังคิดไม่ออก ลองนึกถึงเมือง ๆ หนึ่งที่มีแต่ผู้คนที่อ่านหนังสือเป็น ลองนึกแค่นี้แหละ กลุ่มคนที่จะหนีบหนังสือติดตัวไปทุกที่ และปลูกฝังคนรุ่นต่อไปให้อ่านหนังสือ ชักชวนคนใกล้ตัวให้รักการอ่าน คิดแค่นั้น เมืองนั้นจะเป็นอย่างไรนะเอาแค่สถาณการณ์การใช้ภาษาของคนแต่ละเมือง ป้ายที่เขียนผิด ข้อความที่เขียนผิด แม้แต่หนังสือราชการยังเขียนผิด มีใครยังไม่เห็นปัญหาบ้างประชากรไทยล้วนแต่ใช้ภาษาไทยผิดกันหมด ทั้งเขียนผิดไม่ยอมแก้และตั้งใจผิด เมื่อก่อนตัวหนังสือผิดสักตัวแทบไม่มีเพราะกว่าจะออกสื่อได้ต้องผ่านบรรณาธิการ ยิ่งสื่อทีวี สื่อสิ่งพิมพ์แล้ว มักจะถูกยึดถือเป็นมาตรฐาน เขียนผิดคนจะเข้าใจว่าเขียนถูก แต่สมัยนี้ ไม่มีใครสนใจคำผิดคำถูก พิมพ์ผิดก็ไม่แก้ และที่แย่คือคิดว่าเขียนถูกแต่ถึงอย่างนั้น ก็พอหามุมคิดให้สบายใจ ภาษาสมัยคุณพ่อก็แตกต่างจากภาษาสมัยคุณทวด ดูในหนังย้อนยุคสิ ภาษาเหมือนสมัยนี้เสียที่ไหน ถ้าลองทำใจนิ่ง ๆ เย็น ๆ วันหนึ่งข้างหน้า ภาษาผิดๆเพี้ยน ๆ นี้ก็กลายเป็นภาษาราชการของคนรุ่นต่อ ๆ ไป ใครจะไปรู้ แต่อย่ารอถึงวันนั้นเลย เครดิตภาพโดยผู้เขียนชื่อร้านถือกำเนิดขึ้นตอนที่กลุ่มควันจากอินโดนีเซียปกคลุมเมืองสตูล ตอนนั้นร้านเพิ่งเปิด พวกเขาชวนนักเขียนกวีหลายคนร่วมกันเขียนงานคนละชิ้นภายใต้ชื่อความกดอากาศต่ำ พิมพ์หนังสือเป็นเล่มและเปิดตัวหนังสือพร้อมกับเปิดร้าน จากความหมายว่าพื้นที่เล็ก ๆ ที่กดทับเราด้วยหนังสือ ตอนนี้บรรยากาศนั้นแผ่ปกคลุมท้องฟ้าของเมืองไว้แล้ว เมฆก่อตัวหนาพร้อมจะตกลงมาเป็นตัวอักษรและมิตรภาพ เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกกดทับด้วยหนังสือ เครดิตภาพ โดยผู้เขียน เราบอกลาเพื่อน มีหนังสือติดมือไปด้วยาเราขับรถออกจากสตูล ไม่นานเมืองนี้ก็คงมีห้างและโรงหนัง สนามบินและอะไรต่อมีอะไรอีกรวมทั้งอาจมีแม่น้ำหรือสะพานผุดขึ้นกลางเมืองอย่างที่ใครก็รู้ มันเป็นเรื่องของเวลาและอย่างที่รู้ เมืองนี้มีร้านหนังสือเครดิตภาพ โดยผู้เขียนติดตามข่าวสารของร้านความกดอากาศต่ำได้ที่ Low Pressure Area