ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร ปศุสัตว์ ดิน น้ำและพลังงาน รวมถึงการพัฒนาคนกับสิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุลอย่างเป็นระบบ ศูนย์แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก ห่างจากเขื่อนขุนด่านปราการชลประมาณ1กิโลเมตร เป็นศูนย์เรียนรู้อีกแห่งที่ควรพาบุตรหลานและครอบครัว มาศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศน์และการทำเกษตรในทฤษฎีต่าง ซึ่งที่แห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ร่มรื่นเปรียบเสมือนเราเดินอยู่ในป่าจริง เสียงนกร้อง และเสียงน้ำไหลที่พาให่เคลิบเคลิ้มจนอยากพักอาศัยอยู่ที่นี่อย่างถาวรเลยครับศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำเนินการโดยสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ที่เกี่ยวเกี่ยวกับการจัดการและพัฒนาสิ่งแวดล้อม ปศุสัตว์ พลังงาน และระบบนิเวศน์ และรวมถึงการแก้ไขปรับปรุงคน ดิน น้ำ ป่าอย่างเป็นระบบ เมื่อเราเข้ามาภายในศูนย์แห่งนี้เราจะสัมผัสได้ถึงบบรรยากาศที่ร่มรื่นและเขียวขจีไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด เมื่อเราเขามาด้านในเรือนรับรอง ทางศูนย์ได้มีวิทยากรมาบรรยาย ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการสร้างศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา เมื่อฟังการบรรยายจบ วิทยากรจะพาเราเดินชมฐานการเรียนรู้ในจุดต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 23 ฐาน ในพื้นที่14ไร่เศษ ซึ่งได้จำลองลักษณะภูมิศาสตร์ของประเทศไทยครบทั้งสี่ภาค และมีฐานเรียนรู้ที่สามารถฝึกปฏิบัติและนำไปประยุกต์ใช้ได้เองทั้งหมด 23 ฐาน บรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบาย และเต็มไปด้วยร่มไม้นานาชนิดซึ่งตลอดทางเดินจะมีป้ายบอกชื่อของต้นไม้ การรักษาต้นไม้ การบำรุงรักษาต้นน้ำเพื่อคงความสมดุลของสิ่งแวดล้อมและมีป้ายแนะนําถึงชนิด รายชื่อ และประโยชน์ของต้นไม้และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ การบำบัดน้ำเสียด้วยแสงแดดและสายลม ตามหน้าที่ของธรรมชาติการเลี้ยงดิน ให้ ดินเลี้ยงพืชระหว่างทางเราจะเจอกับฐานพลังงาน เช่นการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล การเผาถ่าน การทำน้ำส้มควันไม้ และการทำเตาถ่านที่ทำจากดิน และทำจากถังน้ำมัน200 ลิตร ในจุดนี้ เราสามารถนำวิธีการเผาถ่าน การทำเตาเผาถ่านจากดินเหนียว การทำเตาเผาถ่านจากถัง200ลิตร และการผลิตน้ำส้มควันไม้ มาประยุกต์ใช้กับเราได้ด้วยครับเดินต่อไปเรื่อย ๆจะเจอกับยุ้งข้าวและเครื่องมือการเกษตรที่หาชมได้ยากให้เราได้ศึกษาอีกเยอะเลยโรงเรือนที่จัดแสดงเกี่ยวกับพลังงานโซล่าเซลล์เครื่องสูบน้ำจากพลังงานมนุษย์(ปั่นจักรยาน)ใช้รดน้ำผังในแปลง และยังได้ออกกำลังกาย ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยครับจากจุดปั่นจักรยานสูบน้ำ เดินไปอีกหน่อยจะขึ้นเนินภูเขาเพื่อศึกษาระบบธรรมชาติในพื้นที่สูง มีไม้ยืนต้นที่หายากและควรอนุรักษ์หลายชนิด เช่น กระถินณรงค์ (ต้นใหญ่แบบนี้หาได้ยากมาก)ไผ่เหลืองสะพานแขวนเชื่อมต่อระหว่างเนินสูง สามารถถ่ายรูปได้ครับ แต่ปริมาณคนที่ขึ้นบนสะพานแขวนได้ไม่เกิน 5 คนครับที่นี้ปลาอ้วนท้วนสมบูรณ์มากครับปลานิลในศูนย์แห่งนี้เยอะมาก แจ่ทางศูนย์ไม่นำปลามาจำหน่าย และไม่มีการนำมาบริโภคนะครับ เลี้ยงเพื่ออนุรักษ์และเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศในที่แห่งนี้คลองเล็ก ๆนี้เรียกว่า คลองไส้ไก่ เพราะมีลักษณะคดเคี้ยวเหมือนไส้ไก่ ประโยชน์ของคลองไส้ไก่คือ การที่คลองคดเคี้ยวนั้น เมื่อหน้าฝนที่มีน้ำไหลแรง คลองจะช่วยชะลอความรุนแรงของกระแสน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และหน้าแล้งคลองจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผืนป่าและหน้าดินส่วนด้านล่างนี้คือไม้ไผ่ผ่าซีก และเจาะรูใต้ท้องลำ แล้วนำไปวางบนเสาไม้คำยัน โดยให้รูอยู่ด้านล่าง โดยมีการลดระดับลดหลั่นกันลงไป จากที่สูงไปสู่ที่ตำแล้วปล่อยน้ำให้ไหลไปตามลำไม้ น้ำจะไหลลงไปตามรูที่เจาะไว้ โดยวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้กับผืนดินครับเส้นทางเดินไปภาคใต้ตามลูกศรที่ตั้ง 98/1 หมู่ 2 ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกที่จอดรถ : มีวันทำการ : จันทร์ - อาทิตย์เวลาเปิด - ปิด 08.00-17.00ค่าเข้าชม : ฟรีเบอร์โทรติดต่อก่อนเข้าศึกษาดูงาน กรณีมาเป็นหมู่คณะ โทร 037-384049แผนที่แนะนําแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง