ไลฟ์แฮ็ก

ว่านหางจระเข้รักษาแผลน้ำร้อนลวก

101
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ว่านหางจระเข้รักษาแผลน้ำร้อนลวก

//ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน//

เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณครูที่โรงเรียนของหลานฉันโทรมาบอกว่าหลานวิ่งเล่นกับเพื่อนในช่วงพักกลางวัน หลานของฉันวิ่งด้วยความไม่ระมัดระวังจึงไปชนรุ่นพี่ที่กำลังถือถ้วยมาม่า น้ำร้อนในถ้วยมาม่าจึงหกรดที่หน้าอกของหลาน และด้วยความร้อน หลานของฉันจึงแก้ปัญหาโดยการนำแก้วน้ำแข็งที่ตัวเองถืออยู่ไปตักน้ำมาราดที่หน้าอกตัวเอง แล้วใช้มือถูไปมาบริเวณที่น้ำร้อนลวก ผิวหนังบริเวณที่โดนน้ำร้อนลวกจึงเกิดการถลอก กว่าคุณครูจะรู้ก็เป็นช่วงบ่ายกว่า ๆ แล้ว เพราะเด็ก ๆ หมดเวลาพักกลางวัน และทยอยเดินขึ้นห้องเรียนในภาคบ่าย โดยเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันเป็นคนบอกคุณครูประจำชั้น

ภาพโดย ทิตาภา จุลศิริวงศ์//ภาพถ่ายโดยผู้เขียน//

หลังจากที่คุณครูเปิดดูแผล และซักถามที่มาของแผลแล้ว จึงนำสมุนไพรบัวหิมะมาทาบริเวณแผลให้ แล้วจึงได้โทรบอกฉัน โดยคุณครูแนะนำในเบื้องต้นว่าอย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำ เพราะจะทำให้แผลติดเชื้อ ดังนั้น ฉันจึงต้องใช้วิธีการเช็ดตัวให้หลานในช่วงที่แผลยังไม่หาย และยังต้องไปหาซื้อยามาใช้ทาบริเวณแผลด้วย แต่คุณครูแนะนำว่าหากที่บ้านมีว่านหางจระเข้ ก็ให้นำว่านหางจระเข้มาทาบริเวณแผลก็ได้

Advertisement

Advertisement

ฉันจึงต้องค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณอย่างไร จึงทราบว่าว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ ได้ โดยใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ เป็นยาสมานแผล ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ใช้ห้ามเลือด ใช้กระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ทำให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นยาระบาย แก้ไอ และแก้เจ็บคอได้ด้วย

หลังจากทราบสรรพคุณของว่านหางจระเข้แล้ว เย็นวันถัดมาฉันจึงออกไปตัดว่านหางจระเข้ที่แม่ปลูกไว้หน้าบ้านมาลอกเปลือกออก แล้วล้างทำความสะอาด โดยล้างจนยางสีเหลือง ๆ ออกหมด แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ทาแผลให้หลาน

ภาพโดย ทิตาภา จุลศิริวงศ์//ภาพถ่ายโดยผู้เขียน//

ภาพโดย ทิตาภา จุลศิริวงศ์//ภาพถ่ายโดยผู้เขียน//

โดยทาทั้งเช้าก่อนหลานไปโรงเรียน และเย็นก่อนเข้านอน ซึ่งใช้เวลาประมาณอาทิตย์กว่า ๆ แผลจึงเริ่มแห้งและตกสะเก็ด และหลังจากนั้นประมาณ 2 -3 วัน สะเก็ดจึงเริ่มหลุดลอกออก จนตอนนี้หายสนิท และไม่มีอาการเจ็บที่แผลแล้ว แต่ยังคงเป็นแผลเป็นอยู่

Advertisement

Advertisement

ภาพโดย ทิตาภา จุลศิริวงศ์//ภาพถ่ายโดยผู้เขียน//

ซึ่งฉันก็ถือว่าการรักษาแผลน้ำร้อนลวกในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจแล้ว และคิดว่าโชคดีที่บ้านฉันได้ปลูกว่านหางจระเข้ไว้ ไม่อย่างนั้นคงต้องไปหาซื้อสมุนไพรบัวหิมะมาทาให้หลาน ซึ่งคุณครูให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าถ้าซื้อบัวหิมะเหมือนที่โรงเรียน ราคาจะอยู่ที่หลอดละพันกว่าบาท ซึ่งสรรพคุณของบัวหิมะก็เหมือนกับว่านหางจระเข้ที่ใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกนั่นแหละ

หากที่บ้านของเพื่อน ๆ พอจะมีพื้นที่ที่ใช้ปลูกต้นไม้ได้ ฉันแนะนำให้นำว่านหางจระเข้มาปลูกไว้นะคะ เพราะสรรพคุณของว่านหางจระเข้นี้ดีจริง ๆ หากวันหนึ่งเพื่อน ๆ มีความจำเป็นต้องใช้ในการรักษาแผลน้ำร้อนลวกเหมือนหลานของฉัน ก็จะสามารถตัดมาใช้ได้ทันทีค่ะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์