ศึกฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ดำเนินมาถึงนัดสำคัญของพลพรรค “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มีคิวย้ายวิกเปิดแอนฟิลด์ทำศึกแตกหัก! กับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่ตุนความได้เปรียบเก็บชัยชนะ 1-3 มาในเกมแรก แม้สถานการณ์จะดีกว่าแบบสุดกู่ แต่พวกเค้ารู้ดีว่ายังประมาทไม่ได้ เพราะลิเวอร์พูลฤดูกาล 2018/2019 เคยสร้างปาฏิหาริย์โดนบาร์เซโลนายิงก่อน 3-0 แล้วกลับมาพิชิตที่แอนฟิลด์ 4-0 พลิกเข้าไปชิงชนะเลิศจนคว้าแชมป์ได้ในที่สุด เกมนี้ซีเนดีน ซีดาน จึงมาแบบรัดกุมไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเพื่อนร่วมลีก นัดนี้เป็นเกมที่สนุกแน่นอนเพราะหงส์ไร้ทางเลือกต้องเปิดฉากบุกตั้งแต่นาทีแรก บทวิเคราะห์จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันเลยครับ เจ้าบ้านลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ กลับมาเก็บชัยชนะในลีกเหนือแอสตัน วิลล่า 2-1 พักตัวหลักซาดิโอ มาเน่ เพียงแค่คนเดียว (สำรอง น.75) แต่การได้พัก 4 วัน ปักหลักในบ้านไม่ต้องเดินทาง เป็นระยะเวลาเพียงพอสำหรับการฟื้นตัวนักเตะ ตัวหลักเดิมนอกจากฟาน ไดจ์ค , โกเมซ , มาติป และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่มีใครเจ็บเพิ่ม มีเพียงเคลเลเฮอร์ ประตูสำรอง และดิว็อก โอริกี้ ที่มีข่าวต้องรอเช็กฟิต แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับทีม คาดว่าจะมีการปรับทัพเล็กน้อยจากเกมแรก แผงกองหน้าการที่คล็อปป์เลือกเก็บ เฟอร์มิโน่ เปลี่ยนตัวออกมาพักในเกมกับวิลล่า เป็นสัญญาณว่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงสลับกับดิโอโก้ โชต้า อีกรายที่ต้องปรับแน่ ๆ จากนัดแรกคือ นาบี เกอิต้า ที่ได้ลงสนามแบบเซอร์ไพรส์ แต่ไม่สามารถสร้างผลงานได้จนถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ก่อนหมดครึ่งแรก จะเปลี่ยนมาใช้ ติอาโก้ ลงมาช่วยแดนกลางที่เจ้าตัวทำได้ดีในเกมกับวิลล่า ในรายอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง แดนหน้านำทัพโดยซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ เช่นเคย เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังจัดทัพในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูอลิสซง เบ็คเกอร์ คู่เซ็นเตอร์โอซาน คาบัค กับนาธาเนียล ฟิลลิปส์ แบ็กขวาเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กซ้ายแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แผงมิดฟิลด์จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม , ฟาบินโญ่ , ติอาโก้ อัลคานตาร่า แนวรุกซาดิโอ มาเน่ , เฟอร์มิโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ราชันชุดขาวทีมเยือน มีสภาพไม่ต่างกับลิเวอร์พูลคือต้องกลับไปเล่นเกมหนักในลีกกับบาร์เซโลนา และเปิดบ้านชนะไปได้ 2-1 สลับตัวหลักออกมาพักหลายคนในครึ่งหลัง (โทนี่ โครส, วินิซิอุส, เบนเซม่า น.72) จะมีปรับตำแหน่งแบ็กขวา อัลบาโร โอดริโอโซลา ลงมาเล่นแทน ลูคัส บาซเกซ ที่เจ็บในเกมกับบาร์เซโลนา โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ก่อนจบครึ่งแรก รวมถึง เซอร์จิโอ รามอส ที่เจ็บจากเกมส์ทีมชาติ และ ราฟาเอล วาราน จากพิษโควิด-19 พ่วงด้วยเอเดน อาซาร์ และแบ็กขวาดานี่ การ์บาฆาล ที่ยังพักรักษาตัว ในรายอื่นยังอยู่กันครบมีโทนี่ โครส และลูก้า โมดริช ทำเกมกลางสนาม และคาริม เบนเซม่า ลงล่าตาข่าย ซีเนดีน ซีดาน มาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูติโบต์ กูร์ตัวส์ คู่เซ็นเตอร์นาโช่ ประสานงานกับเอแดร์ มิลิเตา แบ็กอัลบาโร แบ็กซ้ายแฟร์กล็องด์ เมนดี้ ขึ้นมาที่แผงมิดฟิลด์โทนี่ โครส , คาเซมิโร่ , ลูก้า โมดริช ทางฝั่งแนวรุกวินิซิอุส จูเนียร์ , คาริม เบนเซม่า และมาร์โก อเซนซิโอ้ บทวิเคราะห์ : แม้จะมีโควตาแพ้ 0-1 ยังเข้ารอบ แต่คาดว่าซีดานจะไม่เลือกมาเล่นเน้นรับที่แอนฟิลด์ เพราะรู้ว่าศักยภาพตัวรุกยังเหนือกว่าคู่เซ็นเตอร์เจ้าถิ่น ที่จะมาเน้นเจาะตรงกลางเช่นเคย และการยิงอเวย์โกลได้จะเพิ่มความยากให้ลิเวอร์พูลกลับมาลำบากขึ้น เราจะได้เห็นมาดริดมาสวนกลับโหมบุกแลกแบบหนัก ๆ ที่ต้องยอมรับว่าถ้าปักหลักสวนกันแบบหมัดต่อหมัด “เกมรับลิเวอร์พูลไม่ได้แข็งขนาดเสียไม่ได้” ยังมีจุดพลาดให้เห็นเป็นระยะ แม้เล่นในแอนฟิลด์ยังดูเป็นรอง สกอร์ที่คาด เรอัล มาดริด 2 – 2 ลิเวอร์พูล เสมอกันแบบดุเดือด เป็นราชันชุดขาวที่เดินหน้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ต่อไป ถ่ายทอดสดทาง UEFA.tv >>คลิก<< ภาพประกอบโดย ภาพปก Liverpool FC , Real Madrid / Liverpool FC : ภาพที่ 1 / Pixabay : OpenClipart-Vectors / (PNG) Premierleague Official Liverpool , Laliga Official Real Madrid , ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ - วิเคราะห์ก่อนเกม ลิเวอร์พูล VS แอสตัน วิลล่า หงส์ขอซ้อมใหญ่ ก่อนใส่มาดริด! + โปรแกรมพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ครบทุกคู่ - เจอร์รี มาร์สเดน ผู้เป็นตำนานแห่ง You’ll Never Walk Alone ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!