โลกของเราทุกวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องรวดเร็วถึงทำให้คนพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต การขนส่ง การเดินทาง การเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ จนทำให้คนสมัยนี้เสพติดความรวดเร็ว การเสพติดความรวดเร็วแบบนี้มีข้อเสียที่เกิดขึ้นคือมันทำให้คนสมัยนี้มีความอดทนต่ำจนส่งผลให้สมาธิสั้นลงมากเมื่อเทียบกับคนสมัยก่อน ปัจจุบันพบว่าสมาธิของมนุษย์ที่จะสามารถโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้เฉลี่ยแค่เพียง 8 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปลาทองเสียอีกเพราะปลาทองสามารถโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้ 9 วินาที ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก การที่มีเรามีสมาธิสั้นลงจึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเราก็ด้อยประสิทธิภาพลงตามไปด้วย บทความนี้จึงอยากจะมาแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาสมาธิสั้นระหว่างการทำงาน ซึ่งผมได้ไปอ่านเจอมาจากหนังสือสมองสงสัยใจตอบ ของคุณขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร และได้ลองนำมาใช้ก็พบว่าได้ผลดีเลยทีเดียวจึงอยากนำมาแบ่งปันต่อ ซึ่งการใช้เทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลแค่เรื่องงานเท่านั้นแต่มันจะช่วยให้เรามีสมาธิกับทุก ๆ เรื่องอีกด้วย โดยเทคนิคที่ว่านั้นมีดังนี้1. ตัดทางเลือกอื่นออกให้หมดแล้วเหลือเพียงสิ่งที่จะทำอย่างเดียว ปัญหาหลักในสมัยนี้ที่มารบกวนสมาธิของเราก็คือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้งเฟซบุค ไลน์ ไอจี มันจะดึงดูดความสนใจของเราให้ต้องเหลือบไปมอง เปิดเช็คและตอบอยู่เรื่อย ๆ จนมันสร้างความเคยชินให้กับสมองของเรา ดังนั้นวิธีแก้ไขก็คืออย่าให้มันมาดึงดูดความสนใจของเราได้ ปิดเสียงหรือเอามันไปไว้ให้ห่างจากตัว กำจัดสิ่งล่อตาล่อใจทั้งหลายที่ทำให้เราว่อกแว่กออกไปให้หมด จนเหลือแค่เพียงสิ่งที่เรากำลังทำเพียงอย่างเดียว การที่เราตัดสิ่งอื่น ๆ ออกเพื่อสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแบบนี้ มันสอนให้สมองของเราเรียนรู้ว่าต้องสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นด้วย2. ต่อเวลาอีก 5 นาที เมื่อไรก็ตามที่คุณอยากจะหยุดทำงานแล้วไปสนใจอย่างอื่นให้บอกกับตัวเองว่า “ขอต่อเวลาอีก 5 นาทีก่อนถึงค่อยหยุด” เนื่องจากสมองของเรามักจะมีนิสัยที่เคยตัวคือมันมักจะยอมแพ้ก่อนเวลาอันควร ทั้งที่จริง ๆ แล้วสมองของคนเรามีประสิทธิภาพแทบจะไร้ขีดจำกัดซึ่งจะสังเกตเห็นได้จากคนที่ชอบปั่นงานก่อนส่งหนึ่งวัน ฉะนั้นการบอกสมองว่าขอต่อเวลาอีกหน่อยและไม่ยอมหยุดทำ เชื่อได้เลยว่าผลที่ได้มักจะเกิน 5 นาทีอย่างแน่นอน ขอแค่เพียงคุณอย่าตามใจมันและหยุดทันที3. นั่งสมาธิ แน่นอนว่าการจะทำให้เรามีสมาธิที่ยาวขึ้นได้ก็ต้องฝึกฝนมัน เปรียบเสมือนกับการที่เราอยากมีร่างกายที่แข็งแรงวิ่งได้นาน ๆ เราก็ต้องฝึกฝนบ่อย ๆ การที่จะมีสมาธิที่แข็งแรงก็เช่นกัน ฉะนั้นก่อนทำงานควรนั่งสมาธิอย่างน้อย 5-10 นาทีก่อน และแนะนำว่าควรนั่งในตอนเช้าด้วย เพราะว่าอารมณ์แรกคืออารมณ์หลักของวัน หากอยากให้วันนั้นเป็นวันที่สงบก็ควรเริ่มต้นวันด้วยการฝึกจิตใจให้สงบด้วยการนั่งสมาธิ การฝึกฝนสมาธิก็ย่อมได้สมาธิที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน เทคนิคง่าย ๆ ทั้ง 3 ข้อนี้หากฝึกฝนอย่างมีวินัยมันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คุณกลายเป็นคนที่มีสมาธิจดจ่อกับงานได้นานขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะข้อที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง ในเมื่อรู้ตัวว่าไม่มีสมาธิก็สร้างมันขึ้นมาเองเลยสิ หมั่นฝึกฝนนั่งสมาธิทุกวันจนเป็นนิสัยแล้วคุณจะพบการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างแน่นอนแบ่งปันจากประสบการณ์ เทคนิคเหล่านี้ผมได้ลองนำมาใช้กับการเขียนบทความของผม เนื่องจากผมเป็นคนที่นั่งสมาธิตอนเช้าอยู่แล้วข้อ 3 จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ผมเพิ่งมาสังเกตได้ว่าการที่มีโทรศัพท์ไว้ข้างตัวถึงแม้จะไม่ได้เล่นก็ตาม มันก็ดึงความสนใจให้เรามองจริง ๆ อย่างที่หนังสือบอกไว้เลยครับ ผมจึงเอามันไปให้พ้นจากสายตาเลยขณะที่ทำงาน เมื่อมันไม่อยู่ในสายตาผมก็เลยไม่ต้องหันไปมองบ่อย ๆ จึงทำให้มีสมาธิเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อผมมีสมาธิมากขึ้นข้อ 2 จึงตามมาโดยอัตโนมัติคือผมเขียนได้รวดเดียวจนจบแล้วค่อยพัก ผลที่ได้พบว่าผมมีสมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมากและใช้เวลาในการเขียนแต่ละบทความน้อยลงจริง ๆ ด้วยครับ คนที่ทำงานอย่างมีสมาธิจดจ่อมักจะได้งานที่มีประสิทธิภาพกลับมาเสมอ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้ตัวว่าตนเองมีสมาธิสั้นและอยากแก้ปัญหานี้เพื่อให้สามารถโฟกัสกับงานที่ทำได้นานขึ้นก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับคุณดูนะครับ อย่าปล่อยให้ปัญหาสมาธิสั้นมันส่งกระทบต่อชีวิตคุณเลยครับขอบคุณภาพประกอบจาก pexels ภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3/ภาพที่4/ภาพที่5/