วิธีฝึกให้ลูกรู้จักค่าของเงินเป็นเด็กตึ๋งหนืดตั้งแต่เล็ก “วันนี้คุณเอาเงินให้ลูกไปกินโรงเรียนวันละกี่บาท” เสียงบรรดาแม่ ๆ ผู้ปกครองคุยกันถึงเรื่องการใช้เงินของลูกหลานตัวเอง บ้างก็ว่าให้ลูกมากินโรงเรียนวันละ 20 บาท 30 บาท 50 บาท บางคนให้มาวันละเป็นร้อย ซึ่งส่วนใหญ่เด็ก ๆ ก็จะใช้เงินเหล่านี้จนหมด บางทีไม่พอขอซื้อขนมตอนเย็นอีกด้วยสำหรับลูกเรานั้นเหรอคะวันละ 20 บาทกลับมาใส่ออมสินแทบทุกบาททุกสตางค์ด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพิ่งจะเป็นแบบนี้แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนแล้ว หากคุณผู้ปกครองมีลูกหลานที่ไม่รู้จักค่าของเงิน ใช้เงินเก่ง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ลองมาดูวิธีการเลี้ยงลูกของเราหน่อยนะคะว่าทำอย่างไรลูกถึงจะเป็นเด็กตึ๋งหนืดกันตั้งแต่เล็ก ๆ ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก pixabayวิธีการเลี้ยงลูกให้รู้จักค่าของเงินเด็ก ๆ จะเป็นคนรู้ค่าของเงินและประหยัดอดออมได้ต้องฝึกกันตั้งแต่ที่บ้าน ซึ่งที่บ้านจะมีการฝึกอย่างนี้ค่ะ1. เรื่องเสื้อผ้าเสื้อผ้าเราแทบจะไม่ค่อยได้ซื้อ เนื่องจากมีหลาน ๆ ที่โตมากกว่าลูกของเราหลายคน ซึ่งเสื้อผ้าของหลาน ๆ จะใส่กันไม่ค่อยซ้ำ เนื่องจากเด็กจะโตเร็วมากโดยเฉพาะตั้งแต่แรกเกิดถึงขวบปีแรก เสื้อผ้าแทบจะไม่เก่าเลย เราจึงสามารถนำเสื้อผ้าจากรุ่นพี่มาให้กับลูกของเราได้และโชคดีที่ทุกวันนี้ลูกกำลังจะจบชั้นประถมกันอยู่แล้ว พวกเขาก็ยังใส่เสื้อผ้าของพวกพี่ ๆ ที่ตกทอดมาเหมือนเดิม โดยไม่คิดอยากจะได้ของใหม่เลยจึงทำให้รายจ่ายในการซื้อเสื้อผ้าของลูก 2 คนแทบไม่มี การซื้อเสื้อผ้าใหม่กลายเป็นความไม่เคยชินของลูกและเขาก็ไม่เคยมองเสื้อผ้าใหม่ ๆ ตามร้านหรือห้างสรรพสินค้าเลย เพราะเห็นว่าเขามีเยอะแล้วจะซื้อทำไม ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก pixabay 2. เรื่องอาหารการกินเด็ก ๆ ที่บ้านจะได้รับการชื่นชมจากคนรอบข้างตลอดว่าเป็นเด็กที่สมบูรณ์แข็งแรง สูง และตัวใหญ่ ซึ่งเด็ก ๆ จะได้รับการดูแลเรื่องอาหารที่บ้านอย่างเต็มที่จึงได้สิ่งที่เป็นประโยชน์มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ด้วยเหตุนี้เวลาที่เขาไปโรงเรียนเขาก็จะทานอาหารที่โรงเรียนอย่างเต็มที่เช่นกัน จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมเงินที่ให้ไปโรงเรียนจึงอยู่ครบถ้วน เพราะเขาไม่เหลือท้องใส่อาหารและเครื่องดื่มที่จะซื้อเองเลย งานนี้ได้ประโยชน์ 2 ทางคือเด็กทานอิ่ม แข็งแรง ตัวใหญ่ และแถมเหลือเงินกลับบ้านทุกบาททุกสตางค์ ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก pixabay 3. เรื่องความต้องการอื่น ๆแน่นอนว่าเด็ก ๆ ก็ต้องมีความต้องการของเขาเหมือนกัน เมื่อเขายังตัวเล็กก็ต้องการของเล่น เมื่อเขาโตขึ้นอาจต้องการอุปกรณ์อิเลคโทรนิคเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์ อาจจะเป็นโชคดีของเราที่ลูกใช้เงินไม่เป็น เก็บเงินเก่ง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไรเขาก็จะเก็บเงินไว้ซื้อเอง ตั้งแต่เล็กจนโตเราจึงแทบไม่ค่อยเสียเงินซื้อของพวกนี้เท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาอยากได้อะไรก็เก็บเงินแล้วค่อยให้พ่อแม่ซื้อให้ 4. สร้างนิสัยให้ลูกมีความสุขกับการออมเงินพยายามอย่าให้เขาคิดว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ให้กำลังใจเขาบ่อย ๆ เช่น เมื่อลูกสะสมเงินครบ 100 บ. แรก แม่จะให้เงินเพิ่มอีก 1 เท่า ลูกก็จะมีเงิน = 200 บ. ละลูกเก็บเงินครบ 1000 บ. แม่ก็จะให้เงินเพิ่มอีก 100 ลูกก็จะมีเงิน 1100 บ. ให้เขารู้สึกว่า ยิ่งออมยิ่งได้มาก 5. ชวนลูกมาทำของเล่น ของใช้ DIY ถ้าลูกอยากได้ของเล่นบ่อย ๆ การได้มาง่ายก็ทำให้เห็นคุณค่าของสิ่งนั่นน้อยลงไปด้วย เมื่อเป็นแบบนั้นก็ต้องมาชวนสร้างมูลค่าให้กับของแต่ละชิ้น เช่นชวนลูกทำกล่องดินสอใช้เอง ตกแต่งตามจิตนาการ ได้ของใช้ราคาไม่แพง แถมได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อีกนะคะและนี่คือความภาคภูมิใจของเราที่สามารถเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กลักษณะตึ๋งหนืดนี้ เรามั่นใจว่าในอนาคตเขาจะเป็นเด็กที่รู้จักคุณค่าของเงินและใช้เงินได้อย่างถูกต้องถูกทางแน่นอน ยังไงคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองท่านอื่นลองนำไปใช้ดูนะคะ เราคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์แน่นอน…ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก pixabay J162