ไลฟ์แฮ็ก
วิธีการให้คำปรึกษาแก่ผู้อื่น
ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนต้องเคยให้คำปรึกษากับใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน น้อง รุ่นพี่ คนสนิท คนรู้ใจ หรือคนรู้จัก และอื่น ๆ ใช่ไหมครับ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนต้องเคยให้คำปรึกษากับใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน น้อง รุ่นพี่ คนสนิท คนรู้ใจ หรือคนรู้จัก และอื่น ๆ ใช่ไหมครับ
เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเข้ารับการอบรม เรื่องการให้คำปรึกษาแก่บุคคลต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการคำปรึกษา หรือว่ากำลังมีปัญหาเรื่องต่าง ๆ อาจจะเป็นปัญหาทางบ้าน ปัญหาครอบครัว หน้าที่การงาน กับเพื่อน หรืออื่น ๆ ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังในสิ่งที่ผมได้รับจากการไปอบรมเรื่องนี้ครับ
แต่ก่อน เมื่อตอนที่ผมยังไม่ได้ไปอบรมเรื่องการให้คำปรึกษา ก็มีหลายคนนะครับที่มาปรึกษาผม อาจจะไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร แต่เมื่อผมได้ผ่านการอบรมเรื่องนี้ไปแล้ว มันทำให้ผมรู้ว่า ผมได้ทำอะไรบางอย่างผิดไป! ในการให้คำปรึกษา ซึ่งอาจจะมีบางสิ่งที่เปลี่ยนมุมมองของเพื่อน ๆ ที่เคยให้คำปรึกษากับใครก็ตาม ที่มาขอคำปรึกษากับเพื่อน ๆ วันนี้ลองมาดูกันครับ ว่าวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องอะไร
Advertisement
Advertisement
การให้คำปรึกษา ไม่ใช่การแนะนำ!
ใช่แล้วครับ เพื่อน ๆ หลาย ๆคน อาจจะตกใจได้ สำหรับตัวผมเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมเองทำเป็นประจำ เมื่อตอนก่อนที่ตัวผมยังไม่ได้ผ่านการอบรมเรื่องกานให้คำปรึกษา ผมมักจะคอยแนะนำคนที่มาขอคำปรึกษาตลอดเลย ว่า “ลองทำอย่างนู้นสิ ลองทำอย่างนี้ดูสิ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ” แต่นั่นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องครับ ตามหัวข้อเลยครับ การให้คำปรึกษา ไม่ใช่การแนะนำ เอ้า! แล้วจะให้คำปรึกษายังไง เพื่อน ๆ จะถามคำถามนี้ใช่ไหมครับ แต่ข้อนี้เป็นกฎสำคัญเลยครับ
การให้คำปรึกษา ไม่ใช่การแนะนำ หมายความว่า เราไม่ได้เป็นผู้ไปหาทางออกให้เขา แต่เราเป็นผู้ที่คอยอยู่ข้างเขา และทำให้ตัวเขาหาทางออกด้วยตัวเองอย่างดีที่สุด นั่นแหละครับ นิยามของข้อแรก จะพูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้ที่มาขอคำแนะนำต้องเป็นผู้ที่หาทางออกด้วยตัวเอง โดยที่มีเราเป็นผู้สนับสนุน เป็นผู้ให้กำลังใจครับ นอกจากนั้น การที่เราไปแนะนำเขาว่าควรจะทำอย่างไร แล้วหากเขาทำตาม แต่แล้วสถานการณ์มันดันแย่กว่าเดิม เขาจะกล่าวหาว่าเราได้นะครับ ดังนั้นจึงเป็นการเซฟตัวเองทางอ้อมด้วยครับ แต่หัวใจหลักของการให้คำปรึกษาก็คือ คือตัวเขาเองจะเป็นผู้หาทางออกได้ด้วยตัวเองครับ เหมือนกับรูปด้านบนครับ ซึ่งเพื่อน ๆ จะเห็นว่าคนสองคนเดินไปด้วยกัน ไม่ใช่คนใดคนนึงนำทางครับ แต่เป็นการเดินคู่กันไป พร้อมที่จะให้กำลังใจกันและกัน การให้คำปรึกษาก็เช่นกันครับ
Advertisement
Advertisement
ทริปง่าย ๆ สำหรับข้อนี้ คือเราต้องฟังผู้ที่มาขอคำแนะนำให้มาก ๆ และจับใจความให้ได้ว่าปัญหาคืออะไร และผู้ที่มาขอคำปรึกษาคิดอย่างไรอยู่ และคิดจะทำอะไรต่อไป เราจะไม่แนะนำเขา แต่เราจะช่วยทำให้เขาคิดได้ว่ามีทางไหนบ้างที่ผู้มาขอคำปรึกษาอาจไม่ได้มอง หรืองมองข้ามไป ทริป อีกข้อหนึ่ง เขาเรียกว่า “เล่นกับความรู้สึก” ครับ คือเพื่อน ๆ ต้องถามความรู้สึกของผู้ที่มาปรึกษา เช่น “ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง” “อะไรทำให้รู้สึกอย่างนั้น” เป็นต้น
นี่คือหลักการที่ถูกต้องในการให้คำปรึกษานะครับ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ความรู้จากบทความของผมนะครับ และลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ
และถ้าผมมีอะไรอีกผมจะมาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ อีกนะครับ ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านบทความของผมนะครับ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก canva และ pixabay ครับ
รูปภาพปก / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 /ภาพประกอบที่ 6
ความคิดเห็น