ในการเรียนด้านศิลปะหรือเเม้กระทั่งการทำงานด้านศิลปะเองก็ต้องการเเรงบันดาลใจในการทำงาน บางครั้งตัวเราเองที่เรียนด้านนี้ก็เกิดอาการ " หมดไฟ " ไปได้ง่ายๆ ไม่มีเเรงบันดาลใจในการทำงาน คิดงานเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเพราะหัวมันตัน ดังนั้นเราก็ต้องออกไปตามหาเเรงบันดาลใจใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเรามีไฟเพื่อไปสร้างสรรค์งานศิลปะ ในที่นี้เราจะมาพูดถึงวิธีการตามหาเเรงบันดาลใจฉบับนักศึกษาที่กำลังเรียนด้านนี้กัน !1. หอศิลป์ หากพูดถึงที่เเรกที่เราจะไปหาเเรงบันดาลใจได้ ก็ต้องนึกถึงหอศิลป์อย่างเเน่นอน โดยภายในจะมีการจัดเเสดงงานนิทรรศการศิลปะต่าง ๆ มากมาย เช่น ภาพเขียน ภาพถ่าย ภาพพิมพ์ ประติมากรรม เป็นต้น ตัวอย่างหอศิลป์ที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพที่ทุกคนรู้จักกันอยู่เเล้วก็คือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เเละที่นี่ก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่เเละมีหลายชั้น ทำให้มีงานศิลปะหลาย ๆ เเบบมารวมอยู่ เเละภายในหอศิลป์ยังมีร้านค้าเเละร้านขายของรวมทั้งยังมีศิลปินบางท่านอยู่ในที่นี้อีกด้วยนะ ซึ่งพอว่าง ๆ หรือมีเวลามากพอ เราก็จะชวนเพื่อนไปเดินดูงานที่จัดในหอศิลป์ที่นี่บ่อยมาก ๆ ได้เห็นงานหลากหลายเเบบเยอะมาก เเละงานเเต่ละงานสะท้อนความคิดบางอย่างออกมาผ่านการวาดของศิลปิน เห็นเเล้วมีไฟในการทำงานขึ้นเยอะเลย ภาพประกอบจาก https://sistacafe.com/summaries/2702. หนังสือภาพเเละนิตยสาร หนังสือภาพหลาย ๆ เเบบสามารถทำให้คนที่อ่านเกิดจินตนาการได้หรืออาจจะเป็นหนังสือที่มีความรู้เฉพาะทางด้านศิลปะเพื่อเอาไว้ศึกษา เช่น นิตยสารที่เกี่ยวกับเเฟชั่น หนังสือภาพอาร์ต หนังสือสอนวาดภาพ เป็นต้น แหล่งที่จะหาหนังสือประเภทนี้ก็คงจะเป็นร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปหรือห้องสมุดที่มีอยู่ทุก ๆ ที่ เช่น B2S Se-ed Kinokuniya เป็นต้น เเต่นอกเหนือจากพวกหนังสือที่สอน เราก็หาดูพวกคลิปสอนวาดในยูทูปเอาก็ได้ เพราะมันมีหลากลายมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นยูทูปเบอร์คนไทยนะ ดูคลิปสอนวาดที่ยูทูปเบอร์เป็นชาวต่างชาติบ้าง สลับกันไป ดูไปดูมาก็มีไฟในการจะวาดรูปขึ้นมาเลย ต้องไปลองดู ภาพประกอบจาก https://bit.ly/2s4v2Pi3. ดูการ์ตูนหรือหนัง การได้ดูหนังหรือดูแอนิเมชั่นก็ช่วยทำให้เกิดเเรงบันดาลใจได้ โดยเราอาจจะได้เเรงบันดาลใจจากเครื่องเเต่งกายภายในเรื่อง คำพูดหรือคำคมที่แอบแฝงอยู่ในหนังหรือแอนิเมชั่นต่าง ๆ นอกเหนือจากนี้ก็อาจจะเป็นการเล่นวิดิโอเกมหรือเกมในโทรศัพท์มือถือเช่นกัน เราสามารถเสพภาพสวย ๆ จากในเกมได้ เพราะเกมในสมัยนี้มีหลากหลายเเบบให้เลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ หลายหลายลายเส้น ขึ้นอยู่กับความสนใจของตัวเราเองด้วยภาพประกอบจาก https://lifestyle.campus-star.com/scoop/169394.html4. เดินเที่ยวสตรีทอาร์ต สตรีทอาร์ต คือ ศิลปะหลายเเขนงที่สร้างผลงานไว้ในที่สาธารณะ เช่น ผนังหรือกำแพง เป็นต้น มีความเเตกต่างกับกราฟิตี้โดยสิ้นเชิงในด้านของจุดประสงค์ วิธีการสร้างงาน เเละเนื้อหาของงานนั้น ๆ โดยเราจะพบเห็นได้ในที่สาธารณะ เช่น ย่านบางรัก-เจริญกรุง Chula Art Town เป็นต้น เป็นการเสพงานศิลป์ที่นอกเหนือจากในหอศิลป์ เเละยังถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นงานศิลปะที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะส่วนตัวเเล้วเราก็ยังไม่เคยลองทำดู เเต่ถ้าได้ทำมันคงจะท้าทายมาก ๆ ภาพประกอบจาก https://travel.mthai.com/blog/131220.html5. ติดตามผลงานของศิลปินหลาย ๆ ท่าน การที่เราเสพผลงานที่หลากหลายจะทำให้เราเกิดไอเดียที่หลากหลาย โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นผลงานด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว อาจจะเลือกงานประเภทดิจิตอลอาร์ต งานจิตรกรรม งานประติมากรรม หรืองานประเภทเดียวกันเเต่ใช้เทคนิคในการสร้างสรรค์งานที่เเตกต่างและหลากหลายเทคนิคไม่จำเจ จะทำให้เราได้ไอเดียที่หลากหลายมาก ๆ เเละอาจจะได้เทคนิคจากการศึกษาดูผลงานเหล่านี้ด้วย เเละนำเทคนิคนั้นมาพัฒนาผลงานเราให้ดียิ่งขึ้น หรือเราอาจจะลองลงมือปฏิบัติดู เผื่อจะเจอลักษณะงานที่ใช่หรือเก็บเป็นประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ลองทำงานใหม่ ๆ ก็ได้ภาพประกอบจาก https://www2.rsu.ac.th/faculty/Digital-Art6. สวนสาธารณะหรือที่ที่มีคนเยอะ ทุกคนอาจจะเเปลกใจว่าทำไมถึงเป็นสวนสาธารณะหรือที่ที่มีคนเยอะ บางทีการที่เราได้นั่งมองผู้คนใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ หรือเเม้เเต่การพูดคุยกับคนที่อยู่เเถว ๆ นั้น การได้อยู่กับธรรมชาติเราอาจจะเกิดไอเดียอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัวได้ เราควรจะพกกระดาษหรือสมุดจดไปด้วยเผื่อเกิดไอเดียอะไรขึ้นมา เเละนำกลับไปใช้ในการคิดงานสร้างสรรค์ได้ เเถมยังเป็นการพักผ่อนไปในตัว เเต่ควรไปในช่วงที่อากาศดีไม่ร้อนจนเกินไปภาพประกอบจาก https://www.sanook.com/health/3197/7. ความชอบของตัวเราเอง เมื่อเราค้นหาสิ่งที่เราชอบได้ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่เราสนใจอยู่ในช่วงเวลานั้น เราคิดว่าสิ่งที่เราชอบจะช่วยผลักดันทำให้เรารู้สึกมีเเรงบันดาลในการลงมือสร้างสรรค์งาน สิ่งที่เราชอบเหล่านี้จะทำให้เราเกิดไอเดียขึ้นมา นอกจากเรื่องของความชอบเเล้ว ประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตเองก็อาจจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เราฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคนที่มีประสบการณ์ในด้านนี้เยอะคงจะมีวิธีการในการสร้างสรรค์งานเยอะเช่นกัน ส่วนคนที่ประสบการณ์น้อยกว่าก็ยังคงต้องสั่งสมประสบการณ์ในด้านนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้งานศิลปะที่จะได้เป็นงานที่มีคุณภาพ