เชื่อว่าหลายคนเคยคิดมากกันใช่ไหม อาจจะคิดมากในเรื่องอดีตที่ผ่านมาหรือเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราต่างมีความรู้สึกแบบนี้กันทั้งนั้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาจหลีกเลี่ยงได้ยากในสังคมปัจจุบัน ปัญหาต่างๆที่เข้ามาไม่เว้นในแต่ละวัน ถ้าเราเก็บเอามาคิดเสียทุกเรื่อง เครียดกับมันทุกเรื่องก็ไม่เป็นผลดีกับตัวเราอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราลองมองดูอีกในแง่มุมสิ มันมีทางออกอย่างแน่นอน บางคนคิดมากจนเสียสติหรือล้มป่วยไปเลยก็มีนะ แต่สำหรับคนที่มีวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านั้น ก็จะไม่เป็นทุกข์และสามารถใช้ชีวิตไปกับปัจจุบันได้ เรามาดูถึงเทคนิคและวิธีการคิดกันดีกว่าครับว่าจะทำยังไงให้เลิกคิดมาก ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าเทคนิควิธีการคิดต่างๆนั้นบางคนอาจจะใช้ไม่ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเองให้เราคิดว่าปัญหานั้นเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องเจอในชีวิตประจำวัน ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่เจอ ใช่ครับนี่คือเรื่องจริงครับทุกคนล้วนแล้วเคยเจอปัญหามาด้วยกันทั้งสิ้น จนมันเป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอในทุกๆวัน อาจเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆที่สามารถแก้ได้เลยในทันทีหรือแม้กระทั่งปัญหาใหญ่ๆที่ต้องใช้เวลาในการคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาทั้งสิ้น เราจงคิดอยู่เสมอว่าไม่มีวันไหนหรอกครับที่เราไม่เจอปัญหา ไม่เล็กก็ใหญ่เราต้องเจอมันอย่างแน่นอน ให้เราคิดว่าปัญหานั้นมีทางแก้เสมอ การคิดเช่นนี้เป็นการช่วยผ่อนคลายความทุกข์ลงไปได้ครึ่งหนึ่ง จนเราสามารถใช้สติในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ ผมเชื่อมั่นเลยว่าไม่มีปัญหาไหนหรอกครับที่ไม่มีทางแก้ ไม่ว่าจะปัญหาเล็กหรือใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีทางแก้ทั้งสิ้นให้คิดหาวิธีการแก้ไขปัญหานั้นโดยใช้หลักการและเหตุผล โดยเราจะต้องใช้หลักความเป็นจริงและเหตุผลประกอบ ว่าอะไรเป็นเหตุของปัญหานั้น เราจะต้องแก้ไขที่ต้นเหตุเพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำ ใช้สติคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเราต้องยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งเหล่านั้นให้ได้ ข้อนี้อาจเป็นเรื่องยากหน่อยนะครับ แต่เราจำเป็นที่จะต้องทำหาอะไรสนุกๆทำหรือดูหนัง ฟังเพลง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการเครียดได้เป็นอย่างดีเลยครับ อาจจะเป็นการร้องเพลงก็ได้นะครับ เป็นการผ่อนคลายได้ ทำให้ตัวเองมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้งออกไปหาเพื่อนๆ ครอบครัว วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีเลยล่ะ เพราะเราจะได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว คนที่เรารัก หรือเพื่อนๆของเรา อาจจะพากันไปเที่ยวหรือทานข้าว ไปเดินห้างสรรพสินค้ากัน เพื่อเพิ่มความสุขให้กับตนเองและคนรอบข้าง เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับบทความนี้ ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามันอาจจะใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน ด้วยข้อจำกัดต่างๆที่ต่างกัน เช่นสภาพแวดล้อม เราจึงต้องปรับวิธีการนี้ไปใช้ให้ถูกต้องขอขอบคุณภาพดีๆจาก1.ภาพถ่ายโดย Nathan Cowley จาก Pexels2.ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels3.ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels4.ภาพถ่ายโดย Thirdman จาก Pexels5.ภาพถ่ายโดย Ivan Samkov จาก Pexels6.ภาพถ่ายโดย Ketut Subiyanto จาก Pexels7.ภาพถ่ายโดย Creative Vix จาก Pexelsรูปภาพปก Canva.com สามารถติดต่อ/ติดตามผมได้ช่องทางดังนี้FB : ตฤณ ศรีอินทร์IG : ko_trinIG(เอาไว้ลงคำคม แคปชั่นต่างๆ) : what_is_sentence_Email : trinsriin6986@gmail.com