หลังจากวิกฤติของเชื้อมรณะ โควิด-19 ทำอ่วม เรียกว่าทำเศรษฐกิจหยุดชะงักไปทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างแรงให้พ่อค้าแม่ขายทั้งนักธุรกิจรายใหญ่และรายย่อยปั่นป่วน บ่นถึงค่าครองชีพที่สูงแต่ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ ทำให้ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้ช่วยเยียวยาค่าใช้จ่าย พวกค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับประชาชน ภาพจากผู้เขียน ในการช่วยเหลือเรื่องการลดค่าไฟฟ้า 3% นี้ อย่างน้อยก็ยังดี ยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแต่ละเดือนของประชาชนลงไปบ้าง เพราะต้องยอมรับว่า ไม่ว่าอาชีพไหน ๆ ตอนนี้หยุดชะงักจริง ๆ ผู้คนเลี่ยงที่จะเจอหน้า สัมผัสกัน รวมถึงออกไปใช้ชีวิตข้างนอกอย่างที่เคยเป็น เพราะเราไม่รู้เลยว่า ในพื้นที่นั้น ๆ ที่เราไป จะมีเชื้อไวรัสมรณะนี้ ติดอยู่หรือไม่ เพราะกลัวว่าจะรับเชื้อโควิด-19 มาอย่างไม่รู้ตัว แถมค่าใช้จ่ายที่ตามสื่ออกมาให้เห็น คือเยอะมาก เรียกว่าแพงกันเลยทีเดียว แม้แต่ค่าตรวจคัดกรองโรค หลักพันยันหลักหมื่น นี่ยังไม่รวมค่ารักษาอีกนะ ทำให้ผู้คนเริ่มตระหนก หวาดกลัว เลี่ยงที่ไม่ใช้ชีวิตเสี่ยง ๆ ข้างนอก การค้าขายก็เลยได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ภาพจากผู้เขียน จนรัฐบาลได้ออกมาตรการมาช่วย ในการลดค่าไฟฟ้า 3% จะมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนมิถุนายน เพื่อช่วยแบ่งเบาพี่น้องประชาชนไม่ให้ขัดสนมากนัก และในส่วนของผู้ประกอบการ พวกโรงแรม ที่ให้เช่าที่พักก็อ่วมเช่นกัน เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวไปพักแรมค้างคืน เหมือนแต่เดิมแล้ว ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ละจุดท่องเที่ยวที่เคยพีค ๆ ตอนนี้ซบเซาลงมาก รัฐบาลจึงยื่นมาเข้ามาช่วย โดยไม่คิดดอกเบี้ย ไม่งดจ่ายไฟ ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิล เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึง เดือนพฤษภาคม ภาพจากผู้เขียน นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ในหมู่บ้านที่อยู่อาศัยของประชาชน ทั้งผู้ใช้ในส่วนขง กฟน. กฟภ สามารถขอคืนเงินประกันใช้ไฟฟ้าได้ตามขนาดของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าได้เลย ส่วนกรณีพวกค่าน้ำประปานี้ เริ่มลดค่าน้ำประปา 3% ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนมิถุนายน 63 เช่นกัน ทั้งส่วนการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค และมีการคืนเงินให้กับผู้ใช้น้ำประปา ที่ส่วนที่่พักอาศัยอีกด้วย ในส่วนของธุรกิจโรงแรม มีการขยายเวลาการชำระค่าน้ำประปา โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน ขอขอบคุณภาพจากreepik.com จากการช่วยเหลือของรัฐบาลครั้งนี้ ในความคิดเห็นของผู้เขียน ถือว่าดีเลยค่ะ พอที่บ้านก็ลดจากเดิมไปมาก อย่างน้อยก็พอได้ช่วยเยียวยา ให้พอได้เหลือเงินไว้ซื้ออาหารไว้กิน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลย ตั้งแต่ต้นปีมาเรียกว่าเล่นเอาประเทศไทยอ่วมมาก ไหนจะคดียิงกัน ไหนจะเศรษฐกิจที่พ่นพิษมาต่อเนื่อง ยิ่งมาเจอโรคระบาดซ้ำเติมเข้าอีก ทำให้ตระหนักเลยว่า ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ และการออมเงินไว้เพื่อฉุกเฉิน เพื่อเข้าใจรู้ซึ่งก็ในยามนี้ ทางเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะควบคุมสถานการณ์ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจลุกหน้า ผู้คนกลับมาสดใสใช้ชีวิตตามเดิมได้เร็วไวนะคะ