เมื่อพูดถึงจังหวัดบุรีรัมย์ หลาย ๆ คนคงนึกถึง เขาพนมรุ้ง สนามฟุตบอล ปราสาทเมืองต่ำ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักวัดเขาพระอังคาร ที่อยู่ห่างจากเขาพนมรุ้งไปประมาณ 20 กิโลเมตร อาจเป็นเพราะการเดินทางไปยากกว่า อยู่ติดป่ามากกว่าและต้องขึ้นเขาหลายลูก จึงทำให้วัดเขาพระอังคารแห่งนี้มีคนรู้จักไม่มากนัก แต่สภาพบรรยากาศภายในวัดยังอุดมสมบูรณ์ สะอาด และยังไม่เสื่อมโทรม เรียกได้ว่าวัดยังคงความสวยงามให้ชาวบ้านและรอนักเที่ยวไปเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศบนเขา ป่าไม้และศาสนสถานต่าง ๆ ภายในวัดได้เป็นอย่างดีค่า ด้านในภายในวัดมีต้นไม้ให้ความร่มรื่นมากมาย และจัดสถานที่ตัดแต่งต้นไม้ให้มีความสวยงามอยู่เสมอ มีชาวบ้านในพื้นที่คอยมาทำความสะอาดพื้นที่อยู่เป็นประจำ จึงทำให้ที่นี่สวยงาม สะอาดสะอ้าน ลักษณะโบราณสถานภายในวัดต่าง ๆ มีลักษณะโบราณสถานที่คล้ายกับเขาพนมรุ้ง พระพุทธรูปปางมารวิชัยอยู่รอบตัวโบสถ์สร้างความสวยงามและแปลกตากับผู้เขียนเป็นอย่างมาก ความสงบร่มรื่น ผู้คนน้อย ช่วยทำให้จิตใจของเราสงบขึ้นได้อีกด้วย ลักษณะภายในโบสถ์ยังคงความสวยงามได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าสร้างมาเป็นเวลานาน หลังองค์พระพุทธรูปเป็นศิลปะที่ผู้เขียนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน น่าแปลกตาที่เป็นโทนสีฟ้า ลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สวยงาม บริเวณด้านข้างโบสถ์เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธชาดก ภาพวาดมองแล้วเข้าใจง่าย มีคำแปลของภาพนั้น ๆ ด้วยยิ่งทำให้เข้าใจง่ายขึ้นไปอีกค่า บริเวณข้างโบสถ์มีพระพุทธรูปและศาสนสถานอื่น ๆ อีก และในบริเวณนี้เป็นบริเวนศาลานั่งพักผ่อนหย่อนใจ จุดชมวิวบริเวณโดยรอบของวัด สามารถมองเห็นวิวด้านล่างเขาจนมองเห็นเขาอีกลูกได้ วัดเขาพระอังคารแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทเป็นเวลาหลายแสนปีผ่านมา จึงทำให้เราสามาถมองวิวเป็นหินลาดชันและเห็นเป็นแอ่งได้ชัดเจน แถมยังมีลมพัดผ่านมาทำให้เราได้รับความสดชื่น รับลมเย็น ๆ ได้ดีทีเดียวค่ะ ผู้เขียนเดินทางไปชมตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อไปถึงอากาศจึงไม่ร้อนมาก เย็นสบายทีเดียวค่ะ ศาสนสภานที่นี่มีความสวยงามไม่เหมือนใคร ตกแต่งสีด้วยโทนสีแดงอิฐ เป็นจุดเด่น เอกลักษณ์สำคัญของที่นี่เลยค่ะ นอกจากนี้แล้ว เราสามารถเข้าไปกราบสักการะพระคันธารราษฎร์และรอยพระพุทธบาทได้ ภายในยังคงสภาพแบบวัดในสมัยเก่าได้เป็นอย่างดีเหมือนกับในโบสถ์ และยังมีพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ ที่เรากราบไหว้ได้อีกด้วยค่ะ สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกแปลกคือ รูปปั้นงูใหญ่ 2 ตน ที่อยู่ภายในวัดเป็นรูปปั้นที่ตัวผู้เขียนยังรู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน และยังมีรูปปั้นม้าที่สามารถมาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศได้ด้วยค่า สิ่งที่เป็นความสำคัญและน่าตื่นตาตื่นใจของที่นี่คงต้องเป็น ใบเสมาศิลาแลง 8 คู่ 8 ทิศ ที่ถูกค้นพบอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยใดนั้นเรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจถูกสร้างขึ้นก่อนสมัยที่สร้างเขาพนมรุ้ง อายุราวๆประมาณ 1,300 ปี ล่วงมาแล้ว ใบเสมามีลักษณะเป็นหินทราย และสลักรูปเทวรูปยืนถือดอกบัวลวดลายได้อย่างงดงาม เป็นสิ่งที่ควรศึกษาและน่าไปค้นหาอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจและเด็ก ๆ ที่กำลังศึกษาประวัติศาสตร์อีกด้วยค่ะ ผู้เขียนชื่นชอบโบราณคดี เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา วัดเขาพระอังคารจึงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ผู้เขียนชื่นชอบ และยังมีส่วนที่สวยงามอีกหนึ่งจุดคือ พระพุทธรูปพระนอนกลางแดดองค์ใหญ่ สีเหลืองทองอร่าม สวยงามและยิ่งใหญ่ตระการตา อีกหนึ่งสถานที่ที่มาเที่ยวบุรีรัมย์ต้องห้ามพลาด และน่าค้นหา ร่วมศึกษาประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน สิ่งแวดล้อมธรรมชาติหลังภูเขาไฟปะทุแล้วดับไปเป็นเวลานาน ต้องมาเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ธรรมชาติดี บรรยากาศสงบ ร่มรื่น การเดินทาง ผู้เขียนเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว มาจากเส้นบุรีรัมย์-นางรอง ไปทางอำเภอละหานทรายประมาณ 10-13 กิโลเมตร จะพบทางแยกขวาไปวัดเขาพระอังคาร เครดิตรูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน