ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนชนิดที่วิ่งตามไม่ทันกันเลยทีเดียว เห็นได้ชัดเป็นช่วงวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิท 19 เริ่มตั้งแต่ต้นปี2563 ในช่วงเดือนมีนาคม ที่มีรายงานข่าวชายไทยรายแรกเสียชีวิต และตามมาด้วยข่าวที่เกี่ยวข้องเยอะแยะมากมาย การตื่นตัวของผู้คนที่เริ่มมีผลกระทบหลังจากนโยบายจากภาครัฐออกมาเป็นระยะ ตัวผู้เขียนเองมีลูกชายอย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากสอบปิดภาคเรียนเทอมสุดท้ายจะขึ้นมัธยมปีที่3 ปกติโรงเรียนจะปิดภาคเรียนประมาณ 1 เดือนก็จะมีให้เรียนเสริมค่ะ ก็จะช่วยแม่ได้อีกทาง ลูกจะได้ไม่ว่างมากเพราะพ่อแม่ต้องทำงานมีเวลาทำกิจกรรมกับร่วมลูกก็จะมีเฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้นเองค่ะ แต่ปีนี้ปิดภาคเรียน 4 เดือนค่ะ มาดูกัน 4เดือนลูกชายบ้านนี้มีอะไรทำบ้างค่ะ เดือนแรกขอใช้ชีวิตรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ชอบกับเพื่อนๆ ต้องบอกก่อนค่ะว่าแม่จะเลี้ยงน้องประมาณแชร์ความรู้สึกไม่บังคับมากนักก็ดีใจที่ได้อนุญาติให้เขาไปดูหนังกับเพื่อนๆ และพาไปเที่ยวไกล้ๆบ้านในวันอาทิตย์ ซึ่งตอนนั้นสถานที่ท่องเที่ยวยังเปิดอยู่ก่อนที่จะมีการใช้มาตรการระวังการติดเชื้อไวรัส และเราก็ต้องอยู่บ้านเช่นกันกับคนอื่นๆค่ะ หลังจากนั้นกิจกรรมก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ เกมส์คอมพิวเตอร์ทั้งวันเลยค่ะ ชีวิตหลั่นล้ามากค่ะ กิน แล้วก็นอน เล่นเกมส์ แม่เริ่มกังวลค่ะเพราะเห็นลูกเล่นตลอดเลยแม่ผิดใช่มั๊ยที่ไม่มีกิจกรรมให้ลูกทำ แอบกังวลว่าเปิดเทอมเขาจะปรับตัวไม่ได้ ร้ายกว่านั้นมีบ่นกับแม่ค่ะว่า แม่ผมขอเรียนแค่ ม.3 ได้มั๊ย คุณแม่ช็อคแป๊บค่ะบ้านใหนเจอแบบนี้มั๊ยคะ ตั้งสติได้ถามเหตุผลว่าทำไมคิดแบบนั้นล่ะ เขาบอกว่าต่อไปเรียนออนไลน์ก็ได้ไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน แม่ต้องรีบหาข้อมูลด่วนค่ะว่าลูกได้แนวคิดแบบนี้มาจากใหน แนวคิดดีค่ะแต่เหมาะกับลูกเราหรือเปล่าเพราะต้องมีวินัยพอสมควร และต้องมีความรับผิดชอบไม่เป็นคนเบื่อง่ายด้วยค่ะ ความเห็นส่วนตัวของแม่นะคะ อย่างแรกเลยเด็กต้องรักเรียนพอสมควรเพราะเค้าต้องทำความเข้าใจและค้นคว้าพอสมควรซึ่งวัยของลูกเราถ้าสงสัยได้ถามเลยจะทำ ถ้าให้ค้นคว้าอีกนิดไม่ใช่แล้วค่ะ แม่เองต้องอธิบายเขาได้ถ้าเขาไม่เข้าใจแต่ความจริงบางวิชาห่างไกลแม่มากเลยค่ะ แต่พอได้เรียนจริงๆครูที่โรงเรียนเค้าจะมีกลุ่มไลน์ค่ะว่าต้องรายงานตัว ทำกิจกรรมผ่านไลน์ส่งแบบทดสอบผ่านเฟสบุ๊คส์พอลูกเล่าให้ฟังก็โล่งอกค่ะเพราะอย่างน้อยลูกเราออกจากหน้าจอเกมส์ได้แสดงว่าเปิดเทอมเขาปรับตัวได้แน่นอนยังมีข้อดีให้แม่อุ่นใจค่ะ วันที่1 กรกฎาคมกำหนดเปิดภาคเรียนแล้วค่ะ แม่ก็แอบดีใจ แต่่ปรากฏว่าต้องแบ่งกันไปเรียนนะคะ เช่น วันจันทร์เลขที่คู่ไปเรียนวันอังคารเลขที่คี่ไปเรียนสลับกันเรียนสลับกันหยุด แม่ก็รอลุ้นค่ะว่าวันที่หยุดพอว่างก็เล่นเกมส์อีกแน่ๆ เพราะส่วนตัวเขาจะบ่นนิดหน่อยค่ะว่าเปิดเทอมก็ไม่ได้เจอเพื่อนทุกคนอยู่ดี ก็หวังค่ะว่าวิกฤตครั้งนี้จะผ่านไปโดยเร็ว ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่วัยเรียนทุกคนนะคะ บอกเล่าเรื่องราวโดย Nuchjarin.f ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก https://www.pexels.com/th-th รูปภาพที่1 / รูปภาพที่2 / รูปภาพที่3 / รูปภาพที่4 / รูปภาพที่5 / รูปภาพที่6