อื่นๆ

ลดโลกร้อน แฟชั่นหรือความเข้าใจ?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ลดโลกร้อน แฟชั่นหรือความเข้าใจ?

ในช่วงนี้ที่ทุกคนกำลังปรับตัวจากมาตรการของภาครัฐ เรื่องการลดใช้ถุงพลาสติก ไม่ใช้โฟม พกแก้วส่วนตัว ใช้ปิ่นโตหรือกล่องใส่อาหาร และใช้ถุงผ้า ภาคเอกชนเองก็งดแจกถุงพลาสติก มีการส่งเสริมให้ประชาชนปฎิเสธการรับถุงพลาสติก ลดการสร้างขยะ รณรงค์ให้มีการพกถุงผ้าเป็นอุปกรณ์ติดตัวในชีวิตประจำ จนเกิดเป็นเทรนด์ที่เป็นกระแสแพร่หลาย ทั้งถุงผ้า แก้วน้ำ และอุปกรณ์กล่องข้าวต่าง ๆ ออกมาวางขายอย่างคับคั่ง

เหล่านี้ คล้ายกลายเป็นกระแสหรือแฟชั่น มีการถ่ายรูปลงโซเชี่ยลมีเดีย ติดแฮชแท็ก #รักโลก เกิดแคมเปญรณรงค์แจกถุงผ้าหลายแบบหลายสไตล์ ทุกคนรู้ว่าไม่ควรใช้ถุงพลาสติก ก็มีการผลิต  ซื้อ จำหน่าย จ่ายแจก ใช้ถุงผ้าหลายแบบ หลายใบ บ้างก็มีการใช้ถุงกระดาษ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าก็ต้องเพิ่มปริมาณการตัดต้นไม้ทำลายป่า บ้างก็ใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้เร็ว แต่กลับกลายเป็นการกระจายอนุมูลพลาสติกเล็ก ๆ เข้าสู่ระบบนิเวศ  การพยายามลดพลาสติกแต่หัวใจหลักที่แท้จริงของเรื่องนี้ควรจะเป็นการนำเอาทรัพยากรอะไรก็แล้วแต่ที่ถูกผลิตขึ้นมาแล้ว กลับมาใช้ซ้ำใหม่ให้คุ้มค่ามากที่สุดก่อนที่จะทิ้งไปใช่หรือไม่

Advertisement

Advertisement

ผู้เขียนเองได้ลองใช้ชีวิตแบบการลดขยะพลาสติกนี้ ด้วยการไปซื้อกับข้าวพร้อมพกอุปกรณ์  โดยเตรียมอุปกรณ์ในการช้อป อาทิ กล่องใส่อาหาร ปิ่นโต และกระเป๋าหิ้ว แวะที่ร้านอาหารสั่งและส่งกล่องใส่อาหารให้พร้อม ๆ กัน เป็นการแสดงออกให้เจ้าของร้านได้เห็น ยอมรับว่าเมื่อเห็นผู้เขียนเอากล่องไปใส่ ส่วนใหญ่ร้านค้าให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมาก มิหนำซ้ำยังลดราคาและเพิ่มปริมาณอาหารให้มากเป็นพิเศษ เหล่านี้สรุปได้ไหมว่าเป็นการปรับตัวของผู้ประกอบการร้านค้าที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกันลดโลกร้อน

ลดโลกร้อนจริง ๆ เท่าที่พูดคุยถามความเห็นร้านค้าและลูกค้าหลาย ๆ ท่าน ทุกคนเห็นผลกระทบจากปัญหามลภาวะจากการสร้างขยะที่ย่อยสลายได้ยากมากจนเกินไป ไม่มีที่ทิ้ง มีการแยกขยะ แต่ก็ถูกนำไปรวมกันไว้ที่ถัง รวมถึงการกำจัดขยะที่ยังไม่มีวิธีการบริหารจัดการที่ดีและเพียงพอ จนมีสัญญาณเตือนความเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ กลายเป็นภัยพิบัติยากที่จะควบคุม ทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วม ภัยแล้ง อาการร้อนจัด แห้งแล้งจนเกิดเพลิงไหม้ หรือเหตุการณ์สะเทือนใจที่เจ้ามาเรียมพะยูนน้อยน่ารักที่กลืนกินพลาสติกเข้าไปจนเป็นเหตุให้ต้องตายลง  คือสิ่งกระตุ้นให้ทุกคนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้  และไม่มีใครมองเห็นว่าการทำแบบนี้คือแฟชั่นแต่อย่างใดลดโลกร้อน

Advertisement

Advertisement

ลดโลกร้อนเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ เป็นเสมือนสัญญาณเตือนกระตุ้นให้ทุกคนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนเริ่มตื่นตัวและหันมามองปัญหานี้อย่างจริงจัง ภาครัฐเองมีมาตรการจะลดใช้ถุงพลาสติกและจะไม่ให้มีการใช้ให้ได้ในปี พ.ศ. 2565

แต่ในขณะที่กำลังตื่นตัว ก็มีบางคนเช่นกันที่มองว่าการปรับตัวใหม่เป็นเรื่องยุ่งยาก การที่จะเข้าห้างหรือไปตลาดสดซื้อของแล้วไม่ได้ถุงพลาสติกต้องพกถุงผ้าเป็นเรื่องลำบาก  เหล่านี้ผู้เขียนมองว่าคงต้องให้เวลาสำหรับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่นี้  และก็หวังว่าทุกคนคงจะเริ่ม ทีละเล็ก ทีละน้อย  เมื่อทำเป็นประจำความลำบากก็จะเกิดเป็นความเคยชิน ยิ่งภาครัฐให้ความสำคัญ สนับสนุน และรณรงค์ต่อเนื่องสม่ำเสมอ  ทัศนคติและวิถีชีวิตของผู้คนก็จะเริ่มเปลี่ยนไปได้เอง  ขอเพียงแต่ให้เรื่องนี้อย่าเป็นเพียงแค่กระแส ถุงผ้า กระเป๋า แก้วน้ำ และกล่องอาหาร เป็นแค่สินค้าที่ถูกผลิตมามากมายตามแฟชั่นลดโลกร้อนที่อนาคตอาจกลายเป็นขยะขึ้นมา

Advertisement

Advertisement

ภาพทุกภาพ : BY ผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์