ลงทุน (หุ้น) ในแบบของผม............. สวัสดีครับท่านนักอ่านและท่านนักลงทุนในตลาดทุนและการลงทุนอื่น ๆ ทุกท่าน...........ก่อนอื่นที่เราจะไปพูดถึงสไตล์การลงทุนในตลาดหุ้นของผมนั้นผมในนามของ คุณชายต้น (ผู้เขียน) นั้นผมขออนุญาตเล่าถึงการเริ่มต้นและก่อนที่จะเข้ามาสู่ในตลาดหุ้นนั้นว่าเป็นมาอย่างไรสักนิดนึงก่อนนะครับ ผมเริ่มรู้จักการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตอนอายุประมาณตอนผม 19 ปีแต่ในตอนนั้นผมยังไม่สามารถที่จะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นได้เพราะว่าอายุยังไม่ถึง 20 ปีในการที่จะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นได้นั้นต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ก่อนถึงจะสามารถเปิดบัญชีได้ซึ่งในตอนนั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้และผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำเงินของผมไปฝากที่ธนาคารเหมือนคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นมาฝากประจำเพราะรู้ว่าการฝากประจำนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเงินฝากประจำแต่มีข้อแม้คือห้ามถอนจนกว่าจะครบกำหนดนั่นก็คือ 2 ปี ถึงจะถอนออกมาได้และได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันไว้ซึ่งผมก็คิดว่าไม่คุ้มแต่ก็คือไม่มีทางเลือก ต่อมาพอผมฝากประจำได้สักระยะหนึ่งผมก็ได้คำแนะนำจากผู้จัดการของธนาคารแห่งหนึ่งว่าทำไมผมถึงไม่นำเงินมาซื้อ ตราสารหนี้หรือกองทุน เพราะจะได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงกว่าการฝากเงินแต่อาจจะมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่เงินอาจจะลดลงได้บ้าง... ต่อมาผมก็เลยตัดสินใจไปศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวกับกองทุนและตราสารหนี้เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองจนในที่สุดผมก็ตัดสินใจซื้อ กองทุนกับตราสารหนี้ โดยที่ทั้งสองอย่างใช้เงินอย่างละ ห้าพันบาท และในขณะเดียวกันก็ยังมี เงินฝากออมทรัพย์และฝากประจำควบคู่ไปด้วยจนเมื่อผมครบ 20 ปีบริบูรณ์เต็มผมก็ตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นทันทีตามที่ผมตั้งใจไว้แต่แรกเริ่ม และก็สุดท้ายก็เปิดได้อย่างใจหวังไว้เอาละเมื่อเปิดบัญชีได้แล้วผมก็มานั่งวิเคราะห์บริษัทต่าง ๆ เหมือน ๆ กับนักลงทุนทั่วไปที่เขาทำกันนั่นแหละจนตัดสินใจซื้อมา 2 บริษัท ผมก็ทำเช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อยคนอื่น ๆ ที่ซื้อเช้าขายบ่ายซื้อมาขายไปแบบเดียวกันเลย ผลที่ได้คือจากเงิน สองหมื่นบาทเหลือแค่ ห้าพันนิด ๆ ไอ้เราก็คือเศร้าเลยเพราะเงินขนาดนี้สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างผมก็คือเยอะมากเลยนะ เอาล่ะเมื่อเป็นเช่นนั้นเราต้องหาข้อมูลแหละที่ต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่าหุ้นใหม่ว่ามันคืออะไรและมีความหมายยังไงกันแน่ จนได้มาอ่านประวัติของปู่ วอเรนบัฟเฟต จึงเข้าใจและรู้ว่าออหุ้นมันเป็นแบบนี้นี่เองนั้นก็คือการเป็นหุ้นส่วนและก็คือเจ้าของนี่เองผมเลยคิดว่าเจอละจะเอาใครเป็นไอดอลของเราผมก็เลยหาบทต่าง ๆ ของ วอเรนบัพเฟตมาแล้วก็ติดไว้ที่ผนังห้องเพื่อเตือนตัวเองว่าเราต้องเป็นแบบนี้นะตั้งแต่วันนั้นผ่านมีประมาณ 7- 8 ปี ผมไม่เคยขายหุ้นของผมออกเลยมีแต่ซื้อเพิ่มและคอยดูว่าบริษัทยังดีอยู่ไหมพื้นฐานในการแข่งขันยังดีเหมือนเดิมและยังแข็งแกร่งได้อีกหลายปีข้างหน้าหรือเปล่าเท่านั้นเองและผมก็ไม่เคยสนใจโบรกเกอร์หรือนักวิเคราะห์เลยเพราะว่าถ้าเขาเหล่านั้นเก่งจริงและรู้จริงเขาคงรวยไปนานแล้วเพราะเขาอยู่ในตลาดมานานกว่าผมจนเวลาผ่านไปจนถึงทุกวันนี้ผมยอมรับเลยว่ามันดีมากจริง ๆ มากกว่าซื้อ ๆ ขาย ๆ หลายเท่าเพียงแค่ต้องรอมันอย่างอดทนและใจเย็น ๆ เท่านั้นเองเพราะยังไงเวลาก็ต้องเดินไปข้างหน้าอยู่แล้วสักวันเราก็ต้องไปถึงมันทุกคนจะกันทำไมล่ะครับค่อย ๆ ไปอย่าใจร้อนทำเหมือนฝนที่ตกใส่ตุ่มถ้าตกแป๊ปเดียวก็ไม่เต็มแต่ถ้าฝนมันตกเป็นชั่วโมงละไม่เคยพลาดเต็มจนล้นเละแหละครับการลงทุนก็เช่นกันค่อย ๆ เติมไปทีละนิดแต่อย่าหยุดเติมเท่านั้นก็พอครับเพราะ ถ้ามันเสียหายมามันจะลำบากกันนะครับผม...ขอบคุณภาพจาก คุณชายต้น (ผู้เขียน)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !