กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ Wonder Woman 1984 หลายคนคงตั้งหน้าตั้งตารอภาพยนตร์เรื่องนี้กันมานานพอสมควร นับว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จไปแล้วเมื่อปี 2017 และได้ถ่ายทำภาคต่อจนมีกำหนดเข้าฉายในปี 2020 ใครที่เป็นติ่งแม่สาวมหัศจรรย์ Wonder Woman วันนี้ไรท์มีเรื่องราวดีๆจะมาแชร์ให้อ่านกันจ้า ไรท์ต้องขอเกริ่นถึงความเดิมในภาคที่แล้วให้ฟังก่อนนะคะ เผื่อว่าหลายๆคนจะได้รำลึกถึงซุปเปอร์ฮีโร่ตัวแม่อย่าง Princes Diana และเรื่องมันมีอยูว่า ไดอาน่านั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งป่าอเมซอน เธอนั้นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากเผ่าของเธอตั้งแต่วัยเด็ก ความสามารถของเธอนั้นนับว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนทัดเทียมเลยก็ว่าได้ และวันหนึ่งเธอได้พบกับสตีฟ หนุ่มนักบินชาวอเมริกันที่เผอิญขับเครื่องบินหนีสงคราม (สงครามโลหครั้งที่ 1) และพลัดมาตกอยู่ที่ป่าอเมซอน เรื่องราวความรักของทั้งสองคนจึงได้เริ่มต้นขึ้น สตีฟเล่าถึงสงครามที่มนุษย์นั้นถูกคุกคามให้ไดอาน่าฟังและชวนเธอกลับไปยังเมืองมนุษย์เพื่อปราบเหล่าวายร้ายและช่วยเหลือมนุษยชน ซึ่งผู้กำกับชาร์ส โรเว็นต้องการจะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเป็นแนว Romantic Sci-Fi และนับว่าเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่อีกเรื่องหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และตอนนี้ Princes Diana ก็ได้รับฉายาว่า 'ตัวแม่' และกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นขวัญใจของเด็กๆไปแล้ว ในการกลับมาของ Wonder Woman ในครั้งนี้ จะเป็นการกล่าวถึงเรื่องราวในปี 1984 ซึ่งก็คือเหตุการณ์หลังจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ประมาณ 66 ปี หลายคนคงตั้งคำถามใจใจว่าการกลับมาของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และจะมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่อง วันนี้ไรท์มีข้อมูลดีๆมาฝาก คุณจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 และสตีฟจะยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงยุค 1984 หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเล๊ย!1. เกิดอะไรขึ้นกับ Princes Diana หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ไดอาน่าต้องเผชิญกับชะตาชีวิตเพียงลำพังเพราะว่าเธอนั้นมีชีวิตเป็นอมตะ เธอไม่เพียงแค่สูญเสียสตีฟแต่ยังสูญเสียคนอื่นๆที่เธอรักอีกด้วย เธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองมนุษย์ตั้งแต่วันที่สตีฟจากไป เธอทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติในวอชิงตัน และสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขได้ก็คือการที่เธอได้ช่วยเหลือหล่ามนุษย์ในเวลาที่พวกเขาต้องการ2. ลุคใหม่ของ Prices Diana ในภาคนี้ Princes Diana จะกลับมาพร้อมกับลุคใหม่ เธอจะสวมใส่ชุดเกราะเหล็กนักรบสีทองซึ่งมาพร้อมกับปีกและหมวกเหล็กสีทอง ดีไซน์เนอร์จากภาพยนต์ Wonder Woman ได้กล่าวว่า "ชุดของเธอนั้นจะเปล่งประกายระยิบระยับในที่ๆมีแสงสว่าง และเขาต้องการให้ชุดนั้นเด่นตระการในขณะที่เธอนั้นต่อสู้ครั้งใหญ่กับเหล่าวายร้าย" 3. ใครคือวายร้ายในภาคนี้ ตัวร้ายในภาคนี้ก็คือบาบาร่า มิเนอว่า เธอได้รับฉายาว่า 'ชีต้า' เพราะเธอคือ Mutant ที่มีหางและกรงเล็บที่มีลักษณะคล้ายแมว รับบทโดยคริสเท็น วิก ในเรื่องเธอคือเพื่อนซี้ของไออาน่า เธอทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับไดอาน่า เธอแอบอิจฉาไดอาน่ามาโดยตลอด ตอนแรกเธอนั้นดูเป็นผู้หญิงอบอุ่นและมีอารมณ์ขัน แต่ด้วยความริษยาและความโลภทำให้เธอนั้นกลายเป็นวายร้ายที่ร้ายสุดขั้วเลยก็ว่าได้4. ฉากต่อสู้ใน White House ฉากต่อสู้ครั้งใหญ่ของเธอกับเหล่าวายร้ายจะเกิดขึ้นในสภา White House จุดสังเกตก็คือพรมแดงที่ปูเป็นระนาบ เสาหินที่วางในแนวตั้ง และประตูที่มีธงชาติอเมอริกันตั้งอยู่ข้างหน้า และเนื่องจากการต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เธอต้องการที่จะใช้ชุดเกราะสีทองเพื่อเพิ่มแสงสว่างนั่นเอง5. Steve Trevor จะกลับมาไหม สตีฟเสียชีวิตหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และเขาก็อยู่ในความทรงจำของไดอาน่าตลอดมา เธอมีอาการประสาทหลอนเห็นสตีฟอยู่บ่อยครั้ง และการกลับมาของสตีฟครั้งนี้นั้นเป็นความจริง ไม่ใช่แค่เพียงอาการทางประสาทเท่านั้น โดย Chris Pine ผู้รับบทสตีฟได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ในภาคแรก ผมรับบทเป็นนายทหารในยุคสงครามโลกผู้ที่ต่อต้านการคุกคามมนุษยชนจากเหล่ามหาอำนาจ และในภาคนี้ผมรับบทที่ท้าท้ายมากขึ้นและสนุกยิ่งขึ้น บทนี้ผมเล่นเป็นเพื่อน คนรัก หรือบอดี้การ์ดคู่ใจของไดอาน่า เป็นคนที่คอยช่วยเหลือไเอาน่าในภารกิจนี้ก็ว่าได้ เปรียบเสมือนวัตสันที่คอยช่วยเชอร์ล็อคโฮมนั่นแหละ" ซึ่งก็ต้องติดตามกันล่ะว่าสตีฟนั้นกลับมาได้อย่างไร 6. ความโรแมนติกยังคงเหมือนเดิม ผู้กำกับ Charles Roven ยังคงยืนยันว่าในภาคนี้ยังคงมีบรรยากาศโรแมนติด หวานๆ ซึ้งๆ น่ารักกุ๊กกิ๊กในแบบฉบับซุปเปอร์ฮีโรตัวแม่ไม่แพ้ภาคที่แล้วแน่นอน ซึ่งไม่นานมานี้ก็ได้มีโปสเตอร์เผยแพร่ฉากๆหนึ่งในเรื่อง ซึ่งก็คือภาพจูบของไดอาน่าและสตีฟหน้า White House ในค่ำคืนอันแสนหวานนั่นเอง นับว่าเรียกต่อมน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว และเรื่องราวความรักของทั้งสองนั้นจะลงเอยยังไง สามารถรับชม Wonder Woman 1984 ได้ทาง TrueID ได้แล้วโดยคลิกที่นี่เลยขอขอบคุณรูปภาพจาก Warner Bros.