เดือนที่แล้ว มีเหตุสุดปรี๊ด เมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีเหตุเกือบจะได้เสียเงินฟรี ๆ ไปเกือบหมื่น เพราะอยากได้ของดีราคาถูก แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ได้สินค้าตามที่ตกลงกันไว้ จนเป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ไล่ล่าพ่อค้าออนไลน์รายนี้เกิดขึ้น แต่เรื่องก็จบลงด้วยดี เพราะเราสามารถติดตามเอาเงินทั้งหมดคืนได้ แต่กว่าจะได้ก็ใช้เวลาพอสมควร เสียทั้งเวลาและอารมณ์ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้ประสบการณ์อันไม่ค่อยจะประทับใจ แต่ก็อยากเก็บมาเล่าเป็นกรณีศึกษาให้กับเพื่อน ๆ เผื่อจะได้เป็นแนวทางในการซื้อสินค้ากับคนไม่รู้จักได้ป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดการถูกหลอกได้ในอนาคต และเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในการซื้อสินค้าออนไลน์ วันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีการตรวจสอบเบื้องต้นของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รายนั้น ดังนี้ค่ะถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายสัตว์เลี้ยง ก็ควรจะมีโปรไฟล์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง หรือพ่อพันธุ์แม่พันธ์ มีกิจกรรมกับสัตว์เลี้ยง ทั้งภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอ คนที่ขายอาหารหรือขนม ก็จะมีเบื้องหลังการทำขนม ซึ่งควรจะเห็นหน้าแม่ค้ากับขนมด้วยนะคะ ไม่ใช่เห็นแต่ขนม บางทีพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นก็เอารูปคนอื่นมาใช้ในการโฆษณา หรือหลอกล่อคนซื้อ แล้วโปรไฟล์เหล่านี้ ควรจะมีต่อเนื่องเป็นปี ๆ ไม่ใช่พึ่งมีไม่เกิน 3-6 เดือน ออเดอร์ หรือรีวิวจากลูกค้าอาจจะไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด ทุกอย่างเนรมิตได้ด้วย Photoshop จ้ารูปโปรไฟล์ รูปในบัตรประชาชน ชื่อในบัตรประชาชน และชื่อบัญชีธนาคาต้องตรงกัน อย่างน้อยก็เป็นการยืนยัน 3 อย่าง และให้ดีที่สุด คุณควรจะให้พ่อค้าถ่ายรูปตัวเองกับบัตร หรือกับสินค้าด้วย เพื่อความมั่นใจว่าคนกับบัตรนั้นคน ๆ เดียวกัน ไม่ได้ใช้บัตรและบัญชีคนอื่นมาหลอกลวง ตรวจสอบเฟซบุ๊กว่ามีการเปิดใช้มานานมั้ย มีตัวตนจริงหรือไม่ และต้องมั่นใจว่าไม่ใช่เฟซบุ๊กอวตาร โดยอาจจะสังเกตุจากพฤติกรรมการเช็คอินว่าได้เช็คอินที่ไหนบ้าง เหมือนคนปกติทั่ว ๆ ไปก็จะมีการเช็คอินร้านกาแฟ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว มีการแท็กเพื่อน แท็กแฟน หรือมีเพื่อนแท็กมาหา มีรูปการทำกิจกรรมต่าง ๆ เฟซบุ๊กอวตารมักมีอายุการใช้งานไม่นาน เพื่อนน้อย ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับใคร นอกจากการแชร์ข่าวสารบ้าง แต่ไม่มีโพสต์อะไรเลย ก็ถือได้ว่าเป็นเฟซบุ๊กที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไรนอกจากนั้น ตำรวจได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าหากคนขายที่มีบัญชีดำ ก็ลองตรวจสอบใน Google ว่าคนขายชื่อนี้ นามสกุลนี้ด้ถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่ มีเพื่อนในกลุ่มซื้อขายสินค้าออนไลน์ ได้แนะนำว่า หากถูกโกงเงินค่าสินค้าให้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหนังสือเพื่อไปยื่นกับธนาคารให้ทำการอายัดบัญชีของคนขาย การกระทำเช่นนี้จะมีผลทำให้คนขายไม่สามารถฝากถอนหรือทำธุรกรรมทางการเงินได้กรณีของผู้เขียน ผู้เขียนใช้วิธีเจรจาและกำหนดวันนัดจ่ายเงิน หลังจากนั้น ได้มีการลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้มีการตกลงกันแล้ว และหากคนขายไม่คืนเงินให้ครบตามจำนวนและวันที่กำหนด เราสามารถที่จะดำเนินคดีได้ตามกฎหมายสำหรับคนขาย ที่ขายสินค้าแล้วไม่นำส่งสินค้าให้กับลูกค้า คุณจะโดนข้อหาฉ้อโกง คุกแน่ ๆ ดังนั้น อยากอยู่ในอาชีพนี้นาน ๆ เราต้องรักษาเครดิตให้มาก ๆ เงินมัดจำสินค้าไม่ควรนำไปใช้จนกว่าเราจะส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าตรวจรับเรียบร้อย ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ และเราอาจจะไม่มีเงินคืนให้กับลูกค้า ซึ่งจะทำไปสู่ข้อพิพาทและกลายเป็นคดีความได้ก็เป็นแนวทางการป้องกันการถูกหลอกในการซื้อสินค้าออนไลน์ ของดี ๆ แพง ๆ แต่เอามาขายถูก ๆ ต้องให้ระวัง และเช็คข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เชื่อว่า คนที่ตั้งใจจะโกง ก็จะหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้เราเสียรู้ ดังนั้น จึงควรระวังอย่าแสดงออกถึงความอยากได้สินค้ามากเกินไป เพราะจะเปิดช่องให้คนขี้โกงสามารถเอาเปรียบเราได้เรื่องและภาพ โดยผู้เขียน