เมื่อพูดถึง โรคซึมเศร้า สำหรับเมืองไทยเราแล้วอาจยังไม่คุ้นหูเท่าใดนัก เราจึงมักคิดว่าคงเป็นแค่อาการเศร้า เสียใจ ผิดหวังจากการคาดหวัง หรืออกหักเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดว่ามีผลร้ายแรงอะไร แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น โรคซึมเศร้าเป็นโรคชนิดนึงที่แตกต่างจากอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา เพราะอาการเศร้านั้นจะอยู่กับเราไม่นาน แล้วก็จะหายไป เราจะค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้นเมื่อเข้าใจ ยอมรับหรือเวลาผ่านไป แต่โรคซึมเศร้ารุนแรงกว่านั้นมาก หากคุณผู้อ่านรู้สึกหดหู่ เศร้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่สนใจโลกภายนอก รู้สึกว่าทุกอย่างน่าเบื่อ การนอนหลับผิดปกติ หลับ ๆ ตื่น ๆ รู้สึกวิตกกังวล น้ำหนักตัวลดลง ท้อแท้ สิ้นหวัง นั่นอาจหมายความว่าคุณอาจมีอาการของโรคซึมเศร้าแล้วก็เป็นได้ค่ะสาเหตุของการเกิดโรคซึมเศร้า การเกิดโรคซึมเศร้านั้นมีปัจจัยหลายสาเหตุ เช่น สารเคมีในสมอง ในสมองคนเรานั้นจะมีสารเคมีในสมองหรือสารสื่อประสาท หากสารเหล่านี้มีปริมาณมากหรือน้อยผิดปกติ เกิดการรับส่งสื่อสารกันระหว่างเซลล์ผิดพลาดนั้น ก็จะส่งผลให้ระบบประสาทของคนเรามีความผิดปกติ ทำให้อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นยารักษาอาการซึมเศร้าจึงเป็นยาที่ใช้ในการปรับสมดุลของสารเคมีในสมองให้ดียิ่งขึ้นพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหลายคนมักมีผลมาจากพันธุกรรม โดยอาจมีบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวเนื่องจากพันธุกรรมเป็นโรคนี้มาก่อนกระบวนการคิด การเป็นคนคิดในแง่ลบ มองโลกในแง่ร้าย เมื่อได้พบเจอสถานการณ์ที่แย่หรือเลวร้าย กดดัน ก็จะทำให้มีแนวโน้วที่จะเป็นโรคซึมเศร้าง่าย จากการศึกษาพบว่าผู้ที่เคยพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกเสียใจ หดหู่ เช่น ตกงาน ถูกทำร้าย หย่าร้าง สูญเสียคนรัก มักมีแนวโน้วที่จะเกิดโรคซึมเศร้าได้ง่ายกว่าคนปกติการรักษาอาการซึมเศร้า การรักษาอาการโรคซึมเศร้านั้นต้องพิจารณาจากอาการเป็นหลัก หากผู้ป่วยเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจเข้มแข็งมาก่อน หรือไม่ได้มีอาการหนักมาก แพทย์จะให้ความช่วยเหลือเชิงจิตวิทยาโดยการพบปะพูดคุย ให้คำปรึกษาแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวได้ และกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่หากมีอาการรุนแรงหรือเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ก็จะมีการให้ยารักษาร่วมกับการบำบัดนั่นเองค่ะโรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคชนิดนึงที่ต้องการความเข้าใจจากคนในสังคม และความเอาใจใส่จากคนรอบข้าง ดังนั้นเราควรศึกษาข้อมูลและให้กำลังใจผู้ป่วยโรคนี้กันเยอะ ๆ นะคะ หากคุณผู้อ่านเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์อย่าลืมส่งต่อหรือแชร์ออกไปให้คนที่คุณรักได้อ่านกันนะคะ แล้วอย่าลืมติดตามอ่านบทความดี ๆ ของศิริได้ทางทรูไอดี ที่ บทความศิริ นะคะขอบคุณภาพประกอบบทความจาก ภาพที่1 /ภาพที่ 2/ภาพที่ 3/ภาพที่ 4