หลังจากที่อนิเมะดาบพิฆาตอสูร เข้า netflix ได้ไม่นาน ก็เกิดเป็นกระแส ฮิตติดลมบน กันมากพอสมควรถึงขนาดที่ว่า ข้าวหอมเลื่อนหน้าฟีด Facebook ไปจะมีเพื่อนที่โพสต์ เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่อย่างน้อย 1 คนในแต่ละวัน และด้วยความที่ตัวเองเป็นคนที่ชอบดูอนิเมะในระดับหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่าง จึงต้องขอลองดูสักหน่อย ว่าจะสนุกอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือเปล่า เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลย วันนี้จึงอยากจะมารีวิวและเชิญชวนเพื่อนๆชาว True Intrend ให้มาดูดาบพิฆาตอสูรด้วยกันค่ะ จะได้ไม่ตกกระแส เพราะเดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนก็จะมีภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ หลังจากนั้นปลายปีซีซั่นสองก็จะมาแล้วด้วย ใครยังไม่ได้ดูหรือกำลังลังเลอยู่ก็ลองอ่านรีวิวจากข้าวหอมประกอบการตัดสินใจกันได้นะคะ ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวของ คามาโดะ ทันจิโร่ เด็กหนุ่มขายฟืนธรรมดา ๆ ที่มีจมูกดีมาก คือแค่ดมกลิ่นก็สามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้เลย เก่งถึงขั้นที่สามารถแยกได้แม้แต่กลิ่นความเศร้า กลิ่นมีความสุข หรือกลิ่นอะไรก็แล้วแต่ที่เราคิดว่ามันไม่น่าจะมีกลิ่นได้ แต่ทันจิโร่ก็สามารถได้กลิ่นนั้นค่ะ ซึ่งพอเปิดเรื่องมาไม่นาน ครอบครัวของทันจิโร่ก็ถูกอสูรฆ่าตายทั้งครอบครัว เหลือเพียงแค่ คามาโดะ เนซึโกะ น้องสาวของเขาเท่านั้นที่ยังไม่ตาย แต่กลายเป็นอสูรแทน แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใดเนซึโกะกลับเป็นอสูรที่ไม่ทำร้ายคนซ้ำยังคอยปกป้องทันจิโร่ อีกต่างหาก นั่นทำให้ทันจิโร่ รู้สึกมีความหวัง ที่จะทำให้เนซึโกะกลับมาเป็นคนอีกครั้ง ประกอบกับทันจิโร่จำกลิ่นของอสูรที่ฆ่าคนในครอบครัวของเขาได้ เขาจึงเข้าร่วมเป็นหน่วยพิฆาตอสูร เพื่อสืบหาเบาะแสล้างแค้นให้กับครอบครัวและหาวิธีรักษา น้องสาวไปในคราวเดียวกัน การดำเนินเรื่องของอนิเมะเรื่องนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างกระชับและรวดเร็วพอสมควรเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ข้าวหอมชอบมาก เพราะเคยมีประสบการณ์ดูอนิเมะเรื่องอื่นก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างจะยืดเยื้อ นึกแล้วนึกอีก ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก แบบว่าซีนอารมณ์ค่อนข้างเยอะ ทำให้แอบรู้สึกรำคาญบ้างในบางตอน แต่สำหรับอนิเมะเรื่องนี้คือแทบจะไม่มีช่วงให้เรารำคาญเลยค่ะ แม้แต่ตอนแรกที่ครอบครัวของพระเอกถูกฆ่าตาย แม้ว่าจะเศร้า แต่ก็ไม่ได้ดึงดราม่ายาว ทั้งที่ภาพรวมของเรื่องเนื้อหาค่อนข้างเครียด มีการสูญเสีย ฆ่าแบบโหด ๆ ดูค่อนข้างรุนแรง แต่ข้าวหอมดูแล้ว กลับรู้สึกตื่นเต้น สนุก ไม่ใช่โรคจิตนะคะ แต่อาจเป็นเพราะเขาจะมีการสอดแทรกความน่ารักปนมุกตลกลงไปด้วยในหลาย ๆ ฉาก และอย่างที่บอกไว้ค่ะ ว่ามันไม่ได้ดึงอารมณ์ให้เราหดหู่มากนัก ฉะนั้นหากใครกลัวว่าดูแล้วจะเครียดอันนี้ให้สบายใจได้เลยค่ะว่าไม่เครียดแน่นอน ลายเส้นของการ์ตูนในเรื่องอันนี้ข้าวหอมไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าแนวอะไรแต่เรียกเองว่าการ์ตูนตาหวาน คือตัวละครในเรื่อง จะตาโตเป็นประกาย ตัวจะดูป้อม ๆ ไม่สูงมาก ตัวการ์ตูนผู้ชายก็จะดู ไม่เท่เท่าบางเรื่องค่ะ แต่สำหรับตัวผู้หญิง ถ้าเป็นแนวคิกขุน่ารักจิ้มลิ้มอันนี้คือได้เลยค่ะ รับประกันเลยว่าหน้าตาดีกันทุกคน อย่างข้าวหอมจะชอบเนซึโกะเป็นพิเศษ สาเหตุอาจเพราะในเรื่องเธอพูดไม่ได้ ปากคาบไม้ไผ่ แสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า แววตาและท่าทางเท่านั้น กลางวันออกแดดไม่ได้ต้องย่อตัวให้เป็นเด็กเพื่อหลบในกล่องให้พี่ชายสะพายไปด้วยทุกที่ แล้วด้วยความเป็นอสูรตอนเห็นและได้กลิ่นเลือดนะ น้ำลายไหลหยดเป็นทางเลย อารมณ์แบบอยากกินแต่กินไม่ได้ ทั้งที่เป็นอสูรแต่ว่าวาดและวางคาแรคเตอร์ออกมาได้ดูน่ารักน่าเอ็นดูมากค่ะ โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ก่อนจะจบตอนของแต่ละตอน จะมีฉากที่เป็นเรื่องเล่ายุคไทโช ที่จะมีทันจิโร่และเนซึโกะ หรือบางทีก็เป็นตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องสลับกันออกมาเหมือนเม้าท์มอยอะไรกันให้เราฟัง เนซึโกะก็จะพูดได้แค่ อื้อออ!! อื้มมมม! น่ารักสุด ๆ คิดว่าคุณผู้ชายที่ดูก็น่าจะรู้สึกเหมือนกันค่ะ สิ่งหนึ่งที่ไม่ชมไม่ได้เลยสำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือความดีงามของภาพในฉากต่างๆ ที่ค่อนข้างคมชัด ละเอียด และสวยงามมากค่ะ นอกจากความสนุกที่ได้จาก การ์ตูนแล้วยังมีแง่คิดและมุมมองที่แฝงอยู่ในอสูรแต่ละตัวที่ปรากฏภายในเรื่องอีกด้วย เพราะอสูรในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอสูรมาตั้งแต่กำเนิดนะคะ ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ก็โผล่มาจากนรกหรือจากไหนก็ไม่รู้ แต่อสูรทุกตัวเคยเป็นคนมาก่อน แล้วโดนเปลี่ยนให้กลายเป็นอสูร จนดูไปดูมา บางทีก็รู้สึกเห็นใจมากกว่าจะเกลียด และบางทีก็แอบกลัวคนที่เรียกตัวเองว่าคนดี คนที่บางทีก็ใจร้ายและน่ากลัวกว่าอสูรเสียอีก ปัจจุบันดาบพิฆาตอสูรมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 26 ตอน แน่นอนว่ายังไม่จบค่ะ ดังนั้นใครที่จะดูให้เตรียมใจค้างกันได้เลยค่ะ ซึ่งนั่นรวมถึงข้าวหอมด้วย ดูจนจบซีซั่นแล้วอยากดูต่ออีกก็ไม่มีให้ดู พอหาดูข้อมูลคร่าว ๆ จึงรู้ว่า ที่จริงหากเป็นในมังงะ เรื่องนี้เหมือนจะจบแล้วนะคะ แต่ด้วยความที่ดูอนิเมะมาตั้งแต่ต้น และอย่างที่บอกค่ะว่าชอบการพากย์เสียงและท่าทางของเนซึโกะมากทำให้ข้าวหอม ตัดสินใจรอดูอนิเมะมากกว่า ถ้าอ่านมันก็ไม่น่ารักเท่านี้น่ะสิคะ เอาเป็นว่าใครชอบดูอนิเมะ แล้วยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ก็เข้าไปชมกันได้ที่ Netflix ผ่านกล่อง True Id ได้เลยนะคะขอบคุณภาพประกอบจาก Demon Slayer: Kimetsu n