Overlord หรือ “จอมมารพิชิตโลก” เป็นอนิเมะแนวต่างโลกที่สร้างมากจากนิยายที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น เขียนโดย Kugane Maruyama ตัวนิยายมีแปลไทยด้วยจัดจำหน่ายโดย Dexpress ในส่วนของอนิเมะนั้นสร้างโดยสตูดิโอ Madhouse มีทั้งหมด 3 ซีซั่น และในวันนี้ผมก็จะมารีวิวทุกซีซั่นรวดเดียวเลยOverlord เป็นเรื่องราวของ Ainz Ooal Gown หรือ โมมอนกะ เกมเมอร์ที่กำลังเล่นเกม Yggdrasil เกมแนว DMMO-RPG (Dive Massively Multiplayer Online Role Playing Game) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของตัวเกม เพราะตัวเกมกำลังจะปิดตัวลงในเวลาเที่ยงคืน ตัวของโมมอนกะมีร่างอวตารเป็นโครงกระดูราวกับจอมมารเขาเป็นหัวหน้าของกิลขนาดใหญ่กิลหนึ่ง โดยเขามีความผูกพันธ์กับเกมนี้เป็นอย่างมาก เขาจึงยังไม่อยากออกจากเกมแม้เวลาปิดตัวใกล้เข้ามาทุกที ทั้งที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ออกจากเกมไปหมดแล้วเหลือตัวเขาเพียงคนเดียว แต่แล้วเมื่อถึงเวลาที่ตัวเกมควรปิดตัว เขากลับยังคงอยู่ในเกมต่อได้แม้เวลาปิดตัวเริ่มไปแล้ว แม้จะหาวิธีทางออกต่างๆ นาๆ ก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด นั้นจึงทำให้เขาและ มหาสุสานนาซาริค อันเป็นที่ตั้งของกิล ได้หลุดเข้าในต่างโลกโดยสมบูรณ์และเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น Overlord SS1ในซีซั่นแรกนี้จะเน้นพาให้เราทำความรู้จักกับโลกต่างมิติที่ตัวเอกกำลังติดอยู่ ซึ่งเมื่อได้สำรวจแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่โลกของเกม Yggdrasil ที่รู้จักหากแต่เป็นโลกอื่นที่แตกต่างออกไป เนื้อหาของซีซั่นนี้จึงเป็นการที่ Ainz Ooal Gown ต้องออกเดินทางเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆ และพยายามปรับตัวในโลกที่ไม่รู้จัก ซีซั่นแรกนี้ถือว่าเป็นการเปิดฉากของอนิเมะจอมมารต่างโลกได้ดีเลย แต่! ไม่ใช่ว่ามันจะดีไปทุกอย่าง เช่น ในเรื่องของ CG ซึ่งใช่มากเกินความจำเป็นทำให้งานภาพของอนิเมะที่ทำออกมาได้ดีต้องมาพังลงไม่เป็นท่า แต่ฉากที่ใช้ CG นั้นยังมีน้อยอยู่ก็ถือว่าพอรับได้ในระดับหนึ่ง และอีกอย่างคือ เพลงเปิด ส่วนตัวนั้นผมเป็นคนที่ซีเรียสกับเพลงเปิดและเพลงปิดเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นเหมือนปกหนังสือเลยที่เมื่อได้เห็นก็ทำให้เราอยากรู้จักหรืออ่านมัน แต่เพลงเปิดของอนิเมะเรื่องนี้ใช่ว่าจะไม่ดี จริงๆ แล้วมันค่อนข้างจะติดหูผมในระดับหนึ่งเลย หากแต่เป็นในเรื่องของรายชื่อทีมงานผู้สร้างนี้แหละที่ขัดใจมากมีขึ้นเต็มหน้าจอเลย ภาพของเพลงเปิดที่น่าสนใจโดนรายชื่อกลบจนหมดอารมณ์เลย ข้อดีเนื้อเรื่องถือว่าลำดับเรื่องราวได้ดีมาก เพราะต้องเข้าใจว่าอนิเมะเรื่องนี้สร้างจากนิยาย ซึ่งการลำดับเนื้อเรื่องนั้นค่อนข้างยาก แต่ว่าอนิเมะก็ลำดับเรื่องราวได้ดีและลื่นไหล ทำให้เนื้อเรื่องสนุกและน่าสนใจ ขอชื่นชมในส่วนนี้เลยงานภาพมีความเฉียบคมและลื่นไหล ยิ่งฉากต่อสู้นี้ทำได้ดีเลยเพลงเปิดน่าจดจำชวนให้ติดหูได้พอสมควร ข้อเสียCG ใช้เกินความจำเป็นทั้งที่งานภาพทำออกมาได้ดี แต่ต้องมาตกม้าตายเพราะ CG ซึ่งในซีซั่นแรกก็มีฉากแบบนี้น้อยหน่อยถือว่ารับได้อยู่ แต่ว่าซีซั่นหน้านี้แหละรายชื่อทีมงานกลบหน้าเพลงเปิดมากเกิน ทำให้หมดอารมณ์เลยมีบางช่วงของเนื้อเรื่องที่ชวนให้น่าเบื่อแต่ก็เป็นส่วนน้อยน้อย8/10 (A) Overlord SS2เนื้อเรื่องต่อจากซีซั่นแรกเลย ในช่วงแรกของอนิเมะจะเป็นการทำศึกกับ เผ่ามนุษย์กิ้งก่า ทำให้ในช่วงนี้เราจะได้เห็นการทำศึกของ Ainz Ooal Gown ที่นำทัพโดยผู้พิทักษ์แห่งนาซาริค โคคิวทัส หนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งนาซาริค และขุมกำลังอันเดตจากนาซาริคว่ามีความน่าเกรงขามขนาดไหน เนื้อเรื่องในช่วงแรกทำมาได้ดีและน่าสนใจมาก ต่างจากเนื้อเรื่องหลังจากนี้ที่ค่อนข้างน่าเบื่อและแสนจะเบาบาง แม้จะมีบางช่วงที่น่าสนใจมากแต่มันก็ถูกกลบด้วยความน่าเบื่อที่มีมากกว่า ในส่วนของเพลงเปิดนั้นยังคงเละและดูแล้วน่าจะเละกว่าเดิมด้วยซ้ำไม่ได้ปรับปรุงเลย ทั้งที่ภาพของเพลงเปิดในซีซั่นนี้มันน่าสนใจมากแท้ๆ แต่ก็ต้องมาตายเพราะรายชื่อทีมงานอีกแล้ว และอย่างที่บอกไปว่าในช่วงแรกเป็นการทำศึกสงครามดังนั้นก็ต้องมีฉากของกองทัพด้วย แต่ที่น่าสนใจคือใช้ CG ในการสร้างกองทัพอันเดตต่างจากกองทัพมนุษย์กิ้งก่าที่ไม่ไช้ CG สร้างแต่อย่างใด เพราะใช้ CG ในการสร้างกองทัพอันเดตมาสู้กับมนุษย์กิ้งก่านี้แหละที่ทำให้สงครามนี้ที่มันควรจะน่าจดจำแต่กลับพังไม่มีชิ้นดีเลย ข้อดีฉากการต่อสู้ทำออกมาได้ดีกว่าซีซั่นแรกเป็นอย่างมากการลำดับเนื้อเรื่องจากนิยายก็ยังคงทำออกมาได้ดี เข้าใจง่ายเพลงปิดของซีซั่นนี้รู้สึกชอบเอามากๆ ไพเราะเลยแหละ ฟังวนอยู่สิบกว่ารอบได้ ข้อเสียเนื้อเรื่องช่วงหลังน่าเบื่อมาก แม้จะมีช่วงที่น่าสนใจอยู่แต่ก็โดนความน่าเบื่อที่มีมากกว่ากลบหมดจนน่าเบื่อตามเพลงเปิดที่ยังคงเละเพราะรายชื่อทีมงาน โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเลยCG ใช้มากเกิน มีเยอะมากจนดูน่าเกลียดไปเลย7/10 (B) Overlord SS3และแล้วก็มาถึงซีซั่นที่ผมเกลียดที่สุด ในภาคนี้เนื้อเรื่องจัดว่าน่าเบื่อเลยทีเดียว จะเริ่มน่าสนใจก็ในช่วงหลังที่เป็นการทำสงครามระหว่าง Ainz Ooal Gown กับ อาณาจักร Re-Estize ไม่ได้จะบอกว่ามันเริ่มสนุกในช่วงนี้หรอกนะ แต่ที่จริงคือมันช่วงที่เละเทะที่สุดแล้วโดยเฉพาะฉากสงครามนี้แหละที่รับไม่ได้อย่างแรง จำได้ว่าตอนที่ซีซั่นสามออกมาแรกๆ เมื่อดูจบความรู้สึกตอนนั้นผมอยากโยนคอมพิวเตอร์ทิ้งมากและในครั้งนี้ที่ผมต้องกลับมาดูเพื่อมารีวิวผมก็เกือบปาทิ้งลงน้ำแล้ว ฉากสงครามนี้ห่วยแตกมาก CG ที่แสนน่าเกลียดก็ Ctrl+C มากมายจนรู้เลยว่าทีมงานคงเหมื่อยมากแน่ที่ต้องทำมันหลายรอบเพื่อสร้างฉากสงครามที่ห่วยแตกนี้ขึ้นมา แต่ก็ขอชมเชยในส่วนของเพลงเปิดในภาคนี้ปรับปรุงตัวได้ดีเลย รายชื่อทีมงานที่เคยรกเละเทะก็จัดระเบียบใหม่ได้ดี และเพลงปิดนี้ชอบมากๆ รู้สึกว่าชอบเพลงนี้มากที่สุดในบรรดาเพลงทั้งหมดของ Overlord เลย ข้อดีปรับปรุงในส่วนของเพลงเปิดได้ดีมาก และเพลงปิดก็ดีมากมีความหมายที่สื่อถึงความเป็น Overlord ได้ดีเลยการลำดับเรื่องราวจากนิยายยังคงทำได้ดี แต่ต้องมาตายเพราะเรียบเรียงมาได้น่าเบื่อมากฉากต่อสู้ยังคงทำได้สวยงามและหลื่นไหล ข้อเสียเนื้อเรื่องนั้นน่าเบื่อมากไม่มีความน่าสนใจเลยCG ที่ห่วยแตกเกินจะรับไหว นอกจากจะทำลายตัวอนิเมะเองแล้วยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของสตูโอ Madhouse เองด้วย6/10 (C) Overlord เมื่อครั้งที่อนิเมะซีซั่นแรกออกมาและผมได้ลองดูไป ผมก็รู้สึกชอบและรักอนิเมะเรื่องนี้มากอยากให้มีภาคต่อแต่พอมีออกมากลับแย่มากขึ้นเรื่อยๆ ความสนุกและจุดเด่นที่เคยมีก็หายวับดับไปหมด ซึ่งหลังจากซีซั่นสามจบไปก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีซีซั่นสี่ตามมาเลย ส่วนตัวอยากให้มีซีซั่นสี่มากอยากให้กลับมาแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไปอยากให้กลับมา Come Back สุดท้ายใครที่อยากดู Overlord ก็สามารถไปดูได้ที่ Netflix เครดิตรูปภาพรูปภาพหน้าปกจาก drak95 จาก Wallpaper Abyssรูปภาพประกอบจาก drak95 จาก Wallpaper Abyssรูปภาพประกอบจาก ShuOuma จาก Wallpaper Abyssรูปภาพประกอบจาก RyuZU² จาก Wallpaper Abyssรูปภาพประกอบจาก ShuOuma จาก Wallpaper Abyss