รีวิวหนังสือธรรมะ "ไม่มีคำว่าสาย เมื่อใจคิดได้"

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "ไม่มีคำว่าสายเมื่อใจคิดได้" ซึ่งลักษณะภายนอกของหนังสือเล่มอาจจะดูเหมือนกับหนังสือนิยายมาก ๆ แต่ความจริงแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือธรรมะที่ออกแนวให้กำลังใจคนที่เคยทำความผิดพลาดมาจากอดีต ซึ่งบางคนก็สามารถลืมเลือนเรื่องราวในอดีตได้จนลุกขึ้นสู้กับชีวิตได้อีกครั้ง แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกบั่นทอนชีวิตของตนเองและยังจมปลักกับความผิดเหล่านั้นอยู่ ซึ่งเราควรให้โอกาสและใหัอภัยตัวเองบ้างในตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้เขียนได้อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจและมีแรงสู้กับการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักให้อภัยตนเอง และพร้อมจะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเสมอ

เรื่อง การให้โอกาสกับตนเองคือ การเริ่มต้นที่ถูกต้อง : เนื้อหาในตอนนี้จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับความผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งคนเรามีสิทธิ์ที่จะผิดพลาดกันได้้ อีกทั้งเราควรมีการพัฒนาตนเองในด้านที่เราบกพร่องเพื่อนำสิ่งที่เราได้จากการพัฒนาตนเองไปปรับปรุงในการใช้ชีวิตและในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญอย่าปิดกั้นตนเองจากความผิดพลาดหรือไม่ยอมเปิดใจเพื่อรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต เพราะคนเราทุกคนมีสิทธิ์ในการเริ่มต้นใหม่และให้โอกาสตัวเองในสิ่งที่เราทำผิดพลาดไป หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านมาถึงเนื้อหาในตอนนี้ทำให้ผู้เขียนรู้จักการให้อภัยตนเองในสิ่งเคยทำผิดพลาดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองไปในทางที่ดีขึ้น

ข้อคิดที่ได้จากกอ่านหนังสือเรื่องไม่มีคำว่าสายเมื่อใจคิดได้ : ทำให้ผู้เขียนเข้าใจในเรื่องของการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตไม่จะเป็นเรื่องความรัก เรื่องความผิด หรือจะเป็นเรื่องของการทำงาน ซึ่งหลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบลงทำให้ผู้เขียนได้นำสิ่งต่าง ๆ ที่ในหนังสือได้บอกกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็น การให้อภัยตนเองในสิ่งที่ทำผิดพลาด และเรื่องของการห่วงสุขภาพของตนเองโดยที่อย่าหักโหมทำงานหนักเพื่อที่จะหวังเงินทองให้มีเงินเก็บเยอะ ๆ เพราะผู้เขียนเองก็เคยโหมงานหนักจนป่วยและต้องหยุดทำงานเลยก็มี เรียกได้ว่า เงินทองมันไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตเลยก็ว่าได้

ขอบคุณภาพพื้นหลังปกจาก : freepik.com  URL https://bit.ly/2Jf0KP3

ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน