เมื่อพูดถึง WE LEARN เหล่าหนอนหนังสือคงไม่มีใครไม่รู้จักกับหนังสือที่ทรงพลังและมีคุณค่ามากมาย ที่ถูกตีพิมพ์มาแล้วหลายต่อหลายเล่ม หนังสือวันนี้มาจากที่เดียวกันเลยครับ และที่สำคัญเป็นหนังสือที่ขายดีเป็นอยากมากเล่มหนึ่งคือ "ทำน้อยให้ได้มาก The Power of LESS" หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่ทำมาก ทำจนเหนื่อย ทำจนท้อ ทำจนไม่อยากทำ เปลี่ยนเป็น ทำน้อย ได้เยอะ และได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจรูปร่างหน้าตาแน่นอนครับหนังสือจาก WE LEARN แทบทุกเล่มจะทำมาในคอนเซ็ปที่ว่า เรียบหรูแต่ดูดี การออกแบบหน้าปกมีตัวหนังสือเพียงแค่ 4 บรรทัด และรูปช้างที่นั่งบนม้าโยกกับหนู โดยปกติแล้วม้าโยกแบบนี้ผู้นั่งฝั่งไหนน้ำหนังเยอะสุด ด้านนั้นจะติดพื้น ส่วนอีกด้านจะลอย แต่หนังสือเล่มนี้กลับกันครับ หนูกลับยกช้าชึ้นได้ ตรงกับชื่อหนังสือที่ว่า ทำน้อยให้ได้มากสาระสำคัญหนังสือเล่มนี้เปรียบดั่งคัมภีร์จัดการชีวิตของคนที่ยุ่งตลอดเวลาไม่ค่อยมีเวลาในการทำอย่างอื่น หรือคนที่กำลังลงทุนลงแรงทำอะไรหลายๆอย่างไปแล้ว ผลที่ได้กลับมากลับได้น้อยกว่าที่ลงทุนไป หนังสือเล่มนี้จะมีเทคนิค ทริคในการจัดกรสิ่งใหญ่ๆ ให้เป็นสิ่งเล็กๆ และยังสร้าง "สิ่งเล็กๆ" เหล่านั้นให้เกิด "ผลใหญ่ๆ" อีกด้วยความประทับใจผมประทับใจในบทที่ 4 เรื่องของการจดจ่อกับเรื่องเดียว โดยส่วนตัวแล้วเวลาทำงานหรือเขียนบทความผมมักจะเปิดเพลง หรือเปิด สื่อมีเดียต่างๆไปด้วยเพราะคิดว่าจะได้ผ่อนคลายเวลาทำไปก็เงยหน้ามาดู MV หรือเปิดหนังไปด้วยทำงานไปด้วย ใช่ครับมันผ่อนคลาย! แต่ในบางจังหวะเราเองก็กำลังคิดงานแล่นๆแล้วอยู่ดีๆภาพเหล่านั้นในหัวก็ได้หายไปซะงั้น เพราะเราไม่ได้จดจ้องอยู่กับการทำงานเพียงแค่สิ่งเดียว หรืองานที่เราทำในตอนนั้นคิดว่าดีแล้วพอส่งไปตรวจกลับโดนตีกลับ นั่นก็เป็นเพราะว่าเราทำหลายอย่างพร้อมกัน จนลดทอนสิ่งที่ทำในปัจจุบันลงไป ผมจึงเริ่มปรับเปลี่บนวิธีการใช้ชีวิตตามคำแนะนำของหนังสือคือรู้ปัจจุบัน ไม่เอาอดีตหรืออนาคตเข้ามาในทุกขณะของชีวิต ผลที่ได้คืองานของเราละเอียดขึ้นและชีวิตแฮปปี้ขึ้นมากครับก่อนลา ไปอ่านหนังสือเล่มนี้ผมให้คะแนน 9/10 เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากโดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ชีวิต ที่เราหลายคนมองข้ามไป การใช้ชีวิตผิดๆที่คิดเพียงแค่ว่า ลงทุนเยอะ ต้องได้กลับมาเยอะ แต่หลายครั้งนักที่ลงทุนเยอะได้กลับมาน้อย ผมอยากให้ทุกคนที่กำลังอยากเปลี่ยนตัวเองได้อ่านหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้ดูเผินๆอาจจะเหมาะกับนักธุรกิจ แต่ที่จริงแล้ว มันเหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ-แม่ นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่เป็นนายตัวเองก็ควรอ่านมากๆเช่นกัน