ถ้าคุณเป็นอีกคนนึงที่ชอบตั้งเป้าหมายชีวิตว่าจะทำอะไร....แล้วล้มเหลว ไม่บรรลุตามเป้า ผมอยากให้คุณลองอ่านแล้วทำตามหนังสือเล่มนี้ มาลองตั้งเป้าหมายกันดูอีกที ผมว่าครั้งนี้คุณจะทำสำเร็จ.... เล่าก่อนซักนิด ว่าผมได้ซื้อหนังสือเล่มนี้ มาจากกลุ่มซื้อขายหนังสือมือมือสอง เห็นแว๊บแรกที่ถูกใจคือราคามันถูก แต่เดี๋ยวก่อน... ราคาถูกอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งที่ผมตามหา ผมต้องการคุณภาพสมราคาด้วย เลยเอาชื่อหนังสือไปเสิร์ชดูในอากู๋ก่อนเพื่อดูความคิดเห็นผู้อ่าน ประกอบการตัดสินใจ..... สรุปว่าได้คะแนนรีวิวจาก amazon.com ที่ 4.6 ดาว จาก1,200 รีวิว บ๊ะ!!!! ถือว่าไม่ธรรมดา คะแนนรีวิวดีขนาดนี้ก็ไม่ต้องรอใครตัดริบบิ้นละครับ จัดมาหนึ่งเล่ม...สรุปว่า ดีมากสำหรับผมครับ ยิ่งได้มาในราคามือสอง ยิ่งโคตรดี คุ้มค่าคุ้มราคา !!! ก่อนจะไปถึงเนื้อหาเรามาดูหน้าตาหนังสือกันก่อนซักนิด นี่เลย ผ่าม !!! หนังสือได้รับการตีพิมพ์ในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี 2559โดยสำนักพิมพ์อัมรินทร์ มีจำนวนทั้งหมด 192 หน้า ในราคาค่าตัว 195 บาท เราอาจเจอกันช้าไปนิด แต่พรหมลิขิตก็พาให้เรามาเจอกันจนได้ !เครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความหลายคนอาจจะคิดในใจว่าพี่.... บ่นอะไรเยอะแยะ จะมาอ่านรีวิวหนังสือนะ ไม่ใช่มาฟังพี่เดี่ยวไมโครเวฟ เฮ๊ย !!! ไมโครโฟน เอ้าจัดไปครับ จะขอยกเนื้อหาบางช่วงบางตอนจากหนังสือ ที่มีทั้งหมด 7 บท ยกเอาบทที่ผมอ่านแล้วชอบมาสรุปคร่าว ๆ ให้ลองพิจารณาไปซื้อหามาประดับบ้านกัน ..โอ๊ะ !!! ลืมปกหลังนี่นา นี่คือปกหลังยั่ว ๆ จ้า...เครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความเรามาเริ่มกันเลยครับ คนเขียนเขาบอกว่า ก่อนที่เราจะเปลี่ยนนิสัย หรือทำอะไรจนติดเป็นนิสัยนั้น เราต้องรู้จักกับสิ่งสำคัญก่อนครับ นั่นก็คือ..คือ..คือ.....สมอง !!! นั่นเองครับหนังสือเล่มนี้บอกว่ามีสมองสองส่วนที่เราควรให้ความสนใจ คือ เบซัลแกงเกลีย สมองส่วนนี้เป็นส่วนที่จะจดจำและทำแบบเดิมซ้ำ ๆ จนกว่าจะมีใครสั่งให้ทำอะไรอย่างอื่น นั่นมันทำให้ถ้าเราเป็นคนที่มีนิสัยที่ดีอยู่แล้วก็ดีไป แต่ถ้าเรามีนิสัยที่แย่ ก็จะทำให้เราทำแต่เรื่องแย่ ๆ อยู่เรื่อยไปเพราะเจ้าสมองส่วนนี้นี่เอง....แต่ไม่ต้องกังวล คุณยังมีสมองอีกส่วนมันชื่อว่า พรีฟรอนทัลคอร์เท็กซ์ สมองส่วนนี้เป็นส่วนที่คอยควบคุม หักห้ามใจ ไม่ให้คุณจะทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆได้..(ถ้าคุณห้ามมันสำเร็จนะ) แต่ก็โชคร้ายหน่อยที่เจ้าสมองส่วนนี้ต้องใช้พลังงานเยอะ ทำให้มันเหนื่อยเพลียได้ง่าย แล้วเมื่อมันเหนื่อย เจ้าเบซัลแกงเกลีย ก็จะกลับมายึดสมองเราอีกครั้งดังนั้นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำให้ได้ถ้าอยากทำอะไรใหม่ ๆ ให้เป็นนิสัย คือการทำให้สมองส่วนอื่น ๆ ของคุณ ชอบในสิ่งที่เจ้าสมองส่วนหน้า หรือ พรีฟรอนทัลคอร์เท็กซ์ชอบให้ได้ โดยการใช้ก้าวเล็ก ๆ นี่แหละมาจัดการเครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ สมองส่วนจิตใต้สำนึกชอบออมแรง เมื่อคนเราทำอะไรซ้ำ ๆ ไปซักระยะหนึ่ง สมองจะทำให้กระบวนการนั้นเป็นอัตโนมัติ เราอาจจะเคยได้ยินจากคนอื่นหรือตัวเราเองพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากจะทำโน่นทำนี่นะ แต่..ไม่มีอารมณ์.. หนังสือเล่มนี้บอกเราว่าถ้าเราอยากทำอะไรให้สำเร็จเราต้องตัดอารมณ์ออกซะ แล้วใช้สิ่งที่ดีกว่าแทนนั่นคือ ความมุ่งมั่น แต่ความมุ่งมั่นก็ต้องใช้แรงและความพยายามเยอะเหมือนกัน เราจึงต้องใช้ความมุ่งมั่นพร้อมด้วยก้าวเล็ก ๆ จึงจะทำให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้สำเร็จเพราะก้าวเล็ก ๆ มีขนาดที่เล็กมาก เล็กจนยากเกินกว่าที่มันจะล้มเหลว ก้าวเล็ก ๆ มีขึ้นเพื่อให้คุณทำมันสำเร็จได้ในทุก ๆ วัน เพื่อผลประโยชน์สองอย่างคือ การกระตุ้นให้คุณทำเพิ่มเพราะมันง่าย และให้มันกลายเป็นนิสัย(ย่อม ๆ )เพราะทำได้บ่อย ๆเครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ ทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการพัฒนาตนเอง คือก้าวเล็ก ๆ และความมุ่งมั่น หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า มีปัจจัย 5 ประการ ที่ทำให้แรงใจของเราถดถอย จนทำอะไรได้ไม่สำเร็จ คือ การต้องพยายาม ความรู้สึกว่ายากเข็ญ ความรู้สึกลบ ความเหนื่อยล้าทางใจ และระดับกลูโคสในเลือดแต่เมื่อเรานำก้าวเล็ก ๆ มาใช้สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนจะลดน้อยลง เช่นคุณต้องการวิดพื้นให้ได้ วันละ 20 ครั้ง สำหรับบางคนแค่คิดก็หมดแรงแล้ว..แต่ถ้าคุณนำก้าวเล็ก ๆ มาใช้โดยลดเหลือแค่วิดพื้น 1 ครั้ง ต่อวันแทน คุณว่าคุณจะทำได้มั๊ย... การวิดพื้นหนึ่งครั้งต่อวัน มันไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่รู้สึกยากเข็ญ ความรู้สึกลบไม่ต้องพูดถึง จะฮาแทนเสียด้วยซ้ำ....ความเหนื่อยล้าทางใจก็คงไม่มี ถ้าคุณทำแค่นี้ยังไม่ได้ก็ไปนอนคุยกับรากมะม่วงเถอะการก้าวเล็ก ๆ จึงลดการต่อต้านในสองขณะคือ แรงต้านก่อนที่จะลงมือทำและแรงต้านการทำเพิ่ม สมองจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ แบบทันทีทันใดเพราะมันอยู่เหนือขอบเขตของความสบายใจของเรา แต่การก้าวเล็ก ๆ อย่างนุ่มนวลทีละเล็กละน้อยหมายถึงคุณกำลังทำตามกติกาของสมองอยู่นั่นเอง มันจึงทำให้สมองไม่ต่อต้าน และเมื่อสมองไม่ต่อต้านโอกาสในการสร้างนิสัยหรือการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น ในโลกของการก้าวเล็ก ๆ ไม่มีอะไรที่เล็กเกินไป เมื่อคุณไม่แน่ใจ จงเลือกตัวเลือกที่เล็กกว่าเสมอนี่คือกุญแจของระบบก้าวเล็ก ๆ คุณต้องทำสิ่งที่เล็กเกินกว่าจะล้มเหลวซ้ำ ๆ ทุกวัน นี่เป็นเนื้อหาคร่าว ๆ ของหนังสือ คิดให้เล็กลง แล้วลงมือทำซะ สุดยอดหนังสือดีที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณถ้าคุณอ่านแล้วนำมาปฏิบัติ ภายในเล่มยังมีรายละอียดปลีกย่อยที่จะช่วยให้เราใช้ก้าวเล็ก ๆ ในการพัฒนาชีวิตของเราให้ดีขึ้น จะนำมาบอกทั้งหมดก็กลัวเจ้าของหนังสือเขาจะด่าเอา ว่าไม่ถ่ายเอกสารแจกไปเลยล่ะ !!!เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจก็ลองไปหาซื้อมาอ่านกันได้ และจงจำไว้เสมอว่าถ้าคุณทำอะไรแล้วมันทำให้ คุณรู้สึกว่ายากอยู่แสดงว่ามันยังเล็กไม่พอสำหรับคุณ จงลดขนาดมันลงมา.. ลดลงอีก.. ลดอีก... นั่นแหละ ..อีกนิดนึง แล้วจัดการทำมันให้สำเร็จ แล้วจงเฉลิมฉลองความสำเร็จนั้นของคุณ..แล้วมันจะเป็นรากฐานให้กับความสำเร็จที่จะมากขึ้น ใหญ่ขึ้นได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นจากนี้ไปคุณต้องลอง คิดให้เล็กลง แล้วลงมือทำซะ....!!!