ต้องยอมรับว่ามาแรงมากๆสำหรับหนังสือหมวดจิตวิทยาพัฒนาตนเอง รวมถึงตัวเราเองด้วยที่ตกเป็นเหยื่อ55555 ก็ต้องบอกกันตามตรงเลยค่ะว่าที่เริ่มซื้อมาอ่านเพราะเห็นรีวิวจากใน Youtube เอย ซื้อตามเพื่อนเอย แม้แต่ซื้อเพราะเห็นว่าเล่มนี้ไอดอลเกาหลีที่ชอบก็อ่าน อ่านตามดีกว่า แต่นั่นเองก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเราเลยนะ จากที่ก่อนหน้านี้สนใจแต่โซเชียลมีเดีย ติดเล่นเกมส์ พอได้เริ่มหันมาอ่านหนังสือประเภทนี้ เรากลับหลงรักและอยากค้นหาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยประสบการ์ณที่พบเจอมา อะไรใหม่ๆ ในชีวิตที่ต้องเริ่มประสบพบเจอเองตามลำพัง ความโหดร้าย เจ็บปวด จากโลกภายนอกอันกว้างใหญ่ การเริ่มเปิดใจให้กับการอ่านก็ถือเป็นการเปิดใจให้ตัวเองได้ลองค้นหาศักยภาพที่แท้จริงในตัวเราอีกด้วย วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำหนังสือดีๆทั้ง 4 เล่มจากหนังสือทั้งหมดของเราที่อ่านแล้วรู้สึกว้าวหรือบางทีต้องเผลอร้องออกมาว่า “ใช่เลยว่ะ” “ โคตรจริง” Story of ชไมพร By: คิ้วต่ำ หนังสือเล่มนี้เราซื้อมาจากงานหนังสือทับแก้วบุ๊คแฟร์ประจำปี ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ (เราเรียนที่นี่ เดินมา 2 ปีแล้ว) ขอบอกก่อนว่าตอนแรกที่ตัดสินใจหยิบเล่มนี้เพราะแพคเกจและหน้าปกล้วนๆเลย มีความมินิมอล น่ารัก แต่หลังจากได้อ่านด้านหลังคร่าวๆ เล่มนี้น่าสนใจมากๆ เราเลยตัดสินใจซื้อมา เราแกะอ่านวันนั้นเลย แล้วก็ไม่ผิดหวังที่เลือกเล่มนี้มา หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงชั้นประถมชื่อชไมพร ที่เล่าเรื่องราวความเปิ่นและไร้เดียงสาของตัวเองออกมาเป็นเรื่องราวสั้นๆราวกับว่าเรื่องราวของชไมพรคือเรื่องราวที่ผู้อ่านทุกคนจะต้องเคยผ่านพ้นมาก่อน เสมือนได้ย้อนกลับไปดูเหตุการ์ณเก่าๆของตัวเองแล้วขบขำถึงความเป็นเด็กรวมถึงได้ตระหนักว่าเราเติบโตมามากแค่ไหนแล้วจากช่วงเวลาเหล่านั้น แต่ที่ทำให้เรารู้สึกหลงรักเป็นพิเศษคือผู้เขียนได้สอดแทรกคำคมเข้าไปในเรื่องราวของชไมพรได้อย่างแนบเนียน ทำให้หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วเพลินจนวางไม่ลง รู้ตัวอีกทีเราก็อ่านจนจบภายในวันนั้นซะแล้ว ? 2. Make Love ทำรักให้เป็นสีนวลตา : เป็นอีกเล่มที่ตัดสินใจซื้อเร็วมากๆ ด้วยหน้าปกที่สวยมาก เน้นว่าสวยมากจริงๆค่ะ ดึงดูดสุดๆ จะเรียกว่าเราเป็นคนที่เลือกหนังสือจากปกก่อนเป็นอันดับแรกก็ได้นะ 55555 ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติแหละเนอะ แต่แน่นอนค่ะว่าถ้าเนื้อหามันยังไม่แน่จริง ปกสวยแค่ไหนก็เท่านั้นแหละ โดยหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มต่อของผู้เขียนคนเดียวกันค่ะ (จำไม่ได้จริงๆว่าหนังสือเล่มก่อนหน้าชื่ออะไร) เนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทรับจัด Wedding ชื่อสีนวลตา ที่จะมาเล่าประสบการ์ณการจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักหลายๆคู่ที่พวกเขาประทับใจเป็นพิเศษ เรื่องราวความรักที่แตกต่างกันไปในแต่ละคู่ อุปสรรคของความรัก ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคู่รัก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาสีนวลตาคิดคอนเทนท์ Wedding ที่มีเอกลักษณ์ประจำคู่รักคู่นั้นได้อย่างลงตัว ใครที่อยากลองอ่านมุมมองความรักของคู่รักคู่อื่นๆ หนังสือเล่มนี้เป็นอีกตัวเลือกที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโตและเจ็บปวดไปพร้อมๆ กัน ไม่แน่ว่าเรื่องราวเหล่านี้อาจทำให้มุมมองความรักของคุณเปลี่ยนไปจากเดิมรวมทั้งได้สัมผัสถึงมุมมองความรักในรูปแบบของผู้ใหญ่อย่างแท้จริง อ่อและที่อยากบอกคือ ภาพประกอบในหนังสือเป็นภาพวาดที่สวยมากๆ แค่เปิดมาเห็นภาพก็ให้ความรู้สึกอะไรได้หลายๆอย่างแล้ว สมชื่อสีนวลตาจริงๆค่ะ 3. เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด By : คิมรันโด เราขอบอกเลยว่าหนังสือเล่มนี้ซื้อมาเพราะชื่อหนังสือ และซื้อตามศิลปินที่เราชอบค่ะ ? แต่เราได้ลองศึกษาและหารีวิวอ่านแล้วก่อนนะถึงตัดสินใจซื้ออย่างจริงจัง(จริงจริ๊งงง) เข้าเรื่องดีกว่า แค่ชื่อหนังสือ หลายๆคนโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาเห็นปุ๊ปก็อยากจะหยิบแล้วค่ะ และแน่นอนว่าเนื้อหาภายในเล่มมันช่างจี้ใจดำพวกเรา วัยรุ่นที่สับสนจับต้นชนปลายในชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ถูกอย่างมาก เจ้าของหนังสือเล่มนี้คือคุณคิมรันโด อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีที่อยากให้ชีวิตของลูกชายและลูกศิษย์มีความสุขอย่างสมวัยและที่ควรจะเป็น เรายังอ่านไม่จบทั้งเล่มค่ะ แต่แค่อ่านไปไม่กี่บทเราบอกตามตรงเลยว่าน้ำตาซึม มีทั้งคำถามและคำตอบมากมายที่เราตั้งไว้ในใจอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ทั้งเรื่องการเรียน การเลือกอาชีพที่รักหรืออาชีพที่มั่นคง การประสบความสำเร็จล่าช้ากว่าเพื่อนๆ การเก็บออมเงิน การลงทุน มากมายเต็มไปหมด ซึ่งเมื่อค่อยๆอ่านเราก็ค่อยๆเติบโตและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เรายกให้เป็นหนังสือที่ตบหัวด้วยการแทงใจดำแล้วลูบหลังด้วยคำแนะนำอย่างอ่อนโยน เพื่อนๆคนไหนที่รู้สึกว่าอายุขนาดนี้แล้วยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เราคือเพื่อนกันค่ะ เรารู้สึกด้อยกว่าเพื่อนมาตลอดเพราะยังไม่ประสบความสำเร็จด้านไหนเลย เพื่อนๆ พี่ๆ ในคณะแซงหน้ากันไปหมด แม้แต่รุ่นน้องเองก็ด้วย แต่เรามาเจอคำพูดนึงในหนังสือเล่มนี้ที่ว่า “ดอกไม้แต่ละชนิดผลิบานในฤดูกาลของมันเอง ตอนนี้อาจยังไม่ถึงเวลาของคุณ อาจสายไปหน่อยเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่ถ้าฤดูนั้นมาถึง คุณจะงดงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดอื่น” ในตอนนี้เราเชื่ออย่างสนิทใจเลยทีเดียวกับคำพูดนี้ เพราะในตอนนี้ตัวเราก็ได้เริ่มอะไรใหม่ๆ และประสบความสำเร็จในแบบที่เราพอใจแล้วระดับนึง หนึ่งในนั้นคงเป็นการเขียนบทความรีวิวนี่แหละค่ะ :) 4. เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข By : โกะโด โทคิโอะ เล่มนี้พึ่งซื้อมาได้ 2-3 วันเองค่ะ แต่อ่านตอนแรกก็แอบหงุดหงิดนะ มีไม่เห็นด้วยกับบางมุมมองของผู้แต่ง แต่โดยรวมแล้วเราเหมาะกับหนังสือเล่มนี้สุดๆไปเลย เพราะอะไรน่ะหรอ เราเป็นคนที่เรียกได้ว่าให้ความสำคัญกับคนอื่นมากเกินเหตุ ถ้าทำแบบนี้เขาจะโกรธเรามั้ย เขาจะยังเป็นเพื่อนกับเราอยู่หรือป่าว เพื่อนทำแบบนี้เพื่อนลืมเราไปแล้วแน่ๆ เห้อออ ปัญหาชีวิตมั้ยล่ะคะ พอได้เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ เราก็เริ่มคิดตามลองทำตาม เราอยากทำอะไรพอใจจะทำอะไรถ้าไม่ได้เดือดร้อนใครก็ทำซะสิ เป็นตัวของตัวเอง อย่าทนปั้นหน้ากับคนที่เข้ากันไม่ได้ เสียเวลาชีวิตเปล่าๆ นี่คือคอนเซ็ปหลักของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ เราเลยเลือกที่จะหยิบเล่มนี้มา หลังอ่านเล่มนี้จบจริงจัง เราคงจะเติบโตและมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ต้องการ ให้โอกาสตัวเองได้ทำตามใจมากกว่านี้ เราอยากมีความสุข ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเลิกนิสัยหลายๆอย่างตามที่หนังสือแนะนำให้เลิก แต่เราจะพยายามต่อไป ใครที่รู้สึกไม่เป็นอิสระในการใช้ชีวิต อึดอัดกับสังคมแวดล้อมที่เป็นอยู่ คุณลองให้โอกาสหนังสือเล่มนี้ได้ลองช่วยคุณดูนะคะ ถือเป็นหนังสือที่เพิ่มความมั่นใจและกำลังใจจากภายในตัวเองที่ดีมากๆเลยทีเดียว และนี่คือหนังสือทั้ง 4 เล่มที่เราอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆที่อยากลองค้นหาตัวเอง ปรับปรุงการใช้ชีวิตนิสัยใจคอบางอย่าง หรือค้นหามุมมองใหม่ๆให้กับชีวิต เราหวังว่าอาจมีเพื่อนๆหลายคนที่ได้ลองอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งที่เราแนะนำไปและชอบเหมือนกับเรา หรือใครที่เข้ามาอ่านรีวิวแล้วรู้สึกสนใจหนังสือซักเล่มและหันมารักการอ่านมากขึ้น เราเองคงจะรู้สึกดีใจมากจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะ คุณคือหนึ่งในความสำเร็จก้าวแรก ก้าวเล็กๆ ของเรา “ดอกไม้แต่ละชนิดผลิบานในฤดูกาลของมันเอง ตอนนี้อาจยังไม่ถึงเวลาของคุณ อาจสายไปหน่อยเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่ถ้าฤดูนั้นมาถึง คุณจะงดงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดอื่น”