Cover Photo Credit : Dragon Quest Your Story from Netflixสวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง Dragon Quest: Your Story ที่ตอนนี้มีฉายให้ชมทาง Application "Netflix" กันตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมานี้แล้วนะครับ (โดยดั้งเดิมนั้นฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562)Picture Credit : From Dragon Quest Your Story Official Trailerสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักซีรีย์เกี่ยวกับ Dragon Quest นี้มาก่อน จะขอเล่าคร่าว ๆ กับประวัติความเป็นมากันเล็กน้อยครับ- เกมซีรีย์ Dragon Quest นั้น ถือกำเนิดครั้งแรกบนเครื่องเล่นเกม Famicom เมื่อปี 2529 โดยค่ายเกมที่ชื่อว่า Enix- โดยเกมถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีการสร้างภาคต่อมาหลายภาค โดยภาคล่าสุดคือ Dragon Quest XI- ส่วนค่ายเกม Enix นั้นภายหลังได้รวมกับค่ายเกม Square (ที่ผลิตซีรีย์ยอดนิยมอีกเกมอย่าง Final Fantasy) ออกมาเป็นค่ายใหม่ชื่อ Square Enix- และนอกจากตัวเกมนั้นจะออกมาหลายภาคแล้ว ยังมี Spin-off ต่าง ๆ นา ๆ ทั้งการ์ตูน, มังงะ, ฯลฯ อีกมากมาย และหนังเรื่อง Dragon Quest: Your Story นั้นก็เป็นหนึ่งใน Spin-off เหล่านั้นครับPicture Credit : From Dragon Quest Your Story Official Trailerโดยหนังเรื่อง Dragon Quest: Your Story นั้น ใช้โครงเรื่องหลัก ๆ จากเกม Dragon Quest V มาเป็นแก่น ซึ่งตัวเอกของเรื่องก็ผจญภัยไปตามเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งก็อาจจะมีย่อ ๆ และดัดแปลงบ้างเนื่องด้วยข้อจำกัดด้านเวลาของหนังทำให้ไม่สามารถใส่เนื้อเรื่องในเกมมาทั้งหมดได้ และเมื่อหนังดำเนินมาถึงท้ายเรื่องก็เกิดการ Plot Twist อย่างรุนแรงที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับในเกมอย่างสิ้นเชิง (โดยตรงนี้เพื่ออรรถรสในการรับชม ผมจะไม่เล่านะครับ แต่เป็นการ Plot Twist ที่เห็นได้ตามหนังยุคปัจจุบันค่อนข้างเยอะ แต่มันผิดที่ผิดทางมากๆ กับหนังเรื่องนี้)และแน่นอนการเล่นกับฉากจบแบบนี้ ทำให้แฟน ๆ ซีรีย์ไม่พอใจกันเป็นอย่างมาก ว่าเอาเกมที่พวกเขารักมาทำแบบนี้ได้อย่างไร และวิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อนใน SNS ต่าง ๆ มากมายPicture Credit : From Dragon Quest Your Story Official Trailerแต่ . . . . . เนื่องด้วยตัวผู้เขียนเองก็จัดเป็นแฟนซีรีย์นี้อย่างเข้มข้นเช่นกัน ก็อยากจะเสนอมุมมองของตัวเองต่อหนังเรื่องนี้บ้างเช่นกัน ดังนี้ครับ- ส่วนตัวรับได้กับการจบแบบนี้ เพราะชื่อหนังเองก็ไม่ได้มีการอ้างอิงภาค V แต่ประการใด เป็นการเล่าเรื่องด้วยมีพื้นฐานจากภาคนี้เท่านั้น ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอะไร ถือว่าอยู่ในวิสัยที่ทำได้ แม้จะขัดใจเล็ก ๆ เหมือนแฟน ๆ ท่านอื่น แต่ถือว่ายอมรับได้- สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหนังเรื่องนี้คือฉาก Action การต่อสู้ต่าง ๆ ที่กระชับฉับไว ประยุกต์การโจมตีด้วยอาวุธและเวทมนตร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เสริมจินตนาการจากตอนเล่นเกมที่มีเพียง Text ขึ้นมาเท่านั้น ว่าโจมตี / ใช้เวทย์ เฉย ๆ พอมาเป็นฉาก Action เต็มรูปแบบแบบนี้ถือว่าดีงามมาก ๆ- และที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างนึงก็คือ Fan Service อย่างเข้มข้นกับเรื่องราวการเล่นเกม คุณจะได้เห็นฉากต่าง ๆ ออกมาเป็นรูปธรรมมาก ๆ เช่นการเก็บเลเวลสู้กับมอนสเตอร์, ได้เห็นการใช้เวทมนตร์ต่าง ๆ ในเกมที่คุ้นเคย, เห็นอาวุธในตำนานอันทรงพลังในการโค่นศัตรู ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อประกอบกับกราฟฟิคอนิเมชั่นในยุคปัจจุบันแล้ว ถือว่าฟินมาก ๆ สำหรับแฟนเกมตัวยงเลยล่ะสุดท้ายนี้ แม้ฉากจบอาจจะไม่ได้อย่างใจ แต่ทั้งนี้อยากให้แฟน ๆ ซีรีย์ปล่อยวางลงสักนิด อยากให้ดูหนังเรื่องนี้ในฐานะหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่ใช่เกม แล้วเพลิดเพลินไปกับความแฟนตาซีที่เกมยุคก่อนนั้นแสดงให้เราได้เห็นแค่ระดับ 8 bit แต่ในหนังเรื่องนี้นั้นอลังการมาก ๆ ฉากจบที่ว่าแย่ก็ยังมีสารบางอย่างจะสื่อกับผู้ชมเช่นกัน (แม้จะเป็นสารที่ค่อนข้างบางเบาไปนิด)และเมื่อดูจบ คุณก็จะเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าทำให้หนัง Spin-off เกม Dragon Quest เรื่องนี้นั้น ถึงใช้ชื่อภาคว่า Your Story ครับOfficial Website : https://dq-movie.com/