โลกเรามีอะไรที่ตลกขบขันอยู่มากมาย ทั้งที่เรื่องราวเหล่านั้นอาจจะไม่ตลกเลยก็ได้ บางครั้งความขำขื่นของใครบางคน อาจเป็นเสียงหัวเราะของทุกสายตาที่กำลังเฝ้ามอง การต่อสู้เรียกร้องในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนมีให้เห็นแทบไม่ต่างกันบนโลกใบนี้ และในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมของแต่ละประเทศนั้น แนวรบวัฒนธรรมถูกนำมาเป็นตัวขับเคลื่อนอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะเพลงพื้นบ้าน ละครร้อง บทเพลง บทกวี ฯลฯ นั่นก็เพราะว่าสายธารวัฒนธรรมทั้งหลาย บอกเล่าเรื่องราว เข้าถึงหัวใจของมนุษย์ส่วนที่ลึกที่สุดได้ดีกว่าอย่างอื่นCourt (2014) ภาพยนตร์อินเดียที่กำกับโดย ชัยทันยา ทัมฮาเน (Chaitanya Tamhane) เมื่อมีการพบศพคนงานขุดท่อระบายน้ำที่ฆ่าตัวตาย ตำรวจสันนิษฐานว่า นารายัน คัมเบิล กวี และนักต่อสู้เคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากว่าบทกวี บทเพลงของเขา เป็นสาเหตุให้คนงานคนนั้นฆ่าตัวตาย นารายัน คัมเบิล ถูกส่งฟ้องเพราะตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษาศาล มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน (พร้อมทั้งพยานที่มาร่วมปรักปรำ) Court (2014) เดินเรื่องราวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทีละขั้นละตอนของกระบวนการไต่สวนอย่างต่อเนื่อง หนังจัดอยู่ในกลุ่ม Courtroom Drama ก็คือเรื่องราวแทบทั้งหมดว่าด้วยการต่อสู้คดีในชั้นศาลชัยทันยา ทัมฮาเน มีความคิดจะทำหนังแนวสัจนิยมในบริบทการต่อสู้ในชั้นศาลมานานแล้ว เขาบอกเล่าขั้นตอน ความเป็นมาเป็นไปถึงกระบวนการต่าง ๆ การต่อสู้ การเรียกร้อง การหาหลักฐาน อัยการ ทนาย พยาน จำเลย ผู้พิพากษา องคาพยพต่าง ๆ ของระบบยุติธรรมอินเดียที่เต็มไปด้วยอคติที่ครอบงำความหวาดกลัวของคนตัวเล็กตัวน้อย คนชั้นล่าง คนที่ไม่มีปากเสียงในสังคม คนชายขอบ เอาไว้ เขาตามเก็บข้อมูลและสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องมานานนับปี ก่อนจะมาลงแรงกับ Court (2014) ที่ให้น้ำหนักกับความเป็นมนุษย์มากกว่า เทน้ำหนักไปทางใดทางหนึ่งของการต่อสู้ส่วนหนึ่งของ Court (2014) ที่มีความน่าสนใจนอกจากเนื้อเรื่องคือ การนำเสนอภาพการใช้ชีวิตทนายความของ นารายัน คัมเบิล จำเลย ที่เป็นคนชั้นกลางใช้ชีวิตค่อนข้างจะมีรสนิยม ที่พักดี มีรถหรูขับ ใช้ข้าวของแพง ๆ แต่ลงมาขลุกอยู่กับปัญหาด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงนำเสนอภาพของอัยการ ที่สภาพชีวิตด้อยลงมากกว่าทนายจำเลย แต่ก็ยังถือเป็นคนชั้นกลางที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร หนังพยายามเปรียบเทียบไปกับสภาพของลูกความที่ดูจะแร้นแค้นรันทดต่อสภาพความเป็นอยู่ เป็นเหมือนส่งสัญญะอะไรบางอย่างที่เสียดสีระบบรัฐราชการ ถึงความเอารัดเอาเปรียบ ไม่เห็นหัวประชาชน ทั้ง ๆ ที่ก็เกิดมาจากกลุ่มชนชั้นใกล้เคียงกัน เป็นเหมือนการใช้อำนาจกดทับความไม่มีอำนาจของตนเองอีกชั้นหนึ่ง Court (2014) เลือกที่จะจบแบบปลายเปิด ทิ้งคำถามไว้ให้ขบคิดต่อ ภาพที่ทุกคนค่อย ๆ ทยอยเดินออกจากศาล ภาพความวุ่นวายที่ค่อย ๆ เงียบเสียงลง หลอดไฟค่อย ๆ ปิดดับลงทีละดวง เป็นภาพสื่อถึงความสิ้นหวังได้อย่างแท้จริง การถูกเอารัดเอาเปรียบจากเงื้อมมือของกฎหมายว่าแย่แล้ว การถูกลดทอนสิทธิในการเข้าถึง หรือลดทอนความเป็นมนุษย์นั้นยิ่งแย่หนักเป็นร้อยเท่าพันเท่า ในขณะที่จำเลยไม่ได้รับการประกันตัวในวันหยุด ภาพกลับตัดไปที่เจ้าหน้าที่ของศาล ได้ไปเที่ยวไปพักผ่อนร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่งด้วยความรื่นเริงในวันหยุดเดียวกัน มันเป็นความเจ็บปวดที่อาจถูกมองเป็นเรื่องธรรมดาของคนบางกลุ่ม แต่ชีวิตจริงก็แบบนี้ จะมีผู้มีอำนาจที่ไหนมองเห็นความลำบากลำบนของผู้คนอย่างเข้าอกเข้าใจ?Court (2014) สะท้อนทุกอย่างในมุมมองของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำได้ดี เราอาจจะไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ได้ชัดเจน หากเราไม่กลายเป็นผู้ที่ตกเป็น “เหยื่อ” เสียเอง และนี่เป็นหนังตลกเรื่องหนึ่งที่เนื้อหาของหนังไม่ได้ตลก แถมยังรันทดหดหู่มากพอดูอีกด้วย สุดท้ายแล้วคนเราก็ถูกจำแนกความแตกต่างด้วยสถานะ ด้วยชนชั้น ด้วยสภาพทางสังคม และบางครั้งคนเดียวกันนี่แหละ เมื่อขึ้นไปอีกสถานะหนึ่งได้ ก็กลับหันมาเหยียบกันเอง เพื่อให้ตัวเองได้ปีนป่ายสูงยิ่งขึ้นไปอีก Court (2014) สามารถรับชมในแบบ Streaming ได้ทาง Amazon Prime และ Msn Entertainment ----------- Court (2014) ของ ชัยทันยา ทัมฮาเน (Chaitanya Tamhane) นำแสดงโดย Vira Sathidar Vivek Gomber Geetanjali Kulkarniรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งชาติ National Film Awards ของประเทศอินเดียรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์มุมไบรางวัลภาพยนตร์เอเชียยอดเยี่ยมจากเทศกาล Singapore International Film Festivalรางวัล Fipresci Prize จากเทศกาล Viennnaleรางวัล Venice Horizons Award จาก Venice Film Festivalรางวัล Luigi De Laurentiis Award จาก Venice Film Festival ขอบคุณภาพปก และภาพประกอบจาก Court Official Page