รีวิวล้างรถเองให้วิบวับวิบวับ

"ปลายทางสำคัญ ระหว่างทางสำคัญกว่า" คำ ๆ นี้กระจ่างในความรู้สึกของฉัน ในวันที่เจ้าไวรัสโคโรน่า โควิด-19 ได้มอบสิ่ง ๆ หนึ่งให้แก่ฉันแบบไม่ตั้งใจ นั่นคือ เวลา ของสิ่งใดที่อยากได้ อยากมี หากเพียงแค่ได้มาก็คงไม่มีความทรงจำต่อสิ่งนั้นมากเท่ากับเราได้ร่วมเดิน ร่วมทำ ร่วมสร้างกันมาเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ และในครั้งนี้ เวลาที่เราได้รับมาจากเจ้าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ก็ช่วยทำให้ฉันได้ลิ้มรสความหมายของคำคมข้างต้นได้เป็นอย่างดี

"เพชรผมโครตวิบๆๆๆๆ ...เพชรผมโครตวิบวับวิบวับ ผู้หญิงอยากเข้ามาจับๆๆๆ" เพลงฮิตแห่งปีลอยดังมาจากไหนสักแห่งกระแทกเข้าหูอย่างจัง และแล้ววันนั้นทั้งวัน ฉันก็เลยวิบวับวิบวับในหัวทั้งวัน พอคำ ๆ นี้เข้ามาในสมอง ก็เลยทำให้นึกถึงความตั้งใจหนึ่งในตอนที่ยังไม่มีเวลาส่วนตัวมากมายเท่าช่วงเวลานี้ "ฉันอยากล้างรถเองให้มันวิบๆๆๆๆ เพื่อให้รถฉันโครตวิบวับวิบวับ ให้ทุกคนเห็นแล้วอยากเข้ามาจับๆๆๆๆ" นั่นแหละความตั้งใจอยากของฉันในวันนี้คงมีโอกาสทำให้มันสำเร็จวิบวับวิบวับเสียที ...โอ๊ย!! ใครก็ได้ช่วยเอาออกไปจากหัวที

และแล้วไม่ต้องรอนานความฝันก็จะเป็นจริงกันแล้ว เมื่ออุปกรณ์พร้อมก็ได้เวลาลงมือ ก่อนอื่นมีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันนิดหน่อย

1. ฟองน้ำที่ใช้ควรจะเป็นฟองน้ำใหม่ เพราะหากว่าฟองน้ำไม่สะอาดพอ มีเศษหิน เศษกรวดเล็ก ๆ อยู่ในรูพรุนของฟองน้ำอาจไปขูดสีรถของคุณเป็นรอยได้

2. ควรผสมสัดส่วนแชมพู กับน้ำลงในถังน้ำ ตามที่ระบุไว้ข้างขวด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของตัวแชมพูเอง

3. ผ้าชามัวร์ที่จะนำมาเช็ดแห้งนั้น ควรชุบน้ำให้เปียกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นผ้าจะมีความกระด้างแข็ง อาจไปขูดกับสีรถจนเป็นรอยได้

เมื่อพร้อมแล้วเรามาลงมือล้างรถตามความฝันกันเลย "รถฉันต้องวิบวับวิบวับ"

แชมพูล้างรถ หลาย ๆ คนคงเคยคิดว่ามันไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ เราสามารถใช้น้ำยาล้างจาน หรือแชมพูสระผมของคนแทนกันได้ แต่ในคราวนี้ที่ได้ลองล้างรถด้วยตัวเองดู จึงทำให้รู้ได้ว่า มันต่างกันมาก ดูผิวเผินแล้วมีฟองขึ้นฟูเหมือนกัน แต่ความที่ว่าเป็นแชมพูที่มีส่วนผสมโดยเฉพาะสำหรับรถ จะมีส่วนช่วยเคลือบสีรถมากกว่าสารที่มีอยู่ในน้ำยาล้างจาน หรือแชมพูสระผม เพราะสองสิ่งนั้นจะเน้นเรื่องการขจัดคราบมัน ส่วนผสมที่ใช้ในการขจัดคราบมัน อาจเป็นอันตรายต่อสีรถ สังเกตุได้ว่าเวลาใช้แชมพูล้างรถจะรู้สึกถึงความลื่น มีสารเคลือบผิวที่สามารถรับรู้ได้จากมือสัมผัส ดังนั้นครั้งต่อไปเราว่าถ้าล้างรถด้วยแชมพูล้างรถผสมแว๊กซ์ควรใส่ถุงมือเสียหน่อยก็น่าจะดีกว่า

การลงฟองนั้นขอแนะนำว่าควรล้างจากบนลงล่าง เพราะรถในจุดใกล้ล้อรถนั้นอาจมีเศษหิน เศษทรายติดมากับฟองน้ำที่เราใช้จึงควรล้างเป็นส่วนท้ายสุด เมื่อลงฟองทั่วทั้งรถแล้วก็ถึงเวลาฉีดน้ำออก สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจสิ่งหนึ่งเลย คือ เวลาฉีดน้ำลงบนรถหลังลงฟองแล้วจะเห็นได้ชัดว่าน้ำที่ฉีดลงไปนั้นวิ่งลงเป็นเม็ด ๆ เหมือนกับเวลาที่เราเคลือบกระจกรถด้วยน้ำยาเคลือบกระจกเพื่อเพิ่มทัศนะวิสัยไม่ให้น้ำเกาะกระจกเวลาฝนตกเลย  แสดงว่ารถได้รับการเคลือบด้วยแว็กซ์แล้วจริง ๆ

ใครว่าความฝันจะได้มาโดยง่าย ขอเถียงแค่ฝันให้รถเงาวิบวับวิบวับแค่เนี้ย ก็เล่นเอาซะหอบเหมือนกัน ขนาดว่ายังไม่จบขั้นตอนนะ ขั้นต่อไปต้องเช็ดแห้งเพื่อไม่ให้หยดน้ำที่เกาะรถเวลาแห้งแล้วจะติดเป็นคราบ แค่นั่งอู้ไม่นานกำลังจะลุกขึ้นมาเช็ดแห้ง อ้าว...รถที่ล้างแห้งซะละ แต่กลับไม่มีคราบน้ำเลย ผ้าชามัวร์ของเราเลยอดแสดงเลยทีนี้

สรุปประสบการณ์จากการล้างรถด้วยตัวเองในครั้งนี้ ถือว่า สนุกมาก แม้ว่าจะเหนื่อยอยู่บ้าง แต่เมื่อมารู้ข้อมูลว่า การล้างรถด้วยตัวเองสามารถเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายไปได้ถึง 325 แคลอรี่ต่อชั่วโมง แบบนี้ถือว่าคุ้ม ทำไมล้างรถถึงสนุกนะเหรอ ก็เพราะเดี๋ยวนี้แชมพูล้างรถใช้ง่าย แถมลดขั้นตอนการล้างไปได้หลายขั้นตอนเลยเชียว ไม่ต้องเช็ดแห้ง ไม่ต้องเคลือบเงา ทุกอย่างครบจบในขั้นตอนล้างขั้นตอนเดียวเลย ทำให้ไม่เหนื่อยมาก แถมถ้ามีคนช่วยล้างก็นับว่าเป็นกิจกรรมที่น่าเพลิดเพลินดีไม่ใช่น้อย เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้จากการลงมือทำนั้นก็แสดงให้เห็นชัดเจนง่าย ๆ ตรงหน้าเลย รถคุณจะเงางาม น่ามอง เห็นแล้วชื่นใจดี

อย่างที่กล่าวแต่ต้นว่า "ระหว่างทางสำคัญ" เห็นจะจริง บรรยากาศในการช่วยกันล้างรถนั้นคงบรรยายยาก คงต้องเชิญชวนให้ไปลองสัมผัสกันเอง ความรู้สึกบางอย่างเงินก็หาซื้อไม่ได้ แต่ได้มาง่าย ๆ เพียงคุณลงมือทำ แม้จะเป็นเรื่องง่าย ๆ เล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้อิ่มเอมใจไม่น้อยทีเดียว

ชื่อผลิตภัณฑ์ที่นำมาประกอบรีวิว แชมพูล้างรถผสมแว๊กซ์ KarPro ราคา 99-189 บาท

ภาพประกอบบทความ  ภาพปกโดยCanva /รูปที่ 1 โดย Pixabay /รูปที่ 2 จากShopee/รูปที่ 3-7 โดย Buakhow(ผู้เขียน)