I lost my body การเดินทางตามหาร่างกายของมือขวาที่ทำให้หัวใจเราหว่าเว้และว่างเปล่าอย่างเต็มรูปแบบ พอได้อ่านเรื่องย่อแล้วก็มีอึ้งๆ กันไปบ้าง ใช่ค่ะทุกคน หนังเปิดมาด้วยเหล่าอวัยวะในร่างกายอย่างมือ หรือว่าลูกตา ที่ต่างมีชีวิตราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตนึง พวกมันแอบออกมาจากตู้แช่ในโรงพยาบาล มือขวาข้างนี้ต้องการออกตามหาร่างกายที่เหลือของมัน หนังเล่าการเดินทางของมือขวา ตัดสลับกับเรื่องราวของ ‘นาโอเฟล’ ชายหนุ่มที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ ต้องมาทำงานส่งพิซซ่า ตัดสลับกับอดีตของนาโอเฟลตอนเขายังเป็นเด็ก มีพ่อแม่ มีบ้านที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น สรุปว่าอนิเมชั่นเรื่องนี้ตัดสลับไปมาระหว่าง 3 เหตุการณ์ด้วยกัน ซึ่งตอนเริ่มก็อาจจะเบลอๆ นิดนึง แค่พอจูนติดแล้ว เชื่อเถอะว่าทั้งสามเหตุการณ์ต่างก็มีอะไรบางอย่างส่งถึงกัน จนทำให้เราแอบน้ำตาซึมออกมาได้ เส้นเรื่องชีวิตปัจจุบันของนาโอเฟลนั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เขาสูญเสียทุกอย่างที่เขารัก ต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ไม่เห็นหัวเขาด้วยซ้ำ ทำงานส่งพิซซ่าไปวันๆ โดนเจ้านายด่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ชีวิตของเขาไร้ค่า จนวันนึงที่เจ้าตัวมีโอกาสได้ส่งพิซซ่าให้กับ ‘แกรเบรียล’ โดยที่ไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ พวกเขาคุยกันผ่านทางอินเตอร์คอมในคอนโดของเธอ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นาฟาเอลออกตามหาผู้หญิงคนนี้ เธอเติมเต็มชีวิตของเขาให้มีความหมาย แต่สุดท้ายก็มีบางเหตุการณ์เกิดขึ้น ที่ทำให้เขารู้สึกไร้ค่าอีกครั้ง นี่จะเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะทำให้เราได้เห็นมุมมองบางอย่างเราชอบแนวคิดเรื่องของโชคชะตาที่นาฟาเอลเอ่ย มันเอามาผูกกับหลายๆ เรื่องที่หนังเล่ามาได้ อย่างเช่นการจับแมลงวันที่พ่อนาฟาเอลเคยสอน หรือการที่มือของเขายังไม่ยอมพ่ายแพ้และพร้อมสู้ทุกเหตุการณ์เพื่อหาร่างกายของตนให้เจอ หรือแม้แต่การตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิตของเขาที่เราได้เห็น หนังเล่นกับการ ‘ท้าทายโชคชะตา’ ให้เราเชื่อมั่นในคำนี้ ถึงแม้เราจะหลบหนีมันไม่พ้น แต่เราก็สามารถหลบหลีกมันได้ซักนิดนึงก็ยังดี ในพาร์ทของการเดินทางของมือเป็นอีกส่วนที่เราชอบ เหมือนได้ดูการผจญภัยของสัตว์โลกอะไรซักอย่าง (ซึ่งสิ่งนั้นคือมือคน) มุมมองจากคุณมือขวานี่มันเจ๋งมาก เราได้มองเห็นเหตุการณ์ที่สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ซักตัวจะได้พบเจอจริงๆ รวมถึงทำให้เราเห็นด้วยว่าคุณมือขวาเขาสู้ตายขนาดไหน ไม่ว่าจะเจออะไรเจ้าตัวก็เอาตัวรอดต่อไปได้เสมอในพาร์ทนาโอเฟลตอนยังเป็นเด็กเป็นพาร์ทที่จะเชื่อมสองพาร์ทด้านบนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว จะทำให้เราเห็นว่ามือน้อยๆ ข้างนั้นมีความทรงจำกับร่างกายนาโอเฟลมากแค่ไหน และทำให้เราเห็นว่าชีวิตอันแสนว่างเปล่าของนาโอเฟลในตอนนี้แตกต่างจากเด็กน้อยนาโอเฟลที่มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอคนนั้นขนาดไหน เป็นส่วนเติมเต็มที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดออกมาได้อย่างลงตัวและน่าจดจำ ซีนจบคือบีบหัวใจเรามากๆ ร้องไห้น้ำตาปริ่มแล้วตอนนั้น ถ้าทุกคนตั้งใจดูมาทั้งเรื่องและอินกับเรื่องราวของนาฟาเอลและมือขวาของเขา มันจะทำให้ตอนจบเป็นบทสรุปของชีวิตนี้ได้ยอดเยี่ยมมากๆ สรุปว่า ลองดูกันนะคะทุกคน เป็นอีกหนึ่งอนิเมชั่นที่ยอดเยี่ยมทั้งในแง่เนื้อหา ปรัชญา ภาพ และเสียง (ภาพอาจไม่ได้สวยแต่มันส่งความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ ส่วนซาวด์แทร็กคือบีบใจได้ตลอด ส่งเพลงออกมาในเวลาที่ดีและยอดเยี่ยมจากที่เศร้าอยู่แล้วคือเคว้งหนักไปอีก) ใครที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตเรามันช่างว่างเปล่าซะเหลือเกิน หากดูเรื่องนี้อาจจะเศร้าขึ้นไปซักหน่อย แต่ตอนจบจะฝากแง่คิดบางอย่างไว้ทำให้คุณมีพลังต่อไปแน่นอนค่ะ8/10Just so into everythingติดตามรีวิวอื่นได้ที่นี่ https://m.facebook.com/justsointoeverything/ขอบคุณภาพประกอบจาก จาก IMDB , official teaser และ Xilam Animation