อันนยองฮาเซโย!! สวัสดีทุกคน รีวิวนี้เป็นรีวิวเเรกของผมกับการเที่ยวในต่างประเทศ วันนี้ผมจะพาไปเกาหลีใต้ และสถานที่ที่ผมจะไปนั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่มีแนวเขาที่สลับซับซ้อนแต่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี และมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก มีดอกไม้บานสะพรั่งและสวยงามทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะในฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกไม้บานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ทั้งหุบเขาจะกลายเป็นสีส้มปนแดงทั้งหุบเขา และในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนไปทั่วทั้งขุนเขา ไปจนถึงบนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมยาวนานกว่า 4 เดือน จนได้รับสมญานามว่า อุทยานแห่งชาติ 4 ฤดู หรือ สวิสเซอร์แลนด์แห่งเกาหลี และผมไปตอนช่วงเดือนธันวาคม ที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวแต่กลับไม่มีหิมะให้ดูนี่สิ แต่ไม่เป็นไร เพราะที่นั้นสวยมากจริง ๆ แม้ไม่มีหิมะ แต่อากาศโคตรหนาวสุด ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปเที่ยวกันดีกว่า!!! ในช่วงเช้าอันแสนสดใสกับอากาศ -3 องศา ในเวลา 6.00 น. ที่หมายในวันนี้คืออุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (seoraksan national park) ซึ่งวิธีการเดินทางของผมนั้น จะเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ แต่ก่อนอื่นนั้นเราต้องต้องเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวจากสถานี Hongik Univ. สาย 2 ไปลงที่ Gangbyeon เส้นทางที่เรานั้นไปขึ้นรถไฟใต้ดินนั้นจะผ่านย่านช้อปปิ้งฮงแด ซึ่งตอนเช้าไม่มีคนเลย เดินชิลเลยงานนี้ เมื่อนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Gangbyeon ให้เดินออกที่ทางออก 4 จากนั้นก็ข้ามถนนเพื่อไปยังสถานนีขนส่ง Dong Seoul Bus Terminal ซึ่งเป็นสถานนีขนส่งสายตะวันออก ใครที่หาขนส่งไม่เจอ จะสังเกตเห็นตึกใหญ่ ๆ ให้เราเดินไปทางซ้ายของตึกประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นรถทัวร์จอดอยู่เยอะ ๆ นั้นแหละถึงแล้ว รอช้าอยู่ไย ไปซื้อตั๋วกัน โดยเราจะต้องซื้อตั๋ว Dongseoul ไป Sokcho ราคาอยู่ที่คนละ 14,600 วอน ซึ่งเราได้รอบ 9.40 น. ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง อย่าลืมโหลดซีรี่ย์เกาหลีเก็บไว้ดูบนรถด้วยนะ จะได้อินกับบรรยากาศนะ นั่ง ๆ นอน ๆ ในที่สุดเราก็ถึง Sokcho โดยรถทัวร์ของเราจะจอดที่ขนส่ง Sokcho Intercity Bus Terminal ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายของรถทัวร์ ในตัวเมืองซกโช เมื่อลงจากรถแล้วเราก็ยังไม่ลิงโลดออกเที่ยวเลยนะ เราต้องซื้อตั๋วขากลับเตรียมไว้ก่อน โดยราคาขากลับจะอยู่ที่ 18,900 วอน ซึ่งเราได้รอบ 18.50 น. ค่ำเลยแหละ เมื่อได้ตั๋วกลับแล้วก็ไม่รอช้า รีบดึงไปขึ้นรถเมล์กันต่อ โดยสายที่เราจะขึ้นคือรถเมล์สาย 7 (หรือจะขึ้นสาย 7-1 ก็ได้เหมือนกัน) แต่ต้องขึ้นฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งนะ และค่ารถเมล์นั้นให้จ่ายด้วยบัตร T-Money จะสะดวกกว่า ค่ารถเมล์จะอยู่ที่ 1,000 วอน แล้วทีนี้ก็นั่งยาว ๆ จะไปถึงซอรัคซานกันเลยย (วิวข้างทางสวยมาก) ถึงแล้ววววว ซอรัคซาน ทีนี้ไปซื้อตั๋วค่าเข้าอุทยานกัน ซึ่งค่าเข้าคนละ 3,500 วอน เราเข้า 2 คน ก็เสียไป 7,000 วอน เมื่อได้ตั๋วมาแล้วก็เดินเข้าไปเที่ยวให้ฟินกันไป เดินไปสักพักก็เจอกับกระเช้ายักษ์ที่จะพาไปบนยอดเขา ตั๋วค่าขึ้นกระเช้าคนละ 11,000 วอน แอบแพงอยู่นะ แต่คิดว่านาน ๆ มาทีมันต้องลอง ก็เลยจัดไปเลยจ้าาา บอกเลยว่าวิวเทือกเขาที่นี้สวยมากนะเนี่ย ได้ข่าวมาว่าหากเรามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยกว่านี้อีก แต่นี้หน้าหนาวเลยได้เท่านี้ แถมบางจุดน้ำแข็งยังคงเกาะอยู่ตามยอดเขาอยู่เลย ถึงยอดเขาแล้ว แต่ยังไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด เพราะยังมีบันไดในเดินขึ้นไปอีก แถมข้างบนนี้หนาวมากกกก ลมก็พัดได้ตลอดดด ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้วก็ต้องขึ้นไปให้สุด เพราะผมจะต้องขึ้นบันไดขึ้นไปอีกหลายเมตรเลย และขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร ยิ่งมีลมพัดมาแรงมากขึ้นเท่านั้น นั่นจึงหมายถึงว่ายิ่งขึ้นไปสูงยิ่งโคตรหนาวจนตัวสั่นนนนนนน เมื่อเราขึ้นมาสุดทางบันไดแล้วเราก็จะถึงยอดเขาซอรัคซาน ท่ามกลางวิวเทือกเขาที่สวยงาม และลมหนาวที่สะท้านไปจนถึงตับไตไส้พุงกันเลยทีเดียว รู้สึกว่าบนนั้นผมจะลองวัดอุณหภูมิได้ประมาณ -10 องศาเซลเซียสได้ แต่เวลาลมพัดมาโดนตัว ความรู้สึกน่าจะแตะ -20 องศา ได้เลยมั้ง และนอกจากวิวบนยอดเขาจะสวยแล้วด้านล่างของซอรัคซานจะมีจุดท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งวัด ทั้งพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากก และจุดให้ถ่ายรูปอีกเยอะแยะมากมาย นี้เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของซอรัคซานเท่านั้น ที่ผมได้ไปสัมผัสมา และในอุทยานซอรัคซานนั้นยังมีจุดให้เดินป่า ปืนเขาอีกเยอะ และกิจกรรมอีกแยะ และทริปนี้ผมก็ใช้เวลาในการเดินเที่ยวซอรัคซานเพียงแค่ 1 วัน เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหากมีเวลามากกว่านี้รับรองว่าผมจะเที่ยวในซอรัคซานให้เยอะ คุ้ม จัดเต็ม ทั้งเดินป่า ปืนเขา อย่างแน่นอน และขอขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้กันด้วยนะครับ และผมขอฝากติดตามบทความของผมด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ 감사합니다. (คัมซา ฮัมนีดา) ภาพถ่ายโดย นายเต้ย (นักเขียน)